16 พฤศจิกายน 64 – ส.ส.กรณิศ ชี้ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ช่วยพัฒนาประเทศมีเป้าหมายชัดเจน ระบุ ไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไข รธน. ฉบับประชาชนที่เสนอยุบ ส.ว. มองระบบสภาคู่ ช่วยถ่วงดุลอำนาจการบริหารประเทศ และเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยมากกว่าระบบสภาเดี่ยว
นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะสมาชิกรัฐสภา อภิปรายต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กว่า 1.3 แสนรายชื่อ ในวาระรับหลักการว่า
ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและแผนการปฏิรูปประเทศ เนื่องจากการวางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น เพื่อให้ประเทศมีทิศทางในการพัฒนาตามเป้าหมายอย่างชัดเจน เป็นการนำสรรพกำลังที่มีอยู่อย่างจำกัด ทุ่มเทไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ขณะเดียวกันจะทำให้ภาคเอกชนและต่างชาติ ที่มาลงทุนจะมาร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลต่อความมั่นคงในการลงทุน และยังส่งผลเป้าหมายการพัฒนาประเทศให้ชัดขึ้น ดังนั้น แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี จึงมีความสำคัญและจำเป็นที่ต้องขับเคลื่อนการพัฒนาและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศอย่างยั่งยืน
เป็นแผนการพัฒนาประเทศที่จะกำหนดกรอบ โดยให้ทุกภาคส่วนจัดทำแผนดำเนินการให้สอดรับกับเป้าหมายตามที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งจะทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน เพื่อผลักดันสู่เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ ภายใต้การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
นอกจากนี้ นางกรณิศ ยังกล่าวถึงประเด็นการยกเลิกวุฒิสภา โดยมองว่า การยุบหรือยกเลิกวุฒิสภาและให้ใช้ระบบสภาเดี่ยวบริหารประเทศนั้น อาจยิ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนอาจเกิดระบบเผด็จการในสภา เนื่องจากไม่มีวุฒิสภาคอยถ่วงดุลอำนาจ และกลั่นกรองกฎหมายต่าง ๆ อีกทั้งยังมีหลายประเทศมหาอำนาจที่ยังใช้ระบบสภาคู่บริหารประเทศ
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยในเรื่องอำนาจหน้าที่และที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ควรปรับแก้เฉพาะเรื่อง มากกว่าการยุบหรือยกเลิก ทั้งนี้มองว่าระบบสองสภา เหมาะสมกับสภาพสังคมไทยมากกว่าระบบสภาเดียวตามที่ผู้เสนอประสงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลง