“พิชัย” เตือน “ประยุทธ์” อย่าหลอกตัวเอง มรดกประยุทธ์ เป็นภาระของคนรุ่นหลังที่ต้องมาใช้หนี้ต่อ “เลิศศักดิ์” จี้ “ประยุทธ์” เร่งลดภาระพี่น้องประชาชน และลดต้นทุนภาคธุรกิจจากภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงปัญหาราคาน้ำมัน ไฟฟ้า และ ก๊าซ
“จุฑาพร” ชี้ เงินเฟ้อรุนแรง ค่าครองชีพสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น รายได้คนไทยขึ้นไม่ทันรายจ่าย รัฐแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยบัตรคนจน
25 ตุลาคม 2565-นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่กระแสความนิยมของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตกต่ำอย่างสุดขีด หลังจากถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่และกลับมาทำงานใหม่
ขนาดตลกยังนำความล้มเหลวและข้อบกพร่องของพลเอกประยุทธ์ มาล้อเลียนในทอล์กโชว์จนเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโซเชียล ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของคนส่วนใหญ่
แต่แทนที่พลเอกประยุทธ์ จะรู้ตัวและแก้ไข กลับส่งคนออกมาโต้ และล่าสุดถึงขนาดให้คนของตัวเองออกมาอวยตัวเองว่าทำได้ดีทิ้งมรดกความเจริญรุ่งเรื่องให้กับประเทศซึ่งต่างกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น จึงอยากให้ข้อมูลความจริงที่พลเอกประยุทธ์ ได้ทิ้งมรดกที่เหมือนกับตราบาปของคนไทยไว้ 8 เรื่องดังนี้
ในช่วงที่พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศ ประเทศไทยพัฒนาน้อยที่สุด จากตัวเลขการเจริญเติบโตที่ต่ำมาตลอด ประเทศไทยได้ฉายาเป็นคนป่วยของเอเชีย และถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงทุกด้าน เป็นมรดกความตกต่ำทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
เป็นช่วงที่ประเทศก่อหนี้มากสุด แต่ประเทศไม่พัฒนา มีหนี้สาธารณะทะลุ 10 ล้านล้าน กู้เงินมากที่สุด แต่เศรษฐกิจขยายต่ำสุด ลูกหลานต้องมาใช้หนี้กว่า 5 ล้านล้านบาท หรือกว่า 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงสุดด้วย
อีกทั้งประชาชนก็มีหนี้ครัวเรือนสูงสุดประมาณ 15 ล้านล้านบาท หนี้เสีย และหนี้นอกระบบสูงที่สุดด้วย เป็นมรดกหนี้ล้นทะลักสำหรับคนไทย
ค่าครองชีพแพงสุด ทั้งราคาสินค้าและบริการ ราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ และราคาไฟฟ้าแพงที่สุด เงินเฟ้อมากสุด แต่รายได้ของคนไทยไม่เพิ่มแถมลดลง อีกทั้งพอราคาสินค้าปรับขึ้นแล้วจะไม่มีการปรับลดอีก เป็นมรดกสินค้าแพงสำหรับคนไทย
ความสามารถแข่งขันของไทยที่ลดลง โครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมถอย การพัฒนาด้านต่างๆที่ล้าหลัง เป็นการจัดอันดับโดยองค์กรระหว่างประเทศ เป็นมรดกความเสื่อมถอยของประเทศไทย
อุตสาหกรรมที่เริ่มล้าสมัย ไม่มีการลงทุนใหม่ๆ นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศขาดความมั่นใจและขาดความเชื่อถือ ไปลงทุนประเทศอื่นกันหมด ทำให้การลงทุนของไทยหดหายลดลงมาตลอด เป็นมรดกที่คนรุ่นหลังต้องจำใจต้องรับต่อมา
คนจนพุ่ง คนตกงานเพิ่มมาก คนฆ่าตัวตายมากที่สุด แถมยังมีคนตายกลางถนนในช่วงวิกฤตโควิด มีทหารและตำรวจกราดยิงประชาชน ปัญหาต่างๆ เหล่านี้คือมรดกของปัญหาที่ทิ้งไว้ให้
การทุจริตคอรัปชั่น ตามดัชนีวัดขององค์กรสากล การส่งเสริมการผูกขาด การเอื้อประโยชน์แก่เจ้าสัว ซึ่งจะทำให้คนรุ่นต่อไปพัฒนาและก้าวขึ้นมาต่อยาก
การปิดกั้นความคิดเห็น การปิดปากห้ามวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล การจับคนเห็นต่าง การปรับทัศนคติของคนจำนวนมาก ซึ่งผมเองก็โดนมาเอง พอปิดกั้นความคิดเห็นและการแสดงออกก็จะไปปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เรื่องใหม่ๆ ธุรกิจสมัยใหม่ และนี่เป็นมรดกของการกดขี่ของประเทศไทย
นี่เป็น 8 มรดกของพลเอกประยุทธ์ ที่ส่งมอบต่อให้กับคนรุ่นต่อไปของประเทศไทย ซึ่งเป็นเหมือนตราบาป ยิ่งอยู่นานประเทศไทยยิ่งเสื่อมถอย ดังนั้นการที่เข้าใจไปเองว่าเป็นมรดกความเจริญรุ่งเรืองน่าจะเป็นความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง และควรจะต้องละอายใจและสำนึกได้แล้ว
แนวทางแก้ไขก็จะต้องทำตรงข้ามกับที่พลเอกประยุทธ์ ทำไว้ทั้งหมด โดยต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้จีดีพีโต โดยต้องทำนโยบายหลายๆ ด้านไปพร้อมๆ กัน โดยต้องสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของประเทศให้กลับมาโดยเร็ว การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ สร้างธุรกิจทางเทคโนโลยีใหม่ๆ การปรับประเทศเข้าสู่ระบบดิจิตอล การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศพัฒนาสามารถเดินต่อไปได้
“เลิศศักดิ์” จี้ “ประยุทธ์” เร่งลดภาระพี่น้องประชาชน และลดต้นทุนภาคธุรกิจจากภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงปัญหาราคาน้ำมัน ไฟฟ้า และ ก๊าซ ชี้ พลังงานแพงเป็นสาเหตุเงินเฟ้อสูง แนะ เร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.เลย กรรมการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งลดภาระของพี่น้องประชาชน และลดต้นทุนภาคธุรกิจจากภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงปัญหาราคาน้ำมัน ไฟฟ้า และก๊าซ
ชี้ พลังงานแพงเป็นสาเหตุเงินเฟ้อสูง แนะ เร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ มรดกประยุทธ์ที่ส่งต่อความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน และโดยเฉพาะภาคธุรกิจ คือการออกกฎหมายภาษีดินและสิ่งปลูกสร้างโดยไม่รอบครอบ และบังคับใช้ในเวลาที่ไม่เหมาะสม ทั้งที่ช่วงหลังโควิดควรเป็นช่วงเวลาที่รัฐต้องช่วยผู้ประกอบการฟื้นฟูกิจการให้แข็งแรงพอที่จะเติบโตต่อไปได้
แต่รัฐบาลเลือกที่จะบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้เต็มรูปแบบจนเป็นภาระต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะภาคธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่ต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก ที่ดินว่างเปล่าของคนรวยในเขตเมืองที่ควรจะสร้างประโยชน์ กลับไม่ต้องจ่ายภาษี เพียงแค่ปลูกมะม่วงมะนาวก็ถือว่าเป็นที่ดินเพื่อการเกษตร
ในขณะที่ล่าสุดผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันที่ต้องเสียภาษีตัวอาคารสถานีบริการน้ำมัน อาคารค้าปลีก ห้องน้ำและอื่นๆ อยู่แล้ว และผู้ประกอบการได้ขอให้ทบทวนการจัดเก็บภาษีบริเวณถนน ลาน รั้ว ซึ่งจะได้ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจได้บ้าง
แต่ก็ได้รับการปฎิเสธจากกรรมการภาษี และกระทรวงมหาดไทย จึงเป็นกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐเลือกที่จะจัดเก็บภาษีในช่วงเวลาที่ไม่เหมะสม สร้างภาระให้กับภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ ยังมีภาระหลักที่รัฐบาลนี้ไม่มีความพยายามที่จะแก้ไข เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจ ดังที่ได้เคยอภิปรายญัตติไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฏรเรื่องราคาน้ำมันโดยเฉพาะเรื่องราคาหน้าโรงกลั่นของไทยที่มีราคาสูงกว่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์และสูงกว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่โรงกลั่นไทยส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งเป็นการเอาเปรียบคนไทยที่ต้องซื้อราคาที่แพงกว่า ทั้งที่ต้นทุนการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางส่งมาไทยและส่งมาสิงคโปร์ก็เท่ากัน ประสิทธิภาพการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันของไทยกับสิงคโปร์ก็ใกล้เคียงกัน อีกทั้งโรงกลั่นไทยยังขยายการกลั่นเป็นแสนๆ บาเรลต่อวัน เพื่อส่งออกโดยเฉพาะแสดงว่าราคาส่งออกก็ต้องกำไรมากแล้ว
การคิดราคาหน้าโรงกลั่นไทยสูงกว่าราคาสิงคโปร์จึงเป็นการเอาเปรียบประชาชนไทยมากเกินไป นอกจากนี้ค่าการตลาดของน้ำมันยังมีราคาสูงทั้งที่รัฐบาลบอกเองว่าไม่ควรเกินลิตรละ 1.40 บาท ก็ขอให้เร่งดำเนินการ
อีกเรื่องที่เป็นปัญหาและเป็นภาระของประชาชนอย่างมากคือราคาไฟฟ้าที่สูงขึ้นมาก ล่าสุดราคาไฟฟ้าขึ้นราคาจากหน่วยละ 4 บาท เป็น หน่วยละ 4.72 บาท และยังมีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาอีก เพราะ กฟผ. ยังมีค่าเชื้อเพลิงติดลบจากการบริหารค่าเชื้อเพลิงที่ผิดพลาดของรัฐบาลเป็นจำนวนกว่าแสนล้านบาท
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาต้นทุนเชื่อเพลิงการผลิตไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นในการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต ปัจจุบันราคาไฟฟ้าของไทยแพงกว่าราคาไฟฟ้าของเวียดนามอย่างมาก ซึ่งทำให้ความสามารถแข่งขันของไทยและความน่าลงทุนของไทยลดลงมาก จึงอยากเรียกร้องให้เร่งแก้ไขทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว รวมถึงการเจรจาแหล่งพลงงานในพื้นที่ทับซ้อนในทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา
รวมถึงราคาก๊าซหุงต้มที่พุงขึ้นอย่างมาก ราคาขึ่นจาก 318 บาท/ ถัง 15 กก. ในตอนต้นปีได้พุ่งขึ้นเป็น 408 บาท:/ ถัง 15 กก. หรือขึ้นกว่า 28% ซึ่งรัฐบาลสามารถลดราคาก๊าซได้โดยเรียกเก็บจากก๊าซที่ส่งเข้าธุรกิจปิโตรเคมี ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคยทำมาแล้ว แต่ถูกยกเลิกไปหลังปฏิวัติ
ทั้งนี้ราคาพลังงานเป็นต้นทุนของสินค้าทุกชนิด และเป็นต้นทุนค่าขนส่งของสินค้าด้วย เมื่อราคาพลังงานแพง สินค้าทุกชนิดจึงขึ้นราคาตาม และทำให้เกิดเงินเฟ้อสูงมาก เหมือนในปัจจุบัน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ได้ปรับโครงสร้างราคาของพลังงานทั้งระบบเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน และลดค่าใช้จ่ายของประชาชนที่กำลังลำบากกันอย่างมากในปัจจุบัน
“จุฑาพร” ชี้ เงินเฟ้อรุนแรง ค่าครองชีพสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น รายได้คนไทยขึ้นไม่ทันรายจ่าย รัฐแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยบัตรคนจน สะท้อน คนรุ่นใหม่ท้อ โอกาสสร้างตัวยาก แนะ เร่งเพิ่มทักษะให้ทันโลกที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางรัก และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาเงินเฟ้อมีความรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนไทย เนื่องจากราคาข้าวของ สินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพสูง แต่รายได้ และค่าแรงปรับตัวขึ้นไม่ทันรายจ่ายที่ประชาชนต้องแบกรับ
แม้เงินเฟ้อเดือนกันยายนจะปรับตัวต่ำลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 6.41% แต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่ ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการขึ้นราคาพลังงาน และอาหารสด ขณะนี้พื้นที่ทางการเกษตรของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรเป็นอย่างมาก
อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนกันยายนอยู่ที่ 8.2% เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากเดือนสิงหาคมที่ 8.3% ซึ่งถือว่ายังสูงอยู่ ธนาคารกลางสหรัฐ ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ขึ้นติดต่อกันของปีนี้ และภายในสิ้นปีนี้ คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ จะขึ้นดอกเบี้ยอีกราว 1.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 4.25-4.50 % หากเงินเฟ้อในสหรัฐยังไม่ลด และไทยเอง ธนาคารแห่งประเทศไทย โดย กนง. ก็มีแนวโน้มสูงที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยตามอีกครั้งในการประชุมกนง.เดือนหน้า การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้เงินเฟ้อ จะเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนมากขึ้น
ปัญหาเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อ กระทบคนทุกรุ่น แต่คนเจน Z น่าเป็นห่วงสุด เพราะจะเข้าสู่ตลาดแรงงานในภาวะเศรษฐกิจถดถอย โอกาสในการสร้างความมั่งคั่งน้อยกว่าคนรุ่นก่อนมาก กว่า 1 ใน 3 กังวลปัญหาค่าครองชีพมากที่สุด และโอกาสในการออมเงินเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ ทำได้ยากกว่าคนรุ่นก่อน เพราะราคาที่สูงขึ้น แต่รายได้ยังต่ำ เพิ่มความเครียด และก่อให้เกิดอาการหมดไฟในคนกลุ่มนี้ได้ง่าย เพื่อไทยพร้อมสนับสนุน คนรุ่นใหม่ให้พัฒนาทักษะ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจยุคหลังโควิด 19
ภายในสิ้นเดือนนี้ คาดมีประชาชนลงทะเบียนบัตรคนจนเกิน 23 ล้านคน ทำให้ 1 ใน 3 ของคนไทยเป็นคนจน ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ความเหลื่อมล้ำในสังคมเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะกระทบการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สร้างปัญหาสังคม และปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมาในภายหลัง
ทั้งนี้ การแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน เป็นคุณสมบัติของผู้นำที่ดี นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลิส ทรัส ประกาสลาออกภายหลังดำรงตำแหน่งได้เพียง 45 วัน เพราะไม่สามารถแก้วิกฤตเศรษฐกิจของอังกฤษได้ และที่ผ่านมายังมีผู้นำของโลกอีกหลายท่านที่ประกาศลาออกหลังดำเนินนโบบลายล้มเหลว เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน หากแต่ผู้นำของเราศึกษาจากท่านอื่นที่เป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว ประเทศของเราคงไม่บอบช้ำอย่างเช่นที่เป็นที่อยู่ทุกวันนี้
ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้ดูตัวอย่างความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวและยินยอมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการบริหารประเทศโดยเร็วเพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาต่อไปได้ อย่าให้มรดกของพลเอกประยุทธ์ เป็นตราบาปให้กับคนไทยมากกว่านี้