ต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อน?-สันต์ สะตอแมน

ผสมโรง

สันต์ สะตอแมน

กองเซ็นเซอร์ ไม่มีแล้ว!

ฉะนั้น ที่คุณพชร์ อานนท์ อ้าง.. “เราจะเอาฉากที่ถูกกองเซ็นเซอร์ ตัดออกมาให้ดูกัน เพราะหนังหอแต๋วแตกเซ็นเซอร์ผ่านฉลุย พร้อมฉายแล้ว ธันวา เจ้มาแน่จึ้งมาก”

จึ้ง..เอ๊ยจึงน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หรือไม่ก็ไม่ได้รู้เอาเลยว่า..จากการแก้ไขปรับปรุง พระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ.๒๕๕๑

โดยเฉพาะในส่วนของการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ ได้เปลี่ยนจากการตรวจพิจารณาในระบบการ “เซ็นเซอร์” มาเป็นการจัดแบ่งประเภทภาพยนตร์..

หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “เรตติ้งภาพยนตร์” (RATING) และใช้มาตั้งแต่ปี 2552นู้น!

ความจริง สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ก็ได้จัดพิมพ์หนังสือ “คู่มือการตรวจพิจารณาภาพยนตร์” ขึ้นมาด้วย

จุดประสงค์ เพื่อให้คณะกรรมการฯ เอาไว้ใช้ประกอบการพิจารณาภาพยนตร์ และเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์ ตลอดทั้งประชาชน ผู้ปกครอง คนดูหนัง..

 ได้ดู-ได้ทำความเข้าใจในหลักเกณฑ์ และวิธีการกำหนดลักษณะภาพยนตร์ ว่าจัดอยู่ประเภทไหน ใน 7 ประเภท อันมี..

1.ภาพยนตร์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้และควรส่งเสริมให้มีการดู 2.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ดูทั่วไป 3.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่สิบสามปีขึ้นไป

4.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่สิบห้าปีขึ้นไป 5.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่สิบแปดปีขึ้นไป 6.ภาพยนตร์ที่ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีดู 7.ภาพยนตร์ที่ห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักร

แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด ดูเหมือนหนังสือคู่มือที่ว่านี้จะไม่ได้กระจายไปอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการภาพยนตร์..

คุณพชร์จึงเลยยังเข้าใจอยู่ว่า คณะกรรมการที่ (ขอ) ให้ขลิบฉากของพระมหาไพรวัลย์ ที่ร่วมแสดงในภาพยนตร์ “หอแต๋วแตก แหกโควิด ปังปุริเย่” เป็นกองเซ็นเซอร์!

และที่คุณพชร์ ซึ่งเป็นทั้งผู้สร้าง-ผู้กำกับภาพยนตร์ พูดว่า “คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ” มีอยู่หลายสาขานั้น ก็น่าจะเป็นความเข้าใจผิด เพราะที่ถูกแล้ว..

คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มีอยู่ 7 คณะ คณะละ 7 ท่าน มาจากภาครัฐ 4 ท่าน จากภาคเอกชน 3 ท่าน ลงนามโดยรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม

ส่วนเหตุผลที่คณะกรรมการ (ไม่ทราบคณะไหน) ตัดฉากที่ว่านี้ออกไป เท่าที่ฟังจากคุณพชร์ ด้วยเพราะมหาไพรวัลย์เป็น “พระจริง” เล่นหนังไม่ได้!

ซึ่งก็ถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรม ไม่เห็นจะต้องมีดราม่าให้หนวกหู-รำคาญ เพราะคุณพชร์เองก็บอก.. “ฉากนี้ไม่ได้มีส่วนสำคัญกับหนัง มีอยู่ก็ได้ ไม่อยู่ก็ได้” ขลิบทิ้งไปก็ถือว่าจบ!

นี่..ต่อไปก็ขอให้ยึดเป็นบรรทัดฐาน “พระจริง” ต้องห้ามปรากฏตัวในฉากหนัง-ละครไม่ว่าจะกี่วิ-กี่นาที หรือให้ดี รายการทีวี.ประเภทวาไรตี้สนุกโปกฮา ก็ไม่ควรนิมนต์พระไปเล่น-ไปหัว!

เอ้า..ขลิบพระ (จริง) ทิ้งไปไม่มีเหลืออยู่ในหนังแล้ว ก็เห็นจะหมดความกระอักกระอ่วนงั้นก็ขอเชิญชวนไปดูหนัง “หอแต๋วแตกแหกโควิดฯ” กันเถอะนะ

อย่าคิดไปก่อนว่าเป็นหนังบ้าๆ บอๆ เวลานี้อะไรที่พอทำให้สบายใจ ยิ้มได้ หัวเราะได้..

ต้องรีบคว้าแล้วล่ะ!


Written By
More from pp
โฆษกรัฐบาลชี้แจง การดำเนินคดี ม.112 เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมาย
วันที่ 19 ธันวาคม 2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ OHCHR ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการใช้...
Read More
0 replies on “ต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อน?-สันต์ สะตอแมน”