“ประวิตร” ควง “สนธิรัตน์” ประชุมตัวแทนกองทุนหมู่บ้าน จ.ขอนแก่น ยัน ไม่มีนโยบายยุบ กทบ. ประกาศสานต่อภายใต้กองทุนประชารัฐ พร้อมเพิ่มงบกองทุนละ 2 แสนบาท ภายใต้งบประมาณ 16,000 ล้านบาท

30 เมษายน 2566  ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติไคซ์ จ.ขอนแก่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ ร่วมประชุมกับคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) จ.ขอนแก่น เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องการดำเนินงานและนำเสนอนโยบายพรรคเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินของพี่น้องชาวขอนแก่น

โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวแถลงภายหลังการประชุมว่า พล.อ.ประวิตร ได้ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่มีนโยบายที่จะยุบกองทุนหมู่บ้าน ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องยุบ

นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับโครงการพัฒนากองทุนหมู่บ้านเพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐโดยจะมีแนวทางสนับสนุนเงินทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจำนวน 79,610 ภายใต้กองทุนประชารัฐ กองทุนละไม่เกิน 200,000 บาท ภายใต้วงเงินงบประมาณ 16,000 ล้านบาท ระยะเวลาในการเบิก 6 เดือนนับจากที่จัดสรร

ภายใต้ 5 วัตถุประสงค์สำคัญ คือ 1. พัฒนา และแก้ไขปัญหา การบริหารจัดการน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตร 2. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 3. เพื่อเสริมสร้างและส่งเสริมการพัฒนาร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้าน 4. เพื่อเสริมสร้างพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์กองทุนหมู่บ้าน 5. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนระบบขนส่งชุมชนกองทุนหมู่บ้าน และ 6. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนอาชีพของเยาวชน ให้เป็นผู้ประกอบการชุมชน

“ผมขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมสานต่อโครงการกองทุนหมู่บ้าน เพื่อเป็นที่พึ่งให้กับพี่น้องประชาชนชาวรากหญ้า และเป็นรากฐานการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง อย่างยั่งยืน ผมขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่เคยมีนโยบายจะยุบกองทุนหมู่บ้าน มีแต่จะพยายามสนับสนุนให้กองทุนมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น” นายสนธิรัตน์ กล่าว

Written By
More from pp
โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเส้นทางรถไฟสายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน รวมทั้งสถานีกลางบางซื่อ
สืบเนื่องจาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) มีหนังสือที่ นร 0508/ท 4784 ลว. 2 ก.ย. 2565 เรื่อง...
Read More
0 replies on ““ประวิตร” ควง “สนธิรัตน์” ประชุมตัวแทนกองทุนหมู่บ้าน จ.ขอนแก่น ยัน ไม่มีนโยบายยุบ กทบ. ประกาศสานต่อภายใต้กองทุนประชารัฐ พร้อมเพิ่มงบกองทุนละ 2 แสนบาท ภายใต้งบประมาณ 16,000 ล้านบาท”