นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมผู้บริหารกระทรวง และ นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตคลองเตย , นายสรวุฒิ เนื่องจํานงค์ ส.ส.ชลบุรี และนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ชุมชนคลองเตย เขตคลองเตย กทม. แจกหน้ากากผ้า แอลกอฮอล์ล้างมือ และถุงยังชีพ กว่า 500 ชุด ให้กับประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พร้อมกับได้เดินเยี่ยมชุมชน และเติมของใส่ตู้ปันสุข โชว์ ช่วยอุดหนุนร้านค้า มาใส่ตู้ปันสุข เผย กระทรวงอุตฯ แจกหน้ากากผ้า เกือบครบแล้ว แย้ม หากยังต้องการอีก จะหาทางแจกเพิ่ม ปัดตอบการเมือง ได้แต่ยิ้มสี่กุมารตั้งพรรคใหม่ ลั่น ไม่ใช่เวลาเหมาะสมพูดการเมือง ชี้ โพลต่างๆขอให้ช่วยประชาชนก่อน
นายสุริยะ แสดงความห่วงใยประชาชน โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำรวจร้านค้าในชุมชนอย่างเร่งด่วน และให้สนับสนุนสิ่งของมาเติมที่ตู้ปันสุข เพราะนอกจากจะได้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือร้านค้าด้วย
จากนั้นนายสุริยะ ได้มอบถุงยังชีพแก่ผู้ป่วยติดเตียง ก่อนจะเยี่ยมชมโครงการจากกองพลพัฒนาที่ 1 ที่ได้นำกำลังพลมาสร้างบ้านเรือนให้แก่ผู้ยากไร้ พร้อมระบุการลงพื้นที่วันนี้ เนื่องจากประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รัฐบาล โดยกระทรวงอุตสาหกรรม จึงหาทางดูแลประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เห็นความสำคัญในการป้องกัน จึงได้จัดทำหน้ากากผ้า และแจกจ่ายให้กับประชาชน ซึ่งเป็นไปตามที่ นายกรัฐมนตรี ได้จัดสรรงบประมาณให้ 65 ล้านบาท ส่วนในอนาคตหากยังมีความต้องการอยู่ ยืนยันว่า ก็ต้องหาทางแจกเพิ่มเติม
นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐที่มีชื่อกลุ่มสามมิตรเข้าไปเกี่ยวข้อง ว่าขณะนี้ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการพูดเรื่องการเมือง เพราะประชาชนยังได้รับความเดืดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่
ส่วนที่มีกระแสข่าว นายอนุชา นาคาศัย จะนั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคนั้น นายสุริยะ ย้ำว่า ขณะนี้ขอให้อยู่ในโหมดช่วยเหลือประชาชนดีกว่า ส่วนตัวเข้าใจว่าสื่อมวลชนต้องการนำเสนอเรื่องการเมืองเพื่อให้มีสีสัน แต่ขณะนี้ โพลต่างๆ ก็ชี้แล้วว่า อยากให้ดูแลประชาชนก่อนที่จะพูดการเมือง ดังนั้นจึงขออนุญาตไม่พูดเรื่องการเมือง เนื่องจากเป็นเวลาลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน
นายสุริยะ ยังไม่ตอบกรณีที่มีกระแสรายงานข่าวการตั้งพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มที่สนับสนุนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หรือที่สื่อมวลชนให้ฉายาว่ากลุ่มสี่กุมาร โดยได้แต่ยิ้ม และลงพื้นที่พบประชาชนต่อทันที