อย่าใช้ปากคิดแทนสมอง #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

จบข่าวครับ…

เป็นอันว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เลวลง อย่างน้อยก็ช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ระยะยาวรัฐธรรมนูญที่ขวางทางนักการเมืองแบบนี้เขาไม่เอาไว้หรอกครับ

วันหนึ่งต้องรวมหัวแก้กันอยู่ดี แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่ประชาชนเราๆ ท่านๆ นี่แหละครับว่า จะยอมให้เขาฉีกทิ้งหรือเปล่า

แม้จะถอยชั่วคราว แต่แนวคิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย และพรรคส้ม หากไม่มีการปรับปรุง ก็น่ากังวลอยู่ดี

โดยเฉพาะพรรคส้ม มีทัศนคติที่อันตรายต่อการเมืองการปกครองอย่างมาก

เพราะไม่ได้คิดแก้ปัญหา แต่จะสร้างปัญหาเพิ่ม

เนื้อหามาจากการแถลงข่าวของ “ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ” ที่ “ป๋าเปลว” ไล่กลับบ้าน อาบน้ำ ประแป้ง แล้วกินนมนอน นั่นแหละครับ

เป็นการนำเสนอแนวคิดและประเด็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา แบ่งชุดประเด็นออกเป็น ๗ แพ็กเกจ  แต่จะขอพูดถึงเฉพาะบางแพ็กเกจ เช่น…

แพ็กเกจที่ ๑ “ลบล้างผลพวงรัฐประหาร” ซึ่งได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วเมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม  ๒๕๖๗ ประกอบด้วยสาระสำคัญ อาทิ…

ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ฉบับ คสช.

ก่อนยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ก็ต้องไปทำความเข้าใจก่อนว่าทำไมต้องมียุทธศาสตร์ชาติ

ความหมายกว้างๆ ของยุทธศาสต์ชาติคือ เพื่อให้มีแผนการพัฒนาประเทศโดยกำหนดกรอบเวลาและแนวทางพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติสู่เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล

และเป็นกรอบในการจัดทำแผนของหน่วยงานต่างๆ ในการบริหารประเทศให้สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และมีการบูรณาการกัน

ยุทธศาสตร์ชาติจะกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) ของชาติ และแผนยุทธศาสตร์ (Strategic Plan) ที่ประชาชนทุกภาคส่วนและรัฐเห็นพ้องร่วมกัน และร่วมมือกันเพื่อเป็นพลังในการช่วยกันทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนของชาติในระยะยาว โดยมีตัวชี้วัดผลความคืบหน้าในการดำเนินการและความสำเร็จที่ชัดเจนและเป็นสากล

การจัดทำ เปลี่ยนแปลง ทบทวนยุทธศาสตร์ชาติต้องเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ และประชาชนทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึงด้วย

ความหมายของยุทธศาสตร์ชาติคือแบบนี้ แต่ทำไมนักการเมืองถึงรังเกียจอยากจะลบทิ้งกันหนักหนา

เราผ่านการพัฒนาประเทศที่แต่ละรัฐบาลไปคนละทางมาแล้วไม่ใช่หรือ

บ่นกันเรื่องประเทศพัฒนาช้าเพราะไม่มีความต่อเนื่องในแง่นโยบายไม่ใช่หรือ

แล้วทำไมถึงอยากกลับไปหาแบบเดิม

ยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้มัดคอรัฐบาล แต่เป็นแนวทางให้ทุกรัฐบาลเดินไปโดยมีความต่อเนื่องกัน

เว้นเสียว่าพรรคส้มจะอยู่ในอำนาจยาวนานสัก ๒๐ ปี แบบนั้นใช้ยุทธศาสตร์ส้มก็ได้ แต่ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร  ไอติมจะรับผิดชอบไหวหรือเปล่า เอาไว้ตื่นจากฝันแล้วค่อยมาว่ากัน

แพ็กเกจที่ ๒ “ตีกรอบอำนาจศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ”

นี่คือแพ็กเกจแห่งความคับแค้น และอยากล้างแค้น

พรรคส้มมีความปรารถนาให้ องค์กรอิสระเช่นศาลรัฐธรรมนูญ ยุติการผูกขาดเรื่องมาตรฐานจริยธรรม

เสนอให้แต่ละองค์กรออกแบบกลไกในการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมขององค์กรตนเอง รวมถึงยกเลิกการให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระมีบทบาทหลักในการวินิจฉัยหรือไต่สวนในกรณีจริยธรรม

ถุย!

ให้สภาผู้แทนฯ กับรัฐบาล ออกจริยธรรมขององค์กรตนเอง หน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร

ประเทศนี้ไม่รู้มีจริยธรรมกี่มาตรฐาน

ฝ่ายนิติบัญญัติมาตรฐานหนึ่ง

ฝ่ายบริหารมาตรฐานหนึ่ง

ฝ่ายตุลาการมีอีกมาตรฐาน

ข้าราชการพลเรือนก็อีกมาตรฐาน

ตำรวจ-ทหาร มีมาตรฐานของตนเอง

นี่เราพูดถึงมาตรฐานทางจริยธรรมนะครับ

ไม่ใช่เครื่องแบบ

ก็ไม่ทราบว่าใช้อวัยวะส่วนไหนคิด

ลองไปดู แพ็กเกจที่ ๓ “เพิ่มกลไกตรวจสอบการทุจริต” สิครับ แล้วจะเห็นถึงความสับสนทางความคิด

พรรคส้มเสนอว่า ป้องกันการสมคบคิดกันระหว่างรัฐบาลกับ ป.ป.ช. ซึ่งมีความเป็นไปได้จากการที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา ๒๓๖ ระบุว่า หากสมาชิกรัฐสภาหรือประชาชน ๒๐,๐๐๐ คนเข้าชื่อเพื่อร้องเรียนต่อประธานรัฐสภาว่า ป.ป.ช.ใช้อำนาจโดยมิชอบ ประธานรัฐสภามีสิทธิในการใช้ดุลยพินิจกลั่นกรองก่อนว่าควรดำเนินการให้มีการไต่สวนหรือไม่ ซึ่งหากรัฐบาลและ ป.ป.ช.สมคบคิดกันเพื่อไม่ให้มีการตรวจสอบการทุจริตของนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล  ประธานรัฐสภาซึ่งมักเป็น สส.จากฝั่งรัฐบาล ก็สามารถใช้อำนาจปัดตกทุกข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ได้

จึงเสนอเพิ่มอำนาจให้ประชาชน ๒๐,๐๐๐ คน เข้าชื่อร้องเรียนนักการเมืองที่กระทำการทุจริตหรือใช้อำนาจโดยมิชอบ โดยเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ป.ป.ช.จะต้องพิจารณาเป็นเรื่องด่วนและไต่สวนให้เสร็จภายใน ๑๘๐ วัน

อยู่ใกล้ๆ จะดีดหู “ไอติม” สักที

ก็ในเมื่อ “ไอติม” เสนอว่าให้ รัฐบาล สภาฯ ไปออกจริยธรรมของตัวเอง แต่ “ไอติม” ดันกลัวว่า ประธานรัฐสภาจะสมคบคิดกับรัฐบาล ปิดปากประชาชน

มันโคตรจะย้อนแย้ง

“ไอติม” ฟังไว้นะครับ ประชาชนเขาไม่ไว้วางใจรัฐบาล  รัฐสภา ตั้งแต่ให้ไปออกมาตรฐานทางจริยธรรมของตัวเองแล้ว

จะไว้ใจได้ไง ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งจะสร้างบรรทัดฐานไว้ให้หยกๆ ก็คิดจะลบทิ้งแล้ว

แพ็กเกจที่ ๔ ไม่หยิบยกมาไม่ได้เลย คือประเด็น “คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน”

เห็นด้วยเลยครับที่พรรคส้มต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นเหล่านี้

ไม่ว่าจะเป็นสิทธิการศึกษา

สิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม

เสรีภาพในการแสดงออก

สิทธิในกระบวนการยุติธรรม

โดยเฉพาะสิทธิความเสมอภาคทางเพศ พรรคประชาชนเสนอให้รัฐธรรมนูญรับประกันความเสมอภาคทางเพศภายใต้ความหลากหลายทางเพศ โดยปรับข้อความจาก “ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน” มาเป็น “บุคคลทุกคน ไม่ว่าเพศ เพศสภาพ เพศวิถี หรืออัตลักษณ์ทางเพศใด มีสิทธิเท่าเทียมกัน”

เห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์ครับ เพราะที่ผ่านมามีกรณีคุกคามทางเพศในพรรคการเมืองกันเยอะ

พรรคส้มเองก็มีประสบการณ์เรื่องนี้มาอย่างโชกโชน

แต่ก็แอบผิดหวังตรงที่ พอมีเรื่องฉาวในพรรคตัวเอง ก็เลือกที่จะเงียบ

กว่า “ไอติม” จะง้างปากตัวเองชี้แจงได้ ก็ไม่มีใครอยากฟังแล้ว

ครับ…หากพรรคส้มจะเพิ่มเติมอีกสักแพ็กเกจก็คงจะดีไม่น้อย

เวลาคิดให้ใช้สมองและใจคิด

อย่าใช้ปากคิด

Written By
More from pp
ธนาคารกรุงไทย ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2567 จัดเตรียมซองอั่งเปา “กง สี่ ฟา ไฉ” และ ถุงใส่ส้ม เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วประเทศ
ธนาคารกรุงไทย ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2567 จัดเตรียมซองอั่งเปา “กง สี่ ฟา ไฉ” และ ถุงใส่ส้ม เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วประเทศ โดยบนซองจัดพิมพ์รูปมังกร...
Read More
0 replies on “อย่าใช้ปากคิดแทนสมอง #ผักกาดหอม”