พรรค “ก้าวไกล” ยื่นสภาขอแก้ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ห้ามผู้ปกครองลงโทษทารุณบุตร 

www.plewseengern.com

ปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย กานต์ ภัสริน รามวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร และ พนิดา มงคลสวัสดิ์  ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ

ยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567 (2) ต่อสภาผู้แทนราษฎร จากเดิมที่กำหนดให้ผู้ปกครองมีสิทธิลงโทษบุตรได้ตามสมควร เปิดช่องให้เกิดการทำร้ายหรือการเฆี่ยนตี จนเกิดอันตรายต่อเด็ก

แก้เป็นการจำกัดสิทธิในการลงโทษ ห้ามทารุณทำร้าย เฆี่ยนตี หรือทำโทษอันด้อยค่าบุตร หวังทำให้เด็กได้รับการปกป้องจากความรุนแรงและได้พัฒนาเต็มศักยภาพ

“ร่างกฎหมายนี้เป็นความตั้งใจของนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ได้ยกร่างขึ้นหลังจากเห็นข่าวเด็กหญิงอายุ 2 ปี ถูกบิดาเลี้ยงทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดในจังหวัดพิษณุโลก

แต่เนื่องจากนายณัฐวุฒิฯ อยู่ในระหว่างรักษาโรคโควิด ไม่สามารถมาแถลงข่าวด้วยตนเอง จึงได้มอบให้ตนเป็นผู้แถลงแทน และหากเราติดตามข่าว จะเห็นข่าวเด็กถูกบิดามารดาหรือผู้ปกครองทำร้ายด้วยความรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง โดยเข้าใจว่าพวกเขามีสิทธิจะลงโทษบุตร ดังที่ปรากฏใน ปพพ.ม.1567 (2) ปัจจุบันที่ว่า “ผู้ปกครองมีสิทธิทำโทษบุตรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอนตามสมควร”

สอดคล้องสุภาษิตในอดีตที่กล่าวว่ารักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี แต่หลายครั้งวิธีการลงโทษจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจกลับกลายเป็นการทารุณที่ส่งผลต่อร่างกายหรือจิตใจ เฆี่ยนตีอย่างไม่ยั้ง หรือทำให้เด็กรู้สึกตนเองด้อยค่า นำไปสู่การบาดเจ็บ เสียชีวิต และที่สำคัญส่งผลต่อการที่เด็กจะไปสร้างความรุนแรงต่อในระยะยาว” ปดิพัทธ์ระบุ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เองก็ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และได้ยกร่างแก้ไข ปพพ. มาตรา 1567 (2) ไว้ในทำนองจำกัดสิทธิของผู้ปกครองในการลงโทษบุตร พร้อมทั้งได้ส่งเรื่องให้กระทรวงยุติธรรมร่วมพิจารณามาตั้งแต่ปี 2559 แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด

ทางพรรคก้าวไกลจึงได้ยกร่างและรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน เข้าชื่อเสนอขอแก้ไข ปพพ.มาตรา 1567 (2) เปลี่ยนจากข้อความเดิมเป็น “ทำโทษบุตรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอนตามสมควร แต่ต้องไม่เป็นการกระทำทารุณกรรมหรือทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ ไม่เป็นการเฆี่ยนตี หรือทำโทษอื่นใดอันเป็นการด้อยค่า” เพื่อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร

โดยหวังว่าสภาฯ จะเร่งการพิจารณาให้ทันในสมัยประชุมหน้า แสดงถึงความตั้งใจในการปกป้องเด็กทุกคนจากความรุนแรง โดยเฉพาะความรุนแรงในบ้าน

ภัสริน รามวงศ์ ยังได้แถลงเพิ่มเติมว่า “นอกจากจะเป็นการแก้ กม.เพื่อปกป้องเด็กแล้ว การแก้ กม.นี้ยังสอดคล้องกับหลักการในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก และข้อเสนอแนะของนานาประเทศต่อไทยภายใต้กลไก Universal Periodic Review หรือ UPR รอบที่ 2 (พ.ศ.2559 ถึง พ.ศ. 2563) ที่รัฐบาลไทยยอมรับว่าจะเร่งในการปรับแก้ กม.ดังกล่าว แต่ก็เนิ่นช้าเกินกรอบเวลามากว่า 2 ปีแล้ว

ไม่เหมือนกับกรณีการปรับแก้ กม.อาญา เรื่องปรับเกณฑ์อายุความรับผิด จาก 10 ปี เป็น 12 ปี ที่รัฐบาลได้เร่งดำเนินการไปก่อนหน้านี้ การแก้ กม.เพียงมาตราเดียวไม่ใช่เรื่องยาก แต่สะท้อนว่า รบ.จริงใจในการแก้ปัญหาหรือไม่มากกว่า และหากมีการแก้ ปพพ.ม. 1567 (2) ได้จริง เราเองก็จะได้รับการยอมรับจากนานาประเทศมากขึ้นในด้านสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ การยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในครั้งนี้มิได้กำหนดว่าจะห้ามมิให้ผู้ปกครองลงโทษบุตรอย่างเด็ดขาด แต่จะเป็นการสร้างความตระหนักรับรู้ใหม่ว่าการที่เด็กอาจกระทำความผิดหรือมีพฤติกรรมที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องว่ากล่าวสั่งสอนนั้น มีวิธีการที่จะแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กได้อย่างหลากหลาย

ทั้งการเสริมวินัยเชิงบวก การให้คำปรึกษาอย่างรับฟังและเข้าใจ การทำให้เด็กเห็นพฤติกรรมตัวอย่างที่ดีจากผู้อื่นโดยเฉพาะคนเป็นพ่อแม่ โดยจะต้องเข้าใจต่อพัฒนาการและปัญหาของเด็กเป็นรายบุคคล ซึ่งภายใต้ พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ถือเป็นหน้าที่ของหลายหน่วยงานที่จะต้องช่วยกันทำความเข้าใจและส่งเสริมให้ผู้ปกครองทำหน้าที่ในการดูแลเด็กได้อย่างเหมาะสม

“เราตระหนักถึงความยากลำบากของผู้ปกครองที่จะจัดการเวลาที่เด็กๆ มีปัญหาพฤติกรรม แต่หากไม่มีการจำกัดสิทธิในการทำโทษนั้น จะเกิดผลร้ายทั้งต่อเด็กและสังคมมากกว่า การแก้ไขเฉพาะ ปพพ.มาตราเดียว มิได้ตอบโจท์การแก้ปัญหาทั้งหมด และยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ

ทั้งการรณรงค์ การสร้างวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหมาะสม ระบบที่เอื้อและสนับสนุนผู้ปกครอง แต่สำหรับ ‘เด็ก’ แล้ว เรื่องของเขาเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ และเราได้ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นนานเกินไปแล้ว พรรคก้าวไกลจึงหวังปักหมุดหมายและสร้างความเปลี่ยนแปลงเป็น #รักลูกต้องไม่ตี เหมือนดังที่ทุกคนเคยช่วยกันใน #สุราก้าวหน้า และ #สมรสเท่าเทียม มาก่อนหน้านี้แล้ว” ปดิพัทธ์กล่าวในที่สุด


Written By
More from pp
“ดำรง พุฒตาล เล่าผ่านไลน์” อิทธิพลของโควิดที่เข้าไปป่วน การแข่งขันเทนนิส US Open ที่มหานครนิวยอร์ก (3)
ดำรงพุฒตาลเล่าผ่านไลน์ ผมขอโหนกระแสและเล่าวนอยู่ กับการแข่งขันเทนนิส ระดับโลกคือ US Open ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีโรคระบาดโควิด 19 เข้ามาป่วน อย่างที่รู้ๆกันอยู่
Read More
0 replies on “พรรค “ก้าวไกล” ยื่นสภาขอแก้ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ห้ามผู้ปกครองลงโทษทารุณบุตร ”