ผักกาดหอม
เดินหน้าต่อไปครับ
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งคำร้องให้พิจารณา ว่าการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่สอง เป็นญัตติทั่วไป ต้องห้ามนำเสนอญัตติซ้ำอีกตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔๑ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๒ หรือไม่นั้น สรุปความสั้นๆ ได้ดังนี้ครับ
ผู้ร้องไม่ใช่บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรง ไม่อาจใช้สิทธิยื่นคำร้องเรียนได้ตามรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เมื่อมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว คำขออื่นย่อมเป็นอันตกไป
คำขออื่นก็คือให้ระงับการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน
ก็ต้องรอดูครับว่าหลังจากนี้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และพรรคก้าวไกล จะใช้ช่องทางเล่นเกมดึงเรื่องด้วยการร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้งหรือไม่ เพราะเป็นผู้ถูกละเมิดโดยตรง
ถ้ายื่นต้องไว
เพราะการโหวตนายกฯ รอบใหม่จะมีขึ้นในวันที่ ๒๒ สิงหาคม
น่าจะเหมือนคราวที่แล้วคือ…
เสนอรายชื่อเดียว
พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน”
หากไม่มีอะไรผิดพลาด “อุ๊งอิ๊ง” ไปเจอ “ทักษิณ” ที่ดูไบ แล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐ ของประเทศไทยคือ “เศรษฐา ทวีสิน”
พูดถึง “ทักษิณ” เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตั้งรัฐบาลแบบไม่เกรงใจใคร
คำให้สัมภาษณ์ พีพีทีวีของ เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มัด “ทักษิณ” ได้อยู่เหมือนกัน
ก็ข่าวที่บอกว่าไปเจอ “ทักษิณ” ที่ฮ่องกงนั่นแหละครับ
“…เจอครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผมไม่อยากพูดเพราะกลัวว่าท่านทักษิณ หรือใครก็ตามจะเสียหาย ซึ่งท่านทักษิณสนิทสนมกับผมส่วนตัว เพราะผมเคยลงสมัครพรรคไทยรักไทยปี ๒๕๔๘ ซึ่งผมก็ไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครอยู่แล้ว…”
“…บอกตามตรงว่าไม่ได้ดีลเรื่องตั้งรัฐบาล แต่ท่านถามผมว่าหลักของพรรคประชาธิปัตย์เอาอย่างไร
ผมก็พูดว่าถ้ามีพรรคแกนนำเทียบเชิญมา ไม่ว่าพรรคไหนก็ต้องมีการประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคกับ สส. มติว่าอย่างไรประชาธิปัตย์ต้องยืนยันตามมตินั้น
หากใครรับมติไม่ได้ต้องลาออกจากการเป็น สส. …”
“…ก็มีครับ แกก็พูดเชิงเล่นเชิงจริง ว่าชายหมดเวลาความขัดแย้งกันแล้ว เรามาช่วยกันพัฒนาประเทศดีกว่า ผมดูดวงแล้ว ดวงคุณกำลังขึ้นกำลังมาแรง น่าจะช่วยเหลือประเทศชาติได้
นั่นคือสิ่งที่คุยกับนายกฯ ทักษิณ…”
นั่นคือสิ่งที่คุยกัน
ก็ลองถอดความดูว่า “ทักษิณ” มีอิทธิพลต่อการตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยหรือไม่
สมควรยุบพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า
และถ้าประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลก็แสดงว่า ดวง “เดชอิศม์” กำลังขึ้นจริงๆ
แต่ดวงพรรคประชาธิปัตย์น่าจะสาหัส
นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลก็น่าตีเหลือเกิน เจอหน้า “ลุงตู่” เป็นต้องถามมีอะไรแนะนำ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค – รวมไทยสร้างชาติ” เรื่องร่วมรัฐบาลหรือเปล่า
ขืนตอบว่ามี เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง
“ลุงตู่” เป็นคนนอกแล้ว
ลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติมาร่วมเดือนแล้ว
จะแนะนำโน่นนี่นั่นไม่ได้ เดี๋ยวมีนักร้องไปร้องยุบพรรค เพราะครอบงำพรรครวมไทยสร้างชาติ มันจะยุ่งเอาน่ะสิครับ
ครับ…เขาแบ่งเค้กกันแล้ว และต้องจบก่อนโหวตเลือกนายกฯ ไม่งั้นคุยกันไม่รู้เรื่องแน่
เรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีตอนนี้ฝุ่นตลบ แต่ดูตามนโยบายแต่ละพรรคการเมืองแล้ว เพื่อไทยคงต้องยึดกระทรวงหลักๆ เอาไว้
หนึ่งในนั้นคือกระทรวงการคลัง
ที่ต้องเน้นกระทรวงนี้เพราะมาแน่นโยบายเงิน ดิจิทัล วอลเลต
แจกหัวละหมื่นบาท
คนไทยอายุ ๑๖ ปีขึ้นไปได้รับทุกคน
ใช้จ่ายในรัศมี ๔ กิโลเมตร
ใช้ให้หมดภายใน ๖ เดือน
มีคนยิ้มกริ่มกันเยอะครับ ต้นปีหน้ารับทรัพย์ก้อนโต
แต่…ขอให้รับรู้โดยทั่วกัน พรรคเพื่อไทยยังไม่เคยพูดสักคำว่า เอาเงินมาจากไหน
ทวนกันอีกครั้ง นโยบายนี้ ใช้เงินสูงถึง ๕ แสนล้านบาท
นึกถึงช่วงหาเสียงเลือกตั้งครับ พรรคที่กำลังจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ล้วนตั้งคำถามตรงกัน
เอาเงินมาจากไหน
ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังตั้งคำถามเดิมอยู่หรือเปล่า
มีแนวคิดจะบอกให้พรรคเพื่อไทยล้มเลิกความคิดหรือไม่
ตามกติกาก็คงรู้กันนะครับ เพราะหากผิดพลาดขึ้นมา คณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบร่วมกัน
หากพรรคเพื่อไทยยืนกรานไม่ถอย สิ่งแรกที่ต้องบอกประชาชนคือ เอาเงินมาจากไหน
ถ้าไม่กู้ จะเฉือนเม็ดเงินจากส่วนไหน
ถ้ากู้ ตรงนี้สำคัญมาก เพราะงบประมาณปี ๒๕๖๗ จะขาดดุลกว่า ๑ ล้านล้านบาท
ฐานะทางการคลังตกอยู่ในความเสี่ยง!
ไหนๆ ก็ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐแล้ว ถ้าจะต้องแจกจริงๆ ก็เอา “คนละครึ่ง” มาปัดฝุ่น
แจกผ่านแอปเป๋าตัง
ไม่ต้องกู้ถึง ๕ แสนล้าน เอาเงินงบประมาณปกติ ๒-๓ หมื่นล้านก็น่าจะเพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบสมน้ำสมเนื้อแล้ว
ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่ได้วิกฤต
ไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องทุ่มงบ ๕ แสนล้านละเลงกันให้หมดภายใน ๖ เดือน
อย่าเอาความรู้สึกตอนเป็นฝ่ายค้าน ที่โจมตีรัฐบาลลุงตู่ว่าทำเศรษฐกิจพัง ประเทศอยู่ในสภาวะวิกฤต ประชาชนกำลังอดอยาก
กลับใจเสียเถอะครับ
กลับใจเหมือนตอนที่บอกว่า ไล่หนูตีงูเห่า แค่หาเสียง
แต่หาเสียงจบก็จบกัน
ตอนนี้การท่องเที่ยวไทยบูมอย่างหนัก ต้องขอบคุณรัฐบาลลุงตู่เขานะครับ เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ถูกเพื่อไทยด่าไปไม่รู้เท่าไหร่
ไอ้พวกทหารมันบริหารประเทศไม่เป็นหรอก!
วันนี้ก็เห็นแล้ว นักท่องเที่ยวมากองกันอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นอันดับหนึ่งของโลก นี่คือสารตั้งต้นให้รัฐบาลเพื่อไทยเอาไปต่อยอด
หมดยุคทำประเทศเจ๊งแบบจำนำข้าวแล้วครับ
