ผักกาดหอม
เวลา “ลุงตู่” ให้รัฐมนตรีพาณิชย์ตอบเรื่องสินค้าราคาแพงในสภา ฝ่ายค้านพากันโวยวาย ถามนายกฯ รัฐมนตรีพาณิชย์ไม่ต้องสอเสือใส่เกือกมาตอบแทน
ทั้งๆ ที่ บุคคลที่ตอบคำถามแทนเป็นคนที่รับผิดชอบงานโดยตรง
จะเกิดกรณีเช่นนี้ในสภาบ่อยครั้งครับ
การตั้งกระทู้บางครั้งถามไม่ตรงกับคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ก็เหมารวมเข่งว่านายกฯ ต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง
หรือแม้กระทั่งเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ “ลุงตู่” ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมตอบคำถามแทน อยู่ในข่ายที่สามารถทำได้
และไม่น่าเกลียด
แต่การที่ “ช่อ พรรณิการ์” มาตอบเรื่องส่วนตัว คือการฉีดวัคซีน แทน “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ฟังแล้วมันทะแม่งๆ ชอบกล
วานนี้ (๑๐ มกราคม) “ธนาธร” โพสต์เฟซบุ๊ก…แต่เปล่าครับ ไม่ได้ชี้แจงเรื่อง ฉีดวัคซีน ไปโน้นเลยครับ
“๑๐ สถานการณ์น่าจับตาเมื่อโลกปรับ-การเมืองเปลี่ยน”
…ปี ๒๐๒๒ เริ่มเดือนแรกก็ร้อนระอุด้วยการระบาดระลอกใหม่ของโควิดทั่วโลก เหมือนเป็นสัญญาณว่านี่จะเป็นอีก ๑ ปีแห่งความยากลำบากและสถานการณ์ที่ผันผวนไม่แน่นอน แต่ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณสุขและเศรษฐกิจเท่านั้นที่ผันผวน การเมืองของหลายๆ ประเทศก็เปลี่ยนขั้วสลับข้าง ส่งผลสะเทือนต่อโลกอย่างมีนัยสำคัญ
ผมขอเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการคาดการณ์ ๑๐ สถานการณ์ที่จะเกิด (และจะไม่เกิด) ในปี ๒๐๒๒ ทั้งการเมืองมหาอำนาจ เศรษฐกิจ เทคโนโลยี การเงิน ไปจนถึงกีฬาและบันเทิง การคาดการณ์นี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ตามความคิดเห็นของผมในฐานะผู้สนใจสถานการณ์โลก มันอาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้ทุกท่านได้อ่าน เพื่อเตรียมรับมือกับปี ๒๐๒๒ ที่จะเข้มข้นร้อนแรงตลอดทั้งปี…
ส่วนรายละเอียดอยู่ในเฟซบุ๊กธนาธร ครับ รู้ทุกเรื่องตั้งแต่เศรษฐกิจโลก ยันมนุษย์ค้างคาว
ยกเว้นไม่พูดเรื่องตัวเอง
ก็คุ้นๆ เหมือนไปชี้แจงศาลว่า “ผมไม่รู้” ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องตัวเอง
แต่คราวนี้ให้ “ช่อ พรรณิการ์” รับหน้าชี้แจงแทน
“…ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ รัฐบาลกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันดีเดย์ฉีดวัคซีนแห่งชาติ มีการเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์หลายช่องทางล่วงหน้า โดยเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้กับชาวไทยทุกคนที่มีอายุมากกว่า ๑๘ ปีขึ้นไปในวันที่ ๗ มิถุนายน
โดยเฉพาะในพื้นที่ระบาดสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะฉะนั้น ข้อกล่าวหาที่บอกว่า ดิชั้นและคุณธนาธร แย่งวัคซีนคนแก่ จึงไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้ คุณธนาธร ได้เดินทางเข้ารับวัคซีนเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และดิชั้นได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔
หากดูจากสถิติที่รวบรวมโดยกระทรวง อว. ณ วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ระบุว่า ในจำนวนประชาชนทั้งหมดที่ได้รับวัคซีน ๕๐% เป็นประชาชนทั่วไปในพื้นที่เสี่ยง
ตามด้วยผู้สูงอายุ ๒๐% และคนกลุ่ม ๗ โรคเสี่ยง ๗%
ส่วนสถิติรายจังหวัด ประชาชนในกรุงเทพฯ ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว ๔๕% ขณะที่สมุทรปราการฉีดไป ๒๔%
เพราะฉะนั้น คนที่ฉีดวัคซีนในเดือนกรกฎาคม จึงเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนกลุ่มใหญ่ที่รับวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล จะเรียกว่าเป็นวีไอพี หรือแซงคิวใครไม่ได้
คุณธนาธรเป็นคนแรกที่บอกว่าวัคซีนคือทางออกเดียวของวิกฤตโควิด ประชาชนต้องได้วัคซีนเร็วที่สุด และคุณภาพดีที่สุด ไม่เคยมีสักคำเดียวที่บอกว่าวัคซีนไม่ดี หรือไม่ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีน
การที่คุณธนาธรออกมาทักท้วงการบริหารวัคซีนของรัฐบาล เพราะเชื่อว่าการแทงม้าตัวเดียวเสี่ยงกับแอสตร้าเซนเนก้ายี่ห้อเดียว ทำให้ประชาชนเสี่ยงเกินไป ได้วัคซีนช้าเกินไป
นอกจากนี้จะเห็นว่าคุณธนาธรและ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ช่วยสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนมาโดยตลอด
และในวันนี้เวลาก็พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่คุณธนาธรพูดเป็นจริง กว่าคนไทยจะได้ฉีดวัคซีน mRNA ก็ปลายปี ๒๕๖๔ ทำให้ไทยสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาล ฟื้นตัวตามประเทศอื่นไม่ทัน
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าการบริโภคใช้จ่ายในประเทศ และการท่องเที่ยว จะกลับมาสู่ภาวะปกติ
การเปิดข้อมูลเหล่านี้ทำอย่างเป็นระบบผ่านขบวนการไอโอและสื่อมวลชนบางกลุ่ม ข้อมูลจะออกมาไม่ได้เลยหากรัฐไม่ใช่ผู้ปล่อย
หมายความว่าข้อมูลส่วนตัวของคนไทยในมือรัฐไม่ปลอดภัยเลย
วันใดรัฐมองว่าคนไหนเป็นศัตรู ก็พร้อมเอาข้อมูลเหล่านี้มาเปิดเผยเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้น
เรื่องนี้นอกจากจะผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ยังอยากให้ประชาชนช่วยกันถามกลับไปยังรัฐบาลว่า ในช่วงเวลาที่ประเทศเผชิญปัญหารุมเร้ารอบด้านเช่นนี้ ควรหรือที่รัฐบาลจะหมกมุ่นใช้ทรัพยากรรัฐไปกับการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง
และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณเป็นพิเศษในการเสพข่าวจากสื่อกลุ่มนี้ ที่บิดเบือนใส่ร้ายคนของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลซ้ำๆ ซากๆ มาโดยตลอด…”
ประการแรกต้องชื่นชม “ช่อ” ว่า ให้เครดิตนโยบายรัฐบาลเรื่อง เร่งฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่เสี่ยงก่อน และตัวเองรวมทั้ง “ธนาธร” ทำตามนโยบายรัฐบาล แต่โดยดี ด้วยการไปฉีดวัคซีน
ข้ออ้างเรื่องฉีดวัคซีนพื้นที่เสี่ยง พอฟังขึ้นครับ
แล้วบ้านของ “ธนาธร” อยู่ที่ไหน ทำไมถึงฉีดวัคซีนที่สมุทรปราการ
การเลือกตั้งวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ “ธนาธร” พาภรรยาเข้าคูหาที่ เต็นท์บริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง ๒ ถนนรามคำแหง ๒ หน่วยเลือกตั้ง ๓๓ แขวงดอกไม้ เขตเลือกตั้งที่ ๒๐ ประเวศ บางนา กรุงเทพมหานคร
เป็นไปได้ว่า “ธนาธร” และครอบครัวกินนอนในโรงงาน ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงใช้สิทธิ์ฉีดวัคซีนที่นั่น
แต่ก็ยังเป็นปริศนาตัวโตๆ ทำไม “ธนาธร” ไม่รอฉีด ไฟเซอร์, โมเดอร์นา ที่เชื่อว่ามีประสิทธิภาพป้องกันโควิดได้ดีกว่า
การบอกว่า “ธนาธร ” เป็นคนแรกที่บอกว่าวัคซีนคือทางออกเดียวของวิกฤตโควิด ประเด็นนี้เป็นการยกก้น “ธนาธร” มากเกินไปจนน่าเกลียด
ในประเทศไทยมีการพูดถึงวัคซีนก่อนที่ “ธนาธร” จะฉลาดหลังหวยออก อยู่หลายเดือน
มีการพูดถึงวัคซีน ทำดีลวัคซีน ตั้งแต่โลกนี้ยังไม่มีวัคซีนออกจำหน่าย
ประเด็นที่ว่าทำไมวัคซีนเทพมาช่วงปลายปี ๒๕๖๔ ก็อธิบายกันไปยืดยาวแล้ว คิดว่าคนที่ยังไม่เข้าใจคือคนที่ไม่อยากเข้าใจมากกว่า
ส่วนเรื่อง “ไอโอ” เหนือความคาดหมายจริงๆ “ช่อ-พรรณิการ์” นำไอโอมาผูกกับทุกเรื่อง แทบจะเรียกได้ว่า คิดอะไรไม่ออกก็บอกว่าเป็นไอโอไปเสียหมด
มาถึงประเด็นสำคัญ จริงหรือไม่ที่ “ธนาธร” ไม่เคยพูดสักคำเดียวที่บอกว่าวัคซีนไม่ดี หรือไม่ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีน
จริงครับ “ธนาธร” ไม่เคยพูดแบบนั้นตรงๆ
แต่ “ธนาธร” ย้ำหลายๆ ครั้งกับหลายๆ ประโยค
“วัคซีนที่ดีต่อให้แพงแค่ไหนก็ถูกกว่าการเยียวยาแน่นอน ดังนั้น การซื้อวัคซีนที่ดีที่มันป้องกันได้”
“มีวัคซีนให้ประชาชนเลือกน้อยเกินไป”
หรือแม้กระทั่ง “ช่อ พรรณิการ์” เองก็ด้อยค่า ซิโนแวค
“…ใครที่คิดว่าวัคซีนอะไรก็เหมือนๆ กัน โปรดเข้าใจว่าซิโนแวคซึ่งมีประสิทธิภาพประมาณ ๕๐% ในการป้องกันโรค ย่อมไม่สามารถทำให้เกิดภูมิต้านทานหมู่ได้
ในขณะที่อิสราเอล สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนให้ประชากรด้วยอัตราใกล้เคียงกัน และไม่เจอระบาดซ้ำ เพราะฉีดไฟเซอร์ โมเดอร์นาเป็นหลัก…”
ยังมีอีกเยอะครับ สิ่งที่พูดในอดีตจะตามมาหลอกหลอนปัจจุบัน