ผักกาดหอม
การเมืองช่วงนี้ไม่ใช่ฝุ่นตลบครับ
แต่เฉอะแฉะ เหนอะหนะ เขยอะขยะ ดูแล้วหาความสุนทรีย์ไม่ได้เลย
แค่ต้องการตำแหน่ง ต้องการอำนาจ นักการเมืองก็พร้อมก้มหัวทำได้ทุกอย่าง
อดนึกถึงการต่อสู้กับระบอบทักษิณในช่วงเวลาที่ผ่านมาร่วมๆ ๒๐ ปีไม่ได้
มีประชาชนต้องเสียชีวิตเพราะยึดมั่นในอุดมการณ์ บ้างก็บาดเจ็บทุพพลภาพ หลายคนยังมีชีวิตอยู่ถึง ณ วันนี้ เห็นการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้ พวกเขาคิดอย่างไร
นักการเมืองเคยเดินเข้าหา แล้วเข้าไปไถ่ถามกันบ้างหรือเปล่า
ครับ…การตั้งรัฐบาลคงต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า ๑ สัปดาห์ สาเหตุก็อย่างที่เห็น พอขึ้นต้นด้วยประโยคที่ว่า ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ขาสั่นกันหมด!
โดยเฉพาะนายกฯ อุ๊งอิ๊งสั่นมากกว่าใคร
รัฐมนตรีรายไหนมีปัญหา นายกฯ ก็ไปด้วย
น้ำท่วมแถวภาคเหนือมาหลายวันแล้ว เห็นนักการเมืองยกโขยงไปช่วยชาวบ้าน ก็ต้องปรบมือชื่นชมครับ ยามชาวบ้านทุกข์ยาก ต้องการที่พึ่ง นักการเมืองส่วนใหญ่มีสรรพกำลัง สามารถช่วยได้เยอะ
แต่นักการเมืองบางคนก็พลาดครับ
บางคนพอให้อภัยได้ เพราะตื่นเต้น ไม่รู้
ขณะบางคนไม่น่าให้อภัยเลย เพราะวิธีคิดวิปริต
๒๒ สิงหาคมที่ผ่านมา “แพทองธาร ชินวัตร” โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า
“…ดิฉันได้ติดตามข่าวน้ำท่วมในภาคเหนือโดยเฉพาะน่าน เชียงราย และพะเยา อย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นห่วงและกังวลใจ ต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่
แม้ว่าขณะนี้ ดิฉันจะยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างกระบวนก่อนการเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ได้ส่งผ่านความห่วงกังวลนี้ไปยังท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีในขณะนี้ ซึ่งคุณภูมิธรรม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ มีความห่วงกังวลเช่นเดียวกัน จึงได้สั่งการให้ระดมความช่วยเหลือให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาทุกข์แก่พี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วน รวมทั้งวางแผนฟื้นฟูความเสียหายด้วยแล้ว
ดิฉันทราบว่าคุณสุริยะ รองนายกรัฐมนตรี ก็ทราบถึงความห่วงกังวลของดิฉัน และท่านเองก็เป็นห่วงพี่น้องประชาชนเช่นกัน ได้มอบหมายให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท จัดเจ้าหน้าที่ลงช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก ติดตามสถานการณ์ ๒๔ ชั่วโมงค่ะ
ดิฉันขอส่งกำลังใจ แก่ผู้ประสบภัยทุกครอบครัวและเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังขณะนี้ค่ะ…”
คือ…จริงๆ วันนั้น นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ไปได้
ไม่ว่าจะในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปช่วยเหลือเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ไม่ต้องรอถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนก็ไปได้
เห็นมั้ยครับ พอรู้ว่าพลาด ลงพื้นที่ใหญ่เลย
ผัดข้าวโดยไม่ต้องจุดเตาก็มีให้เห็น
ทำเป็นเล่นไป นี่คือความมหัศจรรย์ของการเมืองไทย
แต่ก็มีอยู่คนหนึ่ง ไม่รู้ชาวบ้านจะให้อภัยอย่างไร
ก็ “พี่เท้ง” ของผมนี่แหละครับ
วันก่อน “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน ไปปราศรัยเลือกนายก อบจ.ราชบุรี พูดถึงน้ำท่วม โซเชียลเขาแชร์กันแทบล่ม
จะขวางคลองไปถึงไหน
“พี่เท้ง” แกบอกแบบนี้ครับ
“…ตั้งแต่ก้าวไกล อนาคตใหม่ จนถึงพรรคประชาชนในปัจจุบัน เราลงพื้นที่หาพ่อแม่พี่น้องประชาชน เราลงพื้นที่ไม่ได้เอาของไปแจก ไม่ได้สร้างระบบบุญคุณอุปถัมภ์ แต่เราลงไปพบประชาชนเพื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน นี่คือหน้าที่ของผู้แทนราษฎรใช่ไม่ใช่
พี่น้องครับเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือที่ผ่านมา ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราลงไปรับฟังเสียงสะท้อน มองเข้าไปในดวงตาของพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบ วันนี้เราอยู่ภายใต้กฎหมายเลือกตั้ง อยู่ในช่วง ๑๘๐ วันก่อนการเลือกตั้ง อบจ.ในต้นปีหน้า
ดังนั้นการแจกสิ่งของแบบนี้ กฎกติกาเลือกตั้งแบบนี้แหละครับพี่น้อง ที่เป็นอุปสรรคให้ตัวแทนของประชาชน ลงไปทำอะไรก็ต้องระมัดระวัง เพราะเค้าจ้องเล่นงานเราอยู่ กฎหมายแบบนี้แหละครับที่ทำให้เรายังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องได้อย่างเต็มที่…”
ไม่รู้จะพูดถึงท่อนไหนก่อนดี
ระดับหัวหน้าพรรคการเมือง คิดได้แค่นี้หรือครับ
มีผู้ใช้ แพลตฟอร์ม X ที่ใช้ชื่อ “อาร์ต ตะวัน โฟโต้” พูดถึง “พี่เท้ง” ไว้น่าสนใจอย่างยิ่ง
“…หลังจากที่ฟังคุณเท้งหัวหน้าพรรค people ไม่อยากจะใช้คำว่าพรรคประชาชนเลย มันรู้สึกกระดาก มันเหมือนพูดถึงตัวเอง ทั้งที่เราไม่ใช่องคาพยพของเค้า แต่ว่าเค้าก็ใช้ชื่อที่มันเหมือนเอาเราไปผูกโยงด้วย ก็เลยไม่อยากจะใช้คำว่าพรรคประชาชนเท่าไหร่
หลังจากที่ฟังคุณเท้งพูดเกี่ยวกับการลงพื้นที่ ก็จะงงแกพูดถึงอะไร แต่ถ้าจะให้ย่อยออกมาฟังง่ายๆ ก็คือ ผมลงพื้นที่นะ แต่ผมไม่เอาอะไรไปแจก ไม่เอาอะไรไปให้แม้ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องทนทุกข์กับสภาพของอุทกภัย
คือผมเชื่อว่าประชาชนไม่ได้ไปคาดหวังอะไรกับนักการเมืองหรอกนะ ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน แต่เมื่อมันถึงคราจนประชาชนก็ไม่รู้ว่าในสถานการณ์ที่ต้องไปเผชิญกับน้ำท่วมและไปไหนไม่ได้ จะไปเอาอะไรที่ไหนกิน
โอเค ถ้าคุณจะลงไปแล้วไปสวัสดีครับ ผมเท้ง เป็นหัวหน้าพรรคปีโป้แล้วก็เดินผ่านไป คุณจะทำอย่างนั้นก็ได้นะครับ ในขณะที่ประชาชนที่เลือกคุณกำลังท้องหิว ไม่รู้ว่าข้าวมันจะมาตอนไหน
คือมันไม่ใช่เรื่องของบุญคุณ มันเป็นเรื่องของน้ำใจ มันไม่ใช่ทุกคนที่เราได้รับสิ่งของจากเขา แล้วมันจะกลายเป็นบุญคุณ มันมีคำอื่นตั้งเยอะแยะ ความรู้สึกอื่นตั้งเยอะแยะ มีน้ำใจต่อกัน มีความเอื้อเฟื้อต่อกัน มันไม่ใช่เรื่องของบุญคุณอะไรเลย
ย่อยง่ายๆ เลยนะ พูดภาษาชาวบ้าน ถ้าผมลงพื้นที่ สิ่งเดียวที่จะเกิดขึ้นก็คือผมไปเปิดรับบริจาคจากคุณ แต่ผมไม่มีให้อะไรกระเด็นไปให้คุณสักบาทเดียว
ถ้ามันอยู่ในสถานการณ์ปกติ ไม่มีชาวบ้านคนไหน ที่เขาจะแบมือขอ คุณเท้ง ไหนๆ คุณเท้งมาลงพื้นที่แล้ว ขอข้าวกินสักกล่อง มันไม่มีหรอกครับ แต่นี่อยู่ในสถานการณ์วิกฤตไง อยู่บนหลังคาบ้านงี้ อยู่บนบ้านที่หมาก็ยังไม่ได้กินข้าว ลูกเด็กเล็กแดงก็ยังไม่ได้กินข้าว แล้วมันมีพรรคการเมืองที่เค้าเที่ยวเอาข้าว เอาอาหาร เอาของแห้งไปแจก แต่คุณไม่ไปแจก แล้วไม่มีใครพูดสักคำว่าคุณต้องไปแจก การพูดแบบนี้มันแสดงถึงการร้อนตัวของคุณเอง ว่าไอ้การที่ชั้นเป็นคนขี้เหนียว เป็นพรรคการเมืองขี้เหนียว ไปงานบวช งานแต่ง ก็ไปห่อข้าวกลับมา จะไม่เอาซองไปให้เค้าแม้แต่บาทเดียว
โอเคสรุปคือมึงขี้เหนียว พรรคมึงขี้เหนียว พรรคมึงไม่อยากกระเด็นสักบาท แม้จะเพิ่งไปรับบริจาคมา ๒๐ ล้าน ประชาชนไม่เคยมาเอ่ยขอสักคำว่า เอ้ยมึงไปช่วยน้ำท่วมหน่อยสิ เอาเงินที่บริจาคตรงนี้ไปหุงข้าว ผัดข้าวผัดเอาไปแจกชาวบ้านสักหน่อย ไม่มีใครขอเลย…”
มายเซต “พี่เท้ง” เป็นปัญหาระดับโลกเลยนะครับ เพราะนักการเมืองแทบจะทุกชาติล้วนเอาของกิน น้ำ อาหารแห้งไปแจกประชาชนผู้ประสบอุทกภัยกันทั้งนั้น
ก็มีแต่ “พี่เท้ง” นี่แหละครับไม่ยอมแจก กลับไปโทษว่ากฎหมายไม่ให้แจก ต้องไปแก้กฎหมาย
วิบัติทั้งความคิดและการกระทำ