สันต์ สะตอแมน
ต้องขอขอบคุณผู้สื่อข่าว..
ที่ได้ช่วยกันถามคุณวิษณุ เครืองาม กับการรับเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เช่นว่า..นายกฯได้มีการให้ช่วยตรวจทานร่างคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร ซึ่งคุณวิษณุก็ชี้แจงว่า..
“เป็นธรรมดา หนีไม่พ้นต้องมีอยู่แน่.. ส่วนรายละเอียดคำชี้แจงจะเป็นอย่างไรนั้น ขอว่าอย่าเปิดเผย เดี๋ยวเสียรูปคดี ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันความเสี่ยงของนายกฯอยู่ที่ 50:50 นั้น ตนไม่ทราบ
หรือจะคำถาม..เหตุผลอะไรที่เข้ามาช่วยนายกฯ ทั้งที่มีปัญหาสุขภาพ และหลายคนมองว่ามีอะไรมากกว่ามาช่วยนายกฯ
คุณวิษณุก็ได้ตอบ.. “ตนคิดหนักอยู่แล้วว่าเหมือนคนไม่เจียมตัว แต่เห็นใจนายกฯ ได้ยกเหตุผลอะไรหลายอย่างให้ฟัง แต่คิดว่ามาช่วยท่านสักระยะหนึ่ง
คงไม่น่าทำให้ตัวเองเกิดอันตรายอะไร และไม่น่าเป็นผลเสียอะไรต่อประเทศชาติด้วย..”
อีกคำถาม..เหตุผลที่มารับตำแหน่ง เงินก็มีแล้ว เกียรติยศก็มีแล้ว ยังต้องการอะไรอีก
ที่ปรึกษานายกฯชี้แจงว่า.. “ผมคิดว่าประเทศชาติต้องการคนช่วยแก้ปัญหา คนเล็กๆ คนหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาลในบางเรื่องที่มีข้อสงสัย..”
นักข่าวถามอีกว่า..ตอนรับตำแหน่งมีเงื่อนไขอะไรบ้าง คุณวิษณุตอบว่า.. “มี เป็นเงื่อนไขเล็กๆ แต่ขออย่าเล่า ไม่ใช่เงื่อนไขเกี่ยวกับตน
เป็นเงื่อนไขที่นายกฯ ใช้คำว่าเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างนายกฯ กับตน”
เนี่ย..จะช่วยคลายความสงสัย หรือจะยิ่งเพิ่มความระแวง-กังขาก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละท่าน สำหรับผมไม่มีอะไรติดใจ และหวังว่าคุณวิษณุจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาให้นายกฯได้
เพราะลองสารภาพว่า “เห็นใจ” และยังมี “เงื่อนไข” ต่อกันแล้ว ก็ต้องพยายามทุกวิถีทาง (กฏหมาย) เพื่อให้นายกฯหลุดรอดบ่วงนี้ไปจนได้!
แม้จะถูกนินทาว่าร้าย..ใช้ความรู้ ประสบการณ์ช่วยเหลือคนทำความผิด (ถ้านายกฯไม่กลัวผิด คุณพิชิตก็ไม่ต้องชิงลาออก) ก็ไม่สน ต้องหาช่อง-หารูช่วยสุดฤทธิ์!
ส่วนจะเกิดผลเสียต่อประเทศหรือไม่นั้น เอาไว้ได้เห็นกันวันข้างหน้า เป็นห่วงก็เพียงว่า คุณวิษณุจะรับผิดชอบอย่างไร ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นในอนาคต?
อ้อ..แต่เรื่องนี้ไม่เสียหาย มีแต่ได้ประโยชน์โพดผล ผมหมายถึงข่าวบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องฮอลลีวู้ด เลือกโลเกชั่น จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง ..
เพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังฟอร์มยักษ์เรื่อง Jurassic world 4 ในปลายเดือนนี้!
นี่..ก็เห็นต้องยกความดีความชอบให้กับ “ทีมไทยแลนด์” ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาครัฐ ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพาณิชย์
ที่ได้ลงทุน-ลงแรง ขนผู้ประกอบการภาพยนตร์ และคอนเทนต์ไทย ไปออกบูธกิจกรรม จับคู่เจรจาการค้า พบปะแลกเปลี่ยนไอเดีย เสนอโปรเจกต์ และเจรจาซื้อขาย
ในงานเทศกาล “ภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกมาเป็นประจำทุกปี!
อย่างปีนี้-2024 ครั้งที่ 77 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป “ทีมไทยแลนด์” ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ฟังจากคุณยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม คุยว่า..
“ในแต่ละปีจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย มีตัวเลขมูลค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าร่วมงานนี้..
ปีนี้ถือเป็นปีทองของประเทศไทย การเปิดคูหาประเทศไทย เป็นไปอย่างคึกคัก มีคนในแวดวงภาพยนตร์ต่างชาติแวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย มากกว่า 600 ราย..
ความสนใจเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ขณะนี้มีจำนวนมากถึง 27 เรื่อง คาดการณ์ว่าจะนำเงินลงทุนกว่า 3,700 ล้านบาท โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกามากถึง 8 เรื่อง
ครับ..ก็เป็นที่น่ายินดีกับชาวกระบี่-ตรังที่ช่วยรักษาธรรมชาติให้ต่างชาติได้หลงใหล แห่เข้ามาทั้งท่องเที่ยว ทั้งถ่ายทำหนัง..
ยังงี้..ซอฟต์พาวเวอร์รึเปล่า ไม่รู้นะ!