16 พฤศจิกายน 2564-การประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ( ฉบับที่…) พุทธศักราช….. ที่เสนอโดยกลุ่ม ReSolution และประชาชนที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งร่วมกันลงรายชื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 135,247 คน โดยมีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ แกนนำกลุ่ม ReSolution และนายปิยะบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ร่วมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่วมชี้แจงเหตุผลการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา
โดยขอให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของรัฐสภา ให้เหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว, การปรับโครงสร้างศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ, การกำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส., เสนอยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อลบล้างผลพวงจากรัฐประหาร พร้อมย้ำว่าเนื้อหาที่เสนอไม่ต้องการโจมตีใครแต่ต้องการรื้อระบบที่ไม่เป็นธรรมและขอให้สมาชิกรัฐสภาลงมติรับหลักการเพื่อสร้างระบบการเมืองที่ไว้วางใจประชาชน
การอภิปรายร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ มีสมาชิกรัฐสภา ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา อภิปรายเสนอแนะจำนวนมาก โดยในส่วนของฝ่ายค้าน อภิปรายสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะผลจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 สร้างวิกฤตกระทบไปถึงเศรษฐกิจและมิติสังคม โดยเฉพาะประเด็นการสืบทอดอำนาจที่มีกลไกเขียนไว้ชัดเจนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไข
ด้าน ส.ส.รัฐบาล อภิปรายเห็นด้วยกับการลดอำนาจบทบาทหน้าที่ของ ส.ว.ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เห็นว่าข้อเสนอให้ตัดสมาชิกวุฒิสภาออกจากรัฐสภานั้นอาจเกิดความไม่รอบคอบในการกลั่นกรองกฎหมาย เพราะหลายครั้งที่สมาชิกวุฒิสภาช่วยสภาผู้แทนราษฎรในการแก้ไขกฎหมาย จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสมาชิกวุฒิสภา
ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญนี้ เพราะเป็นการรวมอำนาจไว้ที่สภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ซึ่งหลักการต้องมีการถ่วงดุลอำนาจ เพราะนอกจากมีฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลแล้ว จะต้องมีองค์กรอิสระเป็นตัวเสริมในการตรวจสอบ
สำหรับกรอบการพิจารณากำหนดไว้ 1 วัน เวลาอภิปรายฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและวุฒิสภา ฝ่ายละ 5 ชั่วโมง ผู้เสนอญัตติ 3 ชั่วโมง และนัดลงมติวาระแรกให้วันพรุ่งนี้ (17 พฤศจิกายน 2564) เวลา 10.00 น.