เปลว สีเงิน
“น้ำท่วมชีวามิวางวาย ทักษิณไม่มาซิตายแน่”
เมื่อวาน “คนเชียงราย” ที่อ.เทิง
จึง “รอดตาย”!
เพราะคุณพ่อจอมจุ้น “บินมือเปล่า” ไปให้ชาวบ้านที่นั่นได้ไหว้วานคลานกราบผู้ “มีบารมีเหนือคุก” แถมเป็น “ผู้ครอบครองนายกฯ” คนที่ ๓๑
ก็เป็นที่อิ่มอก-อิ่มใจกัน
ส่วน “เรื่องอิ่มปาก-อิ่มท้อง” ไม่เป็นไร เดี๋ยวทหารและหน่วยบริการอาสาทั้งหลาย
เขาก็เอาข้าวปลาอาหาร, ถุงยังชีพเทินหัว ลอยคอมาประเคนให้ถึงหน้าต่างหรือหลังคาบ้านเองแหละ!
ไม่อีกทาง ไปทางไหนๆ ก็มี “โรงครัวพระราชทาน” บริการทั้งหวาน-ทั้งคาว
ขึ้นชื่อว่าคนไทย “ไม่เคยปรากฏ” ถูกทอดทิ้งให้อดตาย
ประชาชนคนประเทศไหน ที่จะโชคดีเหมือนคนไทย “ใต้ร่มพระบารมี” …หาไปเถอะ
ทั้ง ๗ ทวีป หาเจอประเทศไหน ทวีปไหน ที่ไม่ใช่เมืองไทย ทวีปเอเชีย…บอกด้วย ผมจะไปกราบแผ่นดิน!
พูดถึงทักษิณ ใครๆ อิจฉา แต่ผม “สงสาร “เขานะ
เหมือนคนวิญญานออกจากร่างใหม่ๆ ยังไม่รู้สำนึก ทั้งยังไม่รู้ จะจุติไปอยู่ ณ ภพใด-สถานะใด-ที่ไหน?
ก็ยังเริงร่า ด้วยหลงกาล-หลงเวลา-หลงภพ-หลงสถานะ จนเข้าสู่วันที่ ๓ วันที่ ๗…….
แค่สะดุดใบหญ้า หนังก็ถลอก เลือด-น้ำหนองไหล ถึงรู้ตัวว่า “ตายแล้ว”!
“ยัง กัมมัง กะริสสันติ, กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา,ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ”
“ทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป ต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆ ต้องไปตามเส้นทางกรรมนั้น สืบไป”
ตอนนั้นแหละ จะเริงร่า-โศกา-โสกี ไปไย หามีประโยชน์ไม่ สัตว์ต้องตายเพราะหลงเหยื่อ ฉันใด
คนโลภ คนหลง คนคดโกง เงินและอำนาจ จะฉุดให้ลงนรกทั้งตอนเป็นและทั้งหลังตาย ฉันนั้น
ครอบครองนายกฯ ครอบครองพรรค ครอบครองการตั้งรัฐบาล ก็ครอบครองไป
แล้วเตรียมตัวไว้ให้ดีด้วย เพราะอีกไม่นานหลังจากนี้
ผู้ “ครอบครอง” จะถูก “ครอบครอง” ตามเส้นทางกฎหมายชนิดต้อง ร้อง…โฮกกก…เอ๋ง..เอ๋ง..เอ๋ง!
แม้กระทั่ง “ผู้ยอมให้” ครอบครอง ทั้งคน ทั้งนิติบุคคลด้วย!
ถ้าถามว่า จะเห็นสิ่งนี้เมื่อไหร่?
ก็รอให้รัฐบาลเพื่อไทยที่มี “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกฯ คลอดครม.เข้าบริหารประเทศซะก่อน
แล้ว “สิ่งนั้น” ก็จะได้เห็นกัน!
เคยคุยกันไปแล้ว ว่า “ครม.อุ๊งอิ๊ง” ที่คิดกันว่า “คลอดง่าย” แค่นั่งยองๆ ก็ไหลพรวด
แล้วไงล่ะตอนนี้ แผน “เอาตำแหน่งล่อ” หวังทำลายพรรคอื่นให้แตก แยกเอาก๊วน-เอาแก๊งจากพรรคนั้นๆ รวบมารวมเป็นบริวารอยู่ใต้ตีนพรรคเดียว
อย่างที่เคยทำปี ๔๔ และปี ๔๘ นั่นน่ะ!
เห็น “ลุงป้อม” กระเดกๆ เป็น “ขุนพลเดี้ยง” อย่างนั้นเถอะ ที่หวังจะกำจัดให้พ้นเส้นทางนั้นน่ะ…ถึงไม่ยาก
แต่มันก็ “ไม่ง่าย” อย่างที่คิด
“เสือ” น่ะ มันตายเพราะ “ลาย” ที่หนัง
แต่ลุงป้อม ประเภท “เสือซ่อนลาย” ไม่อย่างนั้น ป.เดียว คือ ป.ป้อม ที่เหลือหนึ่งเดียวคนนี้ จะอยู่ได้ถึงวันนี้หรือ?
“ทำแท้ง” พรรคลุงป้อมน่ะ ทำได้
แล้วถ้าเขา “ตายคาอยู่ในครรภ์” ล่ะ จะเอาออกยังไง ถึงจะไม่เป็นอันตรายกับตัวแม่ รู้วิธีหรือยัง?
ผมเห็นทั้งนายกฯ หญิง ทั้งพวกหลี่กงกง ออกสื่อ ทำพูดดีเป็นหมอตำแยชำนาญการ
แต่หลังฉาก เห็นพล่าน “ซ่อนอาการ” ตายทั้งกลม ลมจะใส่กันอยู่ตอนนี้!
เอาตำแหน่งล่อ หวังให้ประชาธิปัตย์แตก นั่นเขาแตกแล้วและแตกอยู่ จะให้แตกอีก มันก็ค่าเท่ากัน คือไม่มีราคา
ต่างกับพรรคลุงป้อม……
ผมสังเกตเขา “เดิมแต้ม” แข่ง “ผู้ครอบครอง” นายกฯ ที่จะเขี่ยเขาจากพรรคร่วมรัฐบาล ดูเหมือน “เดินแต้มโง่”
แต่มองลึกๆ ที่ว่า “แต้มโง่” หากแต่มันเป็นแต้ม “ปลาดุกยักเงี่ยง”
ระวังเถอะ อุ๊งอิ๊งจะเจริญตามรอย “นายกฯ เศรษฐา” ที่ตายเพราะตั้งนายพิชิต ตามที่ไอ้กร๊วกตัวไหนมันสั่ง ก็รู้มิใช่หรือ?
“พลังประชารัฐ” ในสถานะ “หัวหน้าพรรค” ของลุงป้อม พูดตามภาษามวยวัด ฝ่ายธรรมนัส ภาษีดีกว่า
เพราะถึงตัวอยู่พลังประชารัฐ แต่ทั้งตัวและใจ สวามิภักดิ์อยู่กับ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ทั้งกระดูกถึงขี้เถ้า
ฉะนั้น เพื่อไทย “เขี่ย” ซีกลุงป้อมทิ้ง เอาซีกธรรมนัสตั้งเป็นรัฐมนตรี ใครจะทำไป
ทั้งภูมิธรรม-ทั้งหมอมิ้ง บอกแล้วว่า “การจะตั้งใครเป็นสิทธิของนายกฯ”!
ก็เอาเลย…ผมอยากเห็น
เห็นลุงป้อมหัวเราะชอบใจพุงกระเพื่อมน่ะ เพราะนั่น เท่ากับ “เสือตาบอด” งับเหยื่อในกับดักลุงป้อม
อย่าลืม “กฎ-กติกา” และ “ข้อบังคับพรรค” แต่ละพรรคมันมีอยู่ และคนมีสิทธิ-มีอำนาจตามกฎหมาย คือหัวหน้าพรรค
ดังนั้น การจะเอาคนพรรคไหนตั้งเป็นรัฐมนตรี ใช่ว่าใครเป็นนายกฯ อยากได้ใคร-พรรคไหน?
ก็ตะแคงเข่ง เอาตีนกวาดใส่ มาเลือกตั้งได้ตามใจชอบ โดยไม่ขัดกฎหมาย ไม่ขัดจริยธรรม มั่นใจว่าทำอย่างนั้นได้ ก็ลองดู
ผมว่า “กุนซือกฎหมาย “พรรคเพื่อไทย สงสัยจะเป็นทนายชั้น ๒ ไม่ใช่ชั้น ๑ เหมือนของพรรคลุงป้อมแฮะ!
พูดกันตรงๆ…..
นับตั้งแต่สภาโหวตให้อุ๊งอิ้งเป็นนายกฯ จนถึงวันนี้ ใกล้ครึ่งเดือนอยู่รอมมะร่อ และดูท่า ที่ว่าง่าย มันกลายเป็นยากโคตรๆ!
“รัฐบาลใหม่” ยังเป็น รัฐบาล “ผีกระสือ”
มีแต่หัว “ลอยไป-ลอยมา” ส่วนลำตัว ยังไม่รู้อยู่ที่ไหน?
หัวเอง คือนายกฯ ก็น่าเห็นใจ แม่ลูกสอง วัย ๓๘ หยกๆ การจะให้รู้หน้าที่ รู้บทบาทในตำแหน่งนายกฯ มันไม่ใช่เรื่องง่าย มันกลายเป็นเรื่อง “พ่อแม่ทำลายลูก” ที่น่าอนาถใจ
ตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่ตำแหน่ง “โอปปาติกะ”
คือ จู่ๆ ก็โผล่พรวดขึ้นมาเอง รู้เอง เห็นเอง เป็นเอง ตายก็ตายเอง โดยไม่มีซากปรากฎให้เห็น
เพราะอย่างนั้น เมื่อลูกเข้าทรงพ่อ จึงเห็นตัวพ่อ คือ “ผู้ครอบครองนายกฯ” พล่านเหนือ-พล่านใต้
ทั้งพูด ทั้งสั่ง ทั้งแถลงนโยบาย ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ทั้งโชว์วิสั้น-วิยาว ให้ผู้ชำนาญข่าว สอพลอรอบกระถางน้ำข้าว และทั้งเดินสายปลุกประแส เป็นการยึดพื้นที่สื่อและมวลชน
และนั่น อย่างที่บอกแต่ต้น ไม่ได้อิจฉา หากแต่สงสาร
ตายโดยยังไม่รู้ว่าตาย
วิญญานจึงกร่าง..อหังการ พยายามสร้างข้อหาให้พรรค-ให้นายกฯ เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน
หลานที่บอกว่าจะกลับมาเลี้ยงน่ะ อยู่บ้านโน่น
แต่ตัวคุณตาขยันไปที่ทำการพรรคเพื่อไทยชั่วคราวที่ชินวัตร ๓ แทบทุกวัน จนรู้เห็นเป็นที่อาจินต์ว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยบริหารโดยนายกฯ พร้อมกันถึง ๓ คน
คือ อดีตนายกฯ ทักษิณ อดีตนายกฯ เศรษฐา และนายกฯ แพทองธาร
ดูจากภาพ-ข่าวจะเห็นว่า เช้าขึ้นมา ชินวัตร ๓ จะเป็นทำเนียบรัฐบาล ๓ นายกฯ มาสุม!?
ผมไม่แปลกใจเลย ว่ามีรัฐบาลและนายกฯ แพทองธารเข้าบริหารวันไหน
ถนนทุกสาย จะคราคร่ำไปด้วย “นักร้อง” มุ่งสู่ กกต.บ้าง ผู้ตรวจการแผ่นดินบ้าง ป.ป.ช.บ้าง
โดยมี “ศาลรัฐธรรมนูญ” เป็นที่รวมศูนย์ในที่สุด!
เห็นอดีตนายกฯ เศรษฐาไปทำเนียบชินวัตร ๓ บ่อย ข่าวบอกว่า ไปมอบงานนายกฯ ใหม่
ขอกระซิบถามคำนะ….
“คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ” ที่ครม.ท่านตั้งให้ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” เป็น “ประธานคณะกรรมการ” นั่นน่ะ
ก่อนเป็นนายกฯ “ลาออก” จากตำแหน่งประธานหรือยัง? ระวังนะ….
ตำแหน่งนั้น ถือเป็น “พนักงานของรัฐ”!
เพราะคณะกรรมการนี้ใช้ “งบประมาณแผ่นดิน” ประจำปี โดยปี ๒๕๖๗ มีงบให้ตั้ง ๕,๑๖๔ ล้านบาท
ถ้าเป็นนายกฯ โดยไม่ลาออกจากการเป็น “พนักงานของรัฐ” ก่อนละก็ เดี๋ยวก็ “ซวยซับ-ซวยซ้อน” จนได้
เพราะมันจะเข้าข่าย “ขาดคุณสมบัติ” และ “เข้าลักษณะต้องห้าม” ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเอาง่ายๆ
รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐(๖)บอกว่า “ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙๘”
มาตรา ๙๘(๑๕)บอก “ห้ามเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ”
ใน(๑๕)ตอนนี้ “หมดโปร ๕ ปี” ตามบทเฉพาะกาลแล้ว ดังนั้น อุ๊งอิ๊ง มีอีก “หนึ่งเสียว”
จากกรณีเป็น “ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ” เป็นหน่วยงานของรัฐ จะมาเป็นรัฐมนตรีโดย “ไม่ลาออกก่อน” ไม่ได้
สรุป คือ….
ผมไม่ห่วง “ครม.อุ๊งอิ๊ง” คลอดเมื่อไหร่?
ห่วงแต่ว่า คลอดแล้วไป “จุติ” ใหม่ทันทีหรือไม่เท่านั้น!
เปลว สีเงิน
๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๗
