บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) จำกัด ผู้ให้บริการสนับสนุนบริการทางการแพทย์และธุรกิจโรงพยาบาล ชี้แจงชุดน้ำยาการตรวจวิเคราะห์หาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Real-time RT-PCR ที่ทางห้องปฏิบัติการของบริษัทฯ ใช้ในการตรวจวิเคราะห์หาเชื้อ มีประสิทธิภาพในการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ โอไมครอนได้
ทั้งนี้ ห้องปฏิบัติการ N Health ได้ทวนสอบไปยังผู้ผลิตน้ำยาการตรวจวิเคราะห์เชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธีการ Real-time RT-PCR ที่ทางบริษัทฯใช้อยู่ และได้รับการยืนยันว่า น้ำยาที่ใช้สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ โดยน้ำยาที่ใช้เป็นการตรวจจีโนมของเชื้อไวรัส 2 หรือ 3 ตำแหน่งยีน โดยยีนที่เป็นเป้าหมายในการตรวจจะอยู่ในยีนตำแหน่งต่างๆ เช่น M, N, S, E, Orf1ab หรือ RdRP โดยการที่ตรวจหา 2 หรือ 3 ตำแหน่งยีน ก็เพื่อเป็นการยืนยันผลบวกหรือลบ หรืออย่างน้อยหากตรวจพบเพียง 1 ตำแหน่งยีน ก็จะสามารถทวนสอบหรือตรวจทวนสอบหรือตรวจซ้ำก่อนรายงานผลได้
หลังจากพบการระบาดครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้ และระบาดไปยังหลายประเทศ อาทิ บอตสวานา เบลเยียม ฮ่องกง อิสราเอล อังกฤษ เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก สกอตแลนด์ ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variants of Concern) เนื่องจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน มีตำแหน่งการกลายพันธุ์ของยีนมากถึง 50 ตำแหน่ง ซึ่งอาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ แม้ว่าจะฉีดวัคซีนแล้ว อย่างไรก็ตามห้องปฏิบัติการ N Health ก็มีความพร้อมและสามารถให้บริการ ตรวจหาและระบุสายพันธุ์ที่น่ากังวลของเชื้อโควิด-19 (Variants of Concern) ได้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ แนวทางในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ที่ดีที่สุดคือการ ฉีดวัคซีน แม้จะไม่ครอบคุลมการป้องกันในทุกสายพันธุ์รวมถึงสายพันธุ์โอไมครอนก็ตาม แต่เพื่อลดความรุนแรงของอาการจากการติดเชื้อ รวมไปถึงยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย พกเจลล้างมือตลอดเวลา เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มโดยไม่จำเป็น เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นการป้องกันโรคได้ดีที่สุด