18 สิงหาคม ที่อาคารรัฐสภา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงกระทู้ถามสดของนายชูชีพ เอื้อการณ์ สมาชิกวุฒิสภา กรณีผลกระทบจากการค้าปลีกข้ามชาติประเภท “ค้าปลีกศูนย์เหรียญ” โดยยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับการแก้ไขปัญหานี้ เนื่องจากมีผลกระทบทั้งต่อเศรษฐกิจ การจัดเก็บภาษี คุณภาพสินค้า และความเป็นธรรมในการแข่งขัน
นายสุชาติกล่าวว่า รัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรี และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับอย่างชัดเจนให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการปราบปรามธุรกิจนอมินี การป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี และการควบคุมคุณภาพสินค้าที่จำหน่ายในร้านค้าปลีกศูนย์เหรียญ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความสบายใจและมั่นใจว่ารัฐบาลยืนเคียงข้างประชาชนและผู้ประกอบการไทย
ในการกำกับดูแลธุรกิจต่างชาติ รัฐบาลใช้กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ควบคุมการอนุญาตอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่อยู่ในบัญชีสามซึ่งต้องได้รับอนุญาต อีกทั้งยังได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นรองประธาน เพื่อบูรณาการทำงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมา ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้วกว่า 871 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 15,000 ล้านบาท และกำลังตรวจสอบผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีกกว่า 46,000 รายทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากร ได้เร่งรัดมาตรการจัดเก็บภาษี โดยบังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องส่งข้อมูลรายได้เพื่อใช้ตรวจสอบ ป้องกันการโอนเงินออกนอกประเทศโดยไม่เสียภาษี
ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งตรวจสอบโรงงาน ผู้นำเข้า คลังสินค้า และร้านค้าปลีก หากพบว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐานหรือผิดกฎหมายจะถูกยึดและดำเนินคดี ล่าสุดตรวจยึดสินค้าไม่ได้มาตรฐานมูลค่ากว่า 931 ล้านบาท พร้อมเปิดช่องทางร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน “Traffy Fondue” เพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแสสินค้าที่ไม่ปลอดภัยได้โดยตรง
นายสุชาติย้ำว่า รัฐบาลจะเดินหน้ามาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อปกป้องผู้บริโภค สร้างความเป็นธรรมทางการค้า และเสริมความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการไทย