ครม.ไฟเขียว ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 3 เดือน พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ม.ค.-19 เม.ย.67 พร้อมปรับลดพื้นที่ 2 อำเภอ “ปะนาเระ-รามัน” ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ

16 มกราคม 2567 นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (16 ม.ค.2567) มีมติอนุมัติผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1/2567 ตามที่สำนักงาน สภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. ปรับลดพื้นที่อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี และอำเภอรามัน จังหวัดยะลา ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 มาบังคับใช้แทน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่สถานการณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะสถิติการก่อเหตุและการสูญเสียมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

2. ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอ ปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง อำเภอรามัน อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2567 (ซึ่งเดิมครบกำหนดวันที่ 19 มกราคม 2567) เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีการก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติประกาศให้อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี และอำเภอรามัน จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567

Written By
More from pp
นายกฯ แนะผู้ปกครองเตรียมความพร้อมบุตร หลาน บอกวิธีปฏิบัติตนเมื่ออยู่ที่โรงเรียน เพื่อให้ปลอดภัยห่างไกลโรคโควิด-19 สำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ในวันที่ 17 พฤษภาคม นี้
13 พฤษภาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ รวม 7,779 ราย...
Read More
0 replies on “ครม.ไฟเขียว ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 3 เดือน พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ม.ค.-19 เม.ย.67 พร้อมปรับลดพื้นที่ 2 อำเภอ “ปะนาเระ-รามัน” ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ”