ผักกาดหอม
จ้างร้อยแสดงล้าน….
ต้องยอมรับครับว่าฝ่ายค้านชุดนี้ขยันจริงๆ
วานนี้ (๑๗ ตุลาคม) มีประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ออกมติ ๔ เรื่อง
หนึ่งในนั้นคือ จะยื่นเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาในวันที่ ๓ พฤศจิกายน เรื่องเหตุกราดยิงที่หนองบัวลำภู และน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ
ส่วนการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติมาตรา ๑๕๒ นั้นอาจไม่ต้อง เพราะมีการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง ปัญหายาเสพติด ภัยแล้ง และอุทกภัย อยู่แล้ว
โดยจะขอเปิดอภิปรายหลังจากประชุมเอเปก
แต่ฝ่ายค้านก็มีเงื่อนไขครับ ต้องคำนึงโอกาสอยู่รอดของสภา ว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ หากมีโอกาสยุบสภาจริง จะเร่งยื่นญัตติดังกล่าวทันที
หมายความว่า หากมีกลิ่นยุบสภา ก็จะอภิปรายต้นเดือนพฤศจิกายนทันที ไม่ต้องรอหลังการประชุมเอเปก
ออกจะงงกับฝ่ายค้านชุดนี้อยู่เหมือนกับครับว่า กินอะไรต่างข้าวหรือเปล่า
เป็นไปได้หรือครับที่ “ลุงตู่” จะยุบสภาก่อนประชุมเอเปกไม่กี่วัน
ทำแบบนั้นก็บ้าแล้วครับ!
สิ่งที่ฝ่ายค้านกลัว ดูจะเป็นเรื่องยุบสภา ทั้งที่ปากเก่งไล่รัฐบาลมาเป็นปีแล้ว
ทุรนทุรายจนผิดธรรมชาติ เพราะกลัวตัวเองไม่ได้เปรียบ
ยุบสภาไม่ได้หรอกครับ กฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง ฉบับใหม่ยังไม่ประกาศใช้ เพราะตอนนี้อยู่ในขั้นตอนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
การประชุมเอเปก ยิ่งเป็นเงื่อนไขหลักว่า ยุบสภาไม่ได้เด็ดขาด จนกว่าจะเลยปลายเดือนพฤศจิกายนไปแล้ว
แต่ดูเหมือนฝ่ายค้านกลัวว่า จะไม่ได้อภิปรายเรื่อง กราดยิงที่หนองบัวลำภู เรื่องน้ำท่วม ยาเสพติด เพราะยุบสภาเสียก่อน และอาการที่แสดงออกมาดูจะเกินเหตุไปหน่อย
เผื่อประชาชนทั่วไปตามไม่ทัน
การอภิปรายในสภาช่วงใกล้เลือกตั้งคือการหาเสียงที่มีประสิทธิภาพมาก ไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องไปคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งให้ กกต.
สถานการณ์แบบนี้ เรื่องกราดยิงที่หนองบัวลำภู เรื่องน้ำท่วม เรื่องยาเสพติด เอามาด่ารัฐบาลได้หมดครับ
ส.ส.ที่ไม่เคยลุกขึ้นอภิปรายเลย ก็จะโผล่มาจ้อในทีวีรัฐสภางานนี้แหละครับ
มันต้องรีบ!
นอกจากใกล้เลือกตั้งแล้ว ใครจะไปฟังเรื่องน้ำท่วมตอนหน้าหนาว
ใครจะไปสนใจฟังเรื่องหดหู่ที่หนองบัวลำภูช่วงใกล้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่
แต่ก็กลัวยุบสภาจนหลอน
ท่าทีของฝ่ายค้านช่วงนี้จึงแทบไม่ต่างหมาบนทางด่วน
อยากจะวิ่งไปข้างหน้าเหมือนกัน แต่กลัวรถชน
จึงต้องอยู่เฉยๆ รอหลังเอเปกก่อน อย่าเพิ่งยุบสภานะ
เรื่องกราดยิงที่หนองบัวลำภู หากจะพูดในสภาต้องขีดเส้นให้ดี ถ้าเลยเถิดจนผู้สูญเสียรับไม่ได้ แทนที่จะได้คะแนน อาจได้ก้อนอิฐแทน
ประเด็นนี้รัฐบาลล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ๑ ก้าว
๑๒ ตุลาคมที่ผ่านมา “ลุงตู่” เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้กลับไปกำหนดมาตรการเร่งด่วน อย่างเป็นระบบ เป็นรูปธรรม
บูรณาการ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข
แก้ปัญหา การครอบครองอาวุธปืน การปราบยาเสพติด ตลอดจนการเยียวยาผู้เสียหายทั้งระบบ แบบครบวงจร
หากฝ่ายค้านได้อภิปราย เนื้อหาก็ไม่หนีจากนี้สักเท่าไหร่ แต่ที่เพิ่มเติมคือหาเสียงและด่ารัฐบาลไปในตัว
มาเรื่องน้ำท่วม….
ช่วงนี้เป็นโอกาสท้ายๆ ที่จะพูดถึงสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว เพราะย่างเข้าสู่หน้าหนาว แม้บางพื้นที่น้ำยังท่วมอยู่ แต่เดือนพฤศจิกายนจะมีแต่คนพูดเรื่องหนาวนี้จะไปเที่ยวไหน
ฉะนั้นไม่แปลกครับที่ฝ่ายค้านจะพยายามเปิดอภิปรายในสภาให้เร็วที่สุด
ที่จริงขณะนี้ฝ่ายค้านพยายามปั่นเรื่องน้ำท่วม ราวกับประเทศเจอมหาอุทกภัย
ฟัง “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พูดเรื่องแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมแล้วรู้สึกประหลาดใจ
“…สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยจัดวางงบประมาณโดยแบ่งเป็น ๒ กรอบ คือ กรอบป้องกันน้ำท่วม คือให้มีการเตรียมการก่อนที่น้ำจะท่วม และกรอบที่จะใช้หลังจากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว
รัฐบาลนี้ก็น่าจะผลักดันให้มีมติเหมือนสมัย คณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ คือให้จังหวัดสามารถใช้วงเงินงบประมาณได้ก่อนจะเกิดเหตุ
เช่น อาจจะวางช่องทางการระบายน้ำ การทำแผงกั้นน้ำ หรือการขุดลอกเพิ่มเติมเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สถานการณ์หนัก ในช่วงที่พายุลูกใหม่กำลังจะเข้ามานี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ควรดูแบบอย่างของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่า คนที่คิดถึงประชาชนเป็นหลักก่อนนั้น เขาทำงานกันอย่างไร…”
ให้ตายเถอะ!
ถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์คิดถึงประชาชนก่อน น้ำคงไม่ท่วมภาคกลาง กทม.และปริมณฑลยาวนานร่วม ๓ เดือนหรอกครับ
หนึ่งในความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์คือการแก้ปัญหาน้ำท่วม
เพราะการแทรกแซงโดยฝ่ายการเมือง แทนที่น้ำในเขื่อนจะถูกปล่อยอย่างเหมาะสม ในเงื่อนไขและเวลาที่เหมาะสม กลับต้องปล่อยอย่างเป็นบ้าเป็นหลังเพราะหมดโอกาสที่จะควบคุม
ครับ…ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เมื่อปี ๒๕๕๔ มาวันนี้พรรคเพื่อไทยจะให้รัฐบาลประยุทธ์ถอดแบบ
จะให้ “เอาอยู่” แบบยิ่งลักษณ์
นี่คือการเมืองก่อนการเลือกตั้ง เพื่อการหาเสียงเท่านั้น
ไม่ใช่การเมืองที่คิดถึงประชาชนแต่อย่างใด
นักการเมืองบอกว่าหมาออกลูกเป็นวัว ก็เป็นเรื่องปกติ
เพราะโกหกจนชาชิน
มีหลายสิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์ต้องไม่เอาอย่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์
นอกจากมาตรการแก้ปัญหาน้ำท่วมแล้ว การล้างผิดให้คนโกงถือเป็นเรื่องใหญ่ ปล่อยทุจริตจำนำข้าว หรือโครงการอื่นๆ อย่าทำเด็ดขาด
เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้เป็นรัฐบาลที่เป็นแบบอย่างในแทบทุกด้าน แต่พรรคเพื่อไทยยังเอามาขายได้
สงสารประชาชนจริงๆ
