3 มีนาคม 2566 รายการสนธิ ทอล์ค นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้นำเสนอเรื่องราวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ในหัวข้อ “ชูวิทย์ อย่ามาทะลึ่งกับผม” ทาง ตอนหนึ่งว่า 20 ปีที่แล้ว มีชายฉกรรจ์นับร้อยคน บุกรื้อบาร์เบียร์ หกสิบร้าน บริเวณสุขุมวิทสแคว์ เป็นการว่าจ้างโดยกลุ่มนายทุน ที่จะเอาพื้นที่ไปทำประโยชน์ทางธุรกิจ พนักงานสอบสวนส่งฟ้อง หนึ่งในนั้นมีชื่อของนายชูวิทย์ ต่อมาอัยการสั่งฟ้อง ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อกล่าวหา ทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกเวลากลางคืน กักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจ ศาลชั้นต้นยกฟ้อง
ต่อมาศาลอุทรณ์ ตัดสินว่ามีการกระทำผิดจริง จำคุกนายชูวิทย์ และพันตรีหิมาลัย (ผิดพรรณ) 5 ปี ไม่รอลงอาญา แต่ศาลฎีกา บรรเทาโทษเหลือจำคุก 2 ปี ติดจริง ไม่ถึง 1 ปี โดยศาลเห็นว่านายชูวิทย์ และพวกได้จ่ายค่าชดเชยความเสียหายแล้ว และมีการให้พื้นที่พิพาทไปใช้ประโยชน์เป็นสวนสาธารณะ ศาลมองว่า สำนึกผิด ส่วนที่ดิน จะให้เป็นปอด กทม. มีการเปิดสวนชูวิทย์ใหญ่โต เพื่อให้เป็นตัวอย่างว่า คนมีเงินเป็นหมื่นล้าน แสนล้านบาท ตายไป ก็เอาอะไรไปไม่ได้ ศาลบรรเทาโทษให้ เพราะเห็นว่าสำนึกผิด
“แต่ปัจจุบัน สวนนั้น ไม่มีแล้ว พื้นที่ดังกล่าวนำใช้ประโยชน์เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางธุรกิจ เป็น เทนธ์ อเวนิว พื้นที่ มิกซ์ยูส (Mixed-Use) มูลค่านับหมื่นล้านบาท พัฒนา บริหารการขาย โดยเดิม คอร์เปอเร่ชั่ และบริษัท ในกลุ่มครอบครัวกมลวิศิษฏ์ จำไว้ พื้นที่บาร์เบียร์ ที่ให้ไว้เป็นสวนสาธารณะ เพื่อลดโทษคำพิพากษา มีผลเป็นที่ดินสาธารณะ เพียงไม่กี่ปี พอตัวเองออกมาก็ยุบสวน มาทำประโยชน์ให้ตัวเอง นี่คือสันดานที่แท้จริงของคุณหรือไม่? ซึ่งการที่ให้สัญญากับศาล ว่าจะให้ที่ดินมาทำสวนสาธารณะ ไม่กำหนดระยะเวลา ที่ดิน มันควรเป็นของ กทม. คุณชูวิทย์อย่าปากว่าตาขยิบ”
นอกจากนี้ในรายการยังระบุถึงร้านกัญชา CHUWEED BAR ที่อยู่โรงแรมเดียวกับคนในตระกูลเป็นเจ้าของ และมีนายชูวิทย์ กับลูก ปรากฎอยู่ในร้าน ซึ่งย้อนแย้งกับที่มาแสดงหน้าทำเนียบ ในการประกาศตัวไม่เอากัญชา ห่วงเก็กนักเรียนเสพสูบ แต่ในร้านดังกล่าวมีการขายช่อดอกกัญชาจากต่างประเทศ
