สันต์ สะตอแมน
ปิดม่านหนังอุดมการณ์ “ครูบ้านนอก” สิ้นเสียงบอกความนัยโอ้ “ไก่จ๋า”
ครู “ปิยะ ตระกูลราษฎร์” นิราศลา เด็กน้อยยังคอยหาน้ำตาริน
พระเอกหนุ่มบ้านนาผู้กล้าเก่ง นักแต่งเพลงเศร้าหวานสะท้านถิ่น
นักพากย์มวยลือลั่นชั้นอัศวิน ฝากแผ่นดินหลากล้นด้วยผลงาน
อาจารย์อภิชาติ ดำดี ได้กรุณาส่งกลอนนี้ไปให้ทางไลน์ตั้งแต่หัวเช้า พร้อมข้อความ “เสียใจด้วยครับ ปีนี้ไปกันเยอะจังครับ”
“เพื่อนรักครับ..รู้สึกเศร้า” ผมตอบไปห้วนๆ ซึ่งอาจารย์อภิชาติคงเข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสียเพื่อน (รัก) เป็นอย่างดี จึงได้หยุดการสนทนาทางไลน์เอาไว้แค่นั้น
ส่วนผมเมื่อนั่งลงจิ้มแป้นคอมพิวเตอร์ ในหัวก็คิด..จะเขียน (อาลัย) ถึงเพื่อนในมุมไหนดี (วะ) ที่ไม่ใช่การลอกประวัติตามวิกิพีเดียที่สื่อได้นำเสนอไปครบครันแล้ว?
ก็..นึกขึ้นได้ราวสักเดือนกว่าๆ คุณปิยะได้โทรศัพท์ไปหาผม พูดคุยด้วยน้ำเสียงสดใสไม่มีวี่แววของคนป่วยไข้ได้เจ็บแต่อย่างใด..
“ปรึกษาคุณหน่อยสิ” พระเอกครูบ้านนอกเริ่มต้นก่อนจะว่า.. “พอดีมีคนจะเอาครูบ้านนอกมาปัดฝุ่นทำละคร และอยากให้ผมร่วมแสดงด้วย คุณว่าควรจะรับเล่นไหม”
“ทำไมจะไม่รับเล่นล่ะ” ผมลองหยั่งเชิงถาม “ก็ในหนังผมตายแล้วนะ” เขาตอบ “เกี่ยวอะไรกันด้วย ใครจะไปจำไปรู้ว่าคุณเคยแสดงมาก่อนล่ะ..
อีกอย่าง ฉากจบหนังครูบ้านนอกก็ไม่ได้เฉลยว่าคุณตาย ซึ่งอาจจะตายก็ได้ ไม่ตายก็ได้ปล่อยให้คนดูคิด-เดาเอาเองเหมือนหนังฝรั่งหลายๆ เรื่อง”
ระหว่างคุณปิยะเงียบ-ฟัง ผมโม้ต่อ.. “นี่ ถ้าคุณจะกลับมารับเล่นเวอร์ชั่นใหม่ ก็ต้องเสนอกับผู้กำกับฯ ไปเลยว่าคุณต้องรับบทครูบ้านนอกคนเดิม ที่หลังจากถูกยิงไม่ตาย ก็ได้หายตัวไปจากหมู่บ้าน
อาจจะไปใช้ชีวิตสันโดษ หรืออะไรก็ตามที่เป็นตัวละครที่มีบทบาทอยู่ ไม่ใช่ไปเล่นเป็นแค่พ่อพระเอก-นางเอก มันไม่สมศักดิ์ศรีโว้ย”
“เออ ดีเข้าท่า” คุณปิยะเบรกและว่า.. “จะลองไปเสนอผู้กำกับดู ว่าแต่คุณเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้พบหน้ากันเลย ผมก็ไปๆ-มาๆกรุงเทพฯ-สุพรรณฯ เอาไว้ว่างๆ กินข้าวปลากัน”
และหลังจากวางสายไปแล้ว ผมกับคุณปิยะก็ไม่ติดต่อ-สื่อสารกันอีกเลย ก็นึกว่าอีกฝ่ายมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานละครเรื่องครูบ้านนอกที่คุยกันไว้
สักแอะเพื่อนไม่เคยที่จะปรารภให้ได้รู้ว่าตัวเขาเองเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ ซึ่งก็เป็นนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบรบกวนใคร กระทั่งจะกินข้าว-เลี้ยงไวน์วันคล้ายวันเกิดตัวเองแต่ละปี..
แทนที่จะโทรศัทพ์ไปบอก-ไปชวนให้ผมไปหาที่ร้านหรือที่ไหนไกล-ใกล้ คุณปิยะกลับขับรถไปหาผมเสียเอง และจะนั่งกินข้าว (ก๋วยเตี๋ยว) กันสองต่อสอง จนบางปีผมเผลอถาม..
“คุณกำลังคิดอะไรกับผมหรือ (ไอ้) พระเอกครูบ้านนอก”?
ครับ..คุยมาถึงตรงนี้ ก็ให้นึกขึ้นได้ เมื่อคืนวันจันทร์นี้เอง ผมกดดูทีวี.ช่องนั้นช่องนี้ไปเรื่อยแบบหงุดหงิดรำคาญใจ เพราะดูอะไรก็เหมือนจะไม่ถูกตา-โดนใจไปเสียหมด..
แม้แต่หนังในเน็ตฟลิกซ์ ก็ให้น่าเบื่อขึ้นมาซะงั้น!
จึงเลยเปิดดู “หนังไทยเก่า” ในช่องยูทูบ ดูเรื่องนั้นนิดเรื่องนี้หน่อย จนกดไปเจอเอาเรื่อง “สวรรค์บ้านนา” เห็นภาพคุณปิยะเข้า เลยนอนดูไป-ยิ้มไป
“ทำไมเพื่อนกูขี้เหร่จังวะ” นึกในใจ แต่ไม่ได้นึกไปว่า เพื่อนกำลังจะมาบอกลาไปชั่วนิรันดร์..วันนี้จึงใคร่ขออนุญาต “อาลัยครูบ้านนอก..
ขอให้ดวงวิญญาณ “ปิยะ ตระกูลราษฎร์”..
ได้ไปสู่สรวงสวรรค์ด้วยเทอญ!