19 ธันวาคม 2565 เวลา 11.00 น. ณ ห้องนารี 2 ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแอนเจลา เจน แม็กดอนัลด์ (H.E. Ms. Angela Jane Macdonald) เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีกับเอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ พร้อมอวยพรให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ โดยรัฐบาลไทยยินดีร่วมมือและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ อย่างเต็มที่เพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ตลอดจนผลักดันความร่วมมือในสาขาที่ทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งขอบคุณออสเตรเลียที่สนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่ผ่านมา ซึ่งไทยในฐานะเจ้าภาพบรรลุผลสำเร็จการจัดการประชุมตามเป้าหมายที่ตั้งใจ
เอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าเยี่ยมคารวะ ซึ่งในวันนี้ (19 ธันวาคม 2565) ถือเป็นโอกาสอันดีที่เป็นวาระครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 70 ปี ไทย – ออสเตรเลีย สะท้อนถึงมิตรภาพที่พิเศษและแน่นแฟ้นของสองประเทศ
โดยออสเตรเลียยืนยันจะสานต่อความร่วมมือในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ พร้อมชื่นชมการทำงานของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคที่ผ่านมา ซึ่งสามารถจัดงานได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ตลอดจนชื่นชมศักยภาพด้านสาธารณสุขของไทยที่สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ .
โอกาสนี้ ทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้
ด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่การค้าระหว่างกันมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น โดยรองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำด้านการลงทุนและการประกอบธุรกิจต่าง ๆ ร่วมกัน ในสาขาที่ออสเตรเลียสนใจและมีความเชี่ยวชาญ ด้านเอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ ยินดีที่จะผลักดันความร่วมมือระหว่างกันเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19
ด้านสาธารณสุข รองนายกรัฐมนตรีขอบคุณออสเตรเลียที่ได้บริจาควัคซีนไฟเซอร์แก่ไทย จำนวนกว่า 450,000 ล้านโดส ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างทั้งสองประเทศ และยืนยันที่จะร่วมมือกับออสเตรเลียในการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับโรคระบาดและโรคอุบัติใหม่ ขณะที่เอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ เห็นพ้องและยินดีกับการจัดตั้งศูนย์ ACPHEED ในไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นศูนย์กลางความร่วมมือระหว่างประเทศในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านการท่องเที่ยว รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายหลังการเปิดประเทศ เนื่องจากไทยและออสเตรเลียมีความสัมพันธ์ในระดับประชาชนที่ใกล้ชิด ซึ่งเอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ เห็นพ้องว่า ชาวออสเตรเลียเดินทางมาท่องเที่ยวไทยจำนวนมาก โดยในปีนี้มีมากถึงกว่า 180,000 คน และภูเก็ตถือเป็นจุดหมายสำคัญในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย เชื่อมั่นว่าในอนาคตจะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกันได้อย่างต่อเนื่อง
โดยรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่ารัฐบาลและตนเองพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในส่วนที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนไทยและออสเตรเลีย