เปลว สีเงิน
ถึงวันนี้………
เก้าอี้นายกฯ “ว่างก้นเจ้าของ” มาครบ ๗ วันแล้ว
ก็มีคำถามว่า……..
การบริหารราชการงานเมือง โดยคณะรัฐมนตรีที่มี “พลเอกประวิตร” ทำหน้าที่ “รักษาการนายกฯ”
ทุกอย่าง “เป็นไปด้วยดีเหมือนเดิม” หรือมีปฏิกริยาอะไรในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ทำนอง “ขยับเขยื้อน” เรือแป๊ะให้คว่ำบ้าง?
ในสายตาคนดูหนัง-ดูละครอย่างผม ขอบอกว่า
“ตัวแสดงยังอยู่ครบ และเล่นตามบทใคร-บทมันได้ดี เหมือนเดิม ไม่มีใครทำให้เรือแป๊ะเอียงวูบวาบ”
กระทั่งโต้โผใหญ่ “พลเอกประวิตร” เมื่อต้องรับบทกัปตันแทน “พลเอกประยุทธ์” ชั่วคราว ก็ทำหน้าที่ได้ดีชนิด “ฝากลายเสือ”
แม้จะมี “ความหวังดีของจิ้งจอก” พยายามเยินยอ ยุแหย่ หวังล่อหลอก ให้พลเอกประวิตรเคลิ้ม
แล้ว “หักหลังน้อง” เพื่อครองตำแหน่งถาวรซะเลย!
แต่พลเอกประวิตร….
ที่เห็นว่าเหมือน “ไก่อ่อน” เงอะงะ ไม่ประสาการเมือง แต่กระสันเก้าอี้นายกฯ จนเป็นตัวตลกให้นักข่าวต้อนเล่นรายวัน นั้น
เอาเข้าจริง พลเอกประวิตรนี่ “บูรพาพยัคฆ์” ซ่อนเล็บตัวจริงเลยทีเดียว!
ที่ทำกระย่อง-กระแย่ง ถามอะไรก็ไม่รู้…ไม่รู้ หนังตาจะปิด นั้น แท้จริง ซ่อนงำประกายคนที่โชกโชนประสบการณ์ ทั้งในระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และระดับเสนาธิการบ้านเมือง
เหมือนพยัคฆ์นั่นแหละ…….
จะสยายกรงเล็บอันแหลมคมให้เห็น ก็ตอนตะปบเหยื่อ เท่านั้น แต่เวลาปกติ จะเซื่องซึมไม่ต่างจากแมวถูกตัดหนวด
ก็จะเห็นบรรดาสื่อ-บรรดาเซียนแซะ ที่คอยจับสังเกตไปออกข่าว จะบอกว่า
บิ๊กป้อม “รองนายกฯ” กับบิ๊กป้อม “รักษาการนายกฯ”
คึกคัก กระฉับ-กระเฉง เป็น “คนละคน” ไปเลย
เดินเองฉับๆ ไม่ต้องเกาะแขนใคร ซ้ำสุขุม ขยันขันแข็งต่องานในหน้าที่แทนน้องเล็ก
ลงพื้นที่ จี้งาน โทรประสานหน่วยนั้น-หน่วยนี้ด้วยตัวเอง ให้เตรียมพร้อม “รับมือน้ำท่วม” และช่วยเหลือประชาชน
เห็น “ภาวะผู้นำ” ในตัวบิ๊กป้อมกันหรือยังล่ะ!
ไม่ได้นั่งกอดเก้าอี้-เกาะตำแหน่งไปวันๆ ตามประสาคนแก่หมดไฟ อย่างที่หลายๆ คนปรามาส
เอาเข้าจริง “บิ๊กป้อม” แสดงให้เห็นวิสัยชายชาติทหาร ทุกอย่างที่ทำ ต้องมีแผนการรองรับล่วงหน้า เมื่อรับภาระหน้าที่แล้ว ต้องรับผิดชอบภาระนั้น จนสำเร็จ
นี่ก็เช่นกัน……..
ไม่เสียชื่อ-ชั้นคนระดับ “ผู้บัญชาการเหล่าทัพ” ขอชม
ใช่ว่า รอให้ “น้ำมา-ปัญหาเกิด” เสียก่อน ….
แล้วค่อยเดินท่องน้ำจ๋อมๆ ไป ไลฟ์สดไป…ปีนี้น้ำมาเร็วหน่อยนะ แล้วก็จ๋อมๆ แข่งกับหมาย่ำน้ำ จะเก่งกว่าหมาอยู่หน่อย ก็ตรงที่ไลฟ์สดนี่แหละ
เมื่ออังคารที่ผ่านมา ในการประชุมครม.
บิ๊กป้อมทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวในสามก๊ก ตอนที่ บ้านเมืองมีภัยจากโจรโพกผ้าเหลือง เที่ยวข่มเหงอาณาประชาราษฏร์ เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
หาใครปราบไม่ได้…….
ทางการต้องติดประกาศหาคนกล้าอาสาไปปราบโจร
เล่าปี่ เตียวหุย ต่างคนต่างอ่านประกาศ เมื่อรู้เจตนาตรงกัน ก็ชวนกันไปร่ำสุราในโรงเตี๊ยม
พอดี “กวนอู” เดินเข้ามา ตะโกนให้ยกสุรามาเร็วๆ จะรีบไปปราบโจรโพกผ้าแดงส้ม…เอ๊ย..ผ้าเหลืองน่ะ
เล่าปี่ เตียวหุย เห็นต้องชะตา-ต้องเจตนากัน ก็ชวนกวนอูมาร่วมโต๊ะดื่ม
เตียวหุยนั้น ที่จริงเป็นเจ้าสัวใหญ่ มีกิจการเยอะแยะ ร่ำรวยมาก แต่ “ชาติต้องมาก่อน”
เมื่อร่ำสุราและคุยถูกคอ-ถูกใจกันแล้ว ก็ชวนกันไปสาบานเป็นพี่น้องที่สวนดอกท้อ หลังบ้านเตียวหุย
ในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) มีความตรงนี้ว่า
“ครั้นรุ่งขึ้น เตียวหุยจึงจัดม้าขาวกระบือดำ แลธูปเทียนสิ่งของทั้งปวง แล้วชวนกันออกมายังสวนดอกไม้ จึงจุดธูปเทียนไหว้พระแลบูชาเทพดา
แล้วจึงตั้งสัตย์สาบานต่อกันว่า….
ข้าพเจ้าเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ทั้งสามคนนี้ อยู่ต่างเมือง วันนี้ได้มาพบกัน จะตั้งสัตย์สบถเป็นพี่น้องร่วมท้องกัน เป็นน้ำใจเดียว ซื่อสัตย์ต่อกันสืบไปจนวันตาย
จะได้ช่วยทำบุบำรุงแผ่นดินให้อยู่เย็นเป็นสุข ถ้ามีภัยอันตรายสิ่งใด แลรบศึกเสียที ข้าพเจ้ามิได้ทิ้งกัน จะแก้กันกว่าจะตายทั้งสาม
แลความสัตย์นี้ ข้าพเจ้าได้สาบานต่อหน้าเทพดาทั้งปวงจะเป็นทิพยพยาน ถ้าสืบไปภายหน้า ข้าพเจ้าทั้งสามมิได้ซื่อตรงต่อกัน
ขอให้เทพดาสังหารผลาญชีวิตให้ประจักษ์แก่ตาโลก”
ประเด็น “พี่น้องร่วมสาบาน” นี้ หลายเจ้า-หลายตำรา ว่าจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง
มีแต่ตรงที่ว่า สามคนนี้ ซึ่งยกเล่าปีเป็นพี่ใหญ่ กวนอู เป็นน้องกลาง และเตียวหุย เป็นน้องเล็ก
เวลานอน ทั้ง ๓ คน “นอนเตียงเดียวกัน”!?
เนี่ย….
ตอนปกติ เห็นพี่น้อง ๓ ป.ผมก็ไม่เคยนึกถึงเรื่อง “พี่น้องร่วมสาบาน” ในสามก๊ก มานึกตอนเห็นวันประชุมครม.อังคารที่ผ่านมานั่นแหละ
ใครที่ดูถูก-ดูแคลน ปรามาส เยาะเย้ย “บิ๊กป้อม” ต้องคิดใหม่แล้วหละ เพราะภาพในการประชุมครม.
บิ๊กป้อม ในฐานะ รักษาการนายกฯ แทนที่จะนั่ง “เก้าอี้นายกฯ” ซึ่งอยู่ตรงกลาง
บิ๊กป้อม กลับ “เว้นว่าง” ไว้
แล้วนั่งในที่นั่ง “รองนายกฯ” ของท่านตามเดิม ทำหน้าที่ประธานในการประชุม!
ดูเผินๆ ก็ไม่มีอะไร ซ้ำเกจิทางวิจารณ์ข่าวยังหยิบมาพูดในทางขำขันเป็นที่สนุกสนาน
แต่ในมุมมองผม มันลึกซึ้ง กินใจ หนึ่งภาพ “ล้านความหมาย” ที่เข้าใจ-ก็เข้าใจ, ที่ไม่เข้าใจ-ก็ไม่เข้าใจ
สำหรับผม ยอมรับ เป็นคนรุ่นเก่า กระเดียดไปทาง “คร่ำครึ-โบราณ” เรื่องสัจจะ-จริงใจในมิตรสหาย ยิ่งเป็นมิตรสหายร่วมสาบานด้วยแล้ว
ถ้ามี…ผมถือเป็น “สรณะชีวิต” ที่ต้องยึดถือ
คนเรา ในชีวิตหนึ่ง พบพานผู้คนเป็นหมื่น-เป็นแสน แต่ยากนัก ที่จะมีมิตรสหายที่คบหารู้ใจกันได้จริงๆ ซักคน
และยิ่งยากขึ้นไปอีก ที่จะพานพบ “พี่น้องร่วมสาบาน”!
พี่น้องคลานตามกันมา…….
บางที มิสู้พี่น้อง “ร่วมสาบาน” ชนิดตายแทนกันได้
ใครมี นับว่าเป็น “วาสนา” ยิ่งนัก ค่ายิ่งกว่าตำแหน่งหรือแก้วแหวนเงินทอง เมื่อมี จงถนอมรัก-ถนอมน้ำใจ กันไว้เถิด
เพราะอย่างนี้….
เมื่อผมเห็นพลเอกประวิตร “เว้นนั่งเก้าอี้น้อง” มันเป็นภาพสะท้อน “พี่น้องร่วมสาบาน” ของ ๓ ป.ที่ผมขอยอมรับ-นับถือบิ๊กป้อม-จากใจ
“ผมกอดคอกับนายกฯ สนิทสนมกันมา ๕๐ กว่าปี จำไว้ …ให้ตายจากกัน เรา ๓ ป.ถึงจะเลิกรักกัน
บ้าบอมาก กับข่าวทะเลาะกัน นายกฯ ก็มาหาผมทุกวันที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ใครจะไปทะเลาะกัน”
นี่คือคำพูดของ “พี่ใหญ่” พลเอกประวิตร ต่อความผูกพัน ๓ ป.!
“ทุกคนเป็นคนตั้งเองไม่ใช่เหรอว่า ๓ ป. ไม่มีใครมาทำร้ายผมได้ ทุกคน อาจจะไม่รู้ และทุกคนอาจจะไม่รักคน รักเพื่อน รักคนอื่น เหมือนผมรักกัน ๓ คน
ผมร่วมเป็น-ร่วมตายกันมา ชายแดนท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ร่วมกัน และท่านก็เป็นผู้บังคับบัญชาผม ตั้งแต่ก้าวแรก ที่เข้ามารับราชการ
อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนและฝึกอบรมกันจนกระทั่งโตขึ้นมา ยังคบและเคารพกันอยู่
ทุกอย่างที่ผมเป็นวันนี้ได้ เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผมมา และผมจำได้ว่า ไม่เคยที่พี่ทั้งสองจะมาสอนให้ผมทุจริต โกง ซึ่งไม่มี”
และนี่ก็คือคำพูดของ “น้องเล็ก” นายกฯประยุทธ์ ต่อกรณีถูกยุแยงแทงแหย่ให้ ๓ ป.แตกกัน!
พี่น้อง ๓ป. “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” จะเหมือน “เล่าปี่-กวนอู-เตียวหุย” ใน ๓ ก๊ก ทางสัจจะ-จริงใจในน้ำสาบานกันขนาดไหน ก็ต้องตามดูกันไป หนังยังไม่จบ
แต่ที่ใกล้เคียงกันมากๆ ตรงที่น้องเล็กบอกว่า “อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน” นี่แหละ
ขาดรายละเอียดนิดเดียว ถ้าน้องเล็กบอกว่า “๓ คนนอนเตียงเดียวกัน” ละก็………
“เล่าปี่-กวนอู-เตียวหุย” กลับชาติมาเกิดเป็น ๓ ป.แน่เลย!
นี่เป็นการคุยกันเองนะ ใครจะเห็นแบบไหน เราไม่ว่ากันอยู่แล้ว ค้านได้ ด่าได้ สำหรับผมสบายมาก
เพราะตรงด่า ผมก็อ่านข้ามไป ตรงไหนชม ก็นั่งอ่าน-นอนอ่าน อยู่นั่นแแหละ เพราะผมเสพติด “คำชม”
เอาเป็นว่า ถ้ามองการเมืองว่าด้วยเลือกตั้งปีหน้า ผ่าน ๓ ป.วันนี้ ท่านคิดว่า ๓ ป.ยังจะมา หรือ ๑ ม.แม้ว จะมา?
ในฐานะทหาร ทุกยุทธการ “ต้องมีแผน”
ถ้าครองอำนาจบริหารมา ๔+๔ ปี ยังถูกกองทัพโจร “มุ่งล้มเจ้า” ตีแตกกระเจิง ชิงเมืองไปได้
๓ ป.ก็ควรไป “ขายเต้าฮวย” เถอะ!
เปลว สีเงิน
๑ กันยายน ๒๕๖๕