สันต์ สะตอแมน
เขาว่า..คนกรุงเทพฯอารมณ์ (การเมือง) อ่อนไหวง่าย
ก็..อยากกระตุกทั้งสื่อ ทั้งนักวิชาการ ทั้งนักการเมือง ทั้งทนายความ ว่ากรณีฉาวของ “นายปริญญ์ พานิชภักดิ์” ที่อื้ออึงอยู่ขณะนี้นั้น..
เป็นเรื่อง “รสนิยม” ส่วนตัว-ส่วนบุคคลโดยแท้!
ส่วน ดร.เอ้ สุชัชวีร์ และพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมีความเกี่ยวข้อง-ผูกพัน แต่ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่า.. “ไม่ปกป้องคนผิด ต่อต้านคุกคามทางเพศ ขอตำรวจเร่งดำเนินคดี”!
ฉะนั้น..หากคิดจะขยี้แผล กระทืบซ้ำ ก็ให้เอากันแค่พอเหมาะพอควรตามกระแส ปล่อยให้กฎหมายดำเนินการไป แต่ถ้ามากเกิน-ล้นไป..
เกรงว่า นายปริญญ์นี่แหละ จะช่วยฉุดให้ดร.เอ้ พลิกกลับขึ้นแซงหน้าเข้าวินเอาได้ ด้วยนิสัยคนไทยขี้สงสาร-ชอบเชียร์มวยรอง..คอยดูล่ะกัน!
ส่วนคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่โพสต์..“พรรคนี้มีแต่เรื่องแปลกๆ บอกว่าต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ แต่กลับร่วมหัวจมท้าย เริงร่าอ้าซ่าอล่างฉ่าง
ผู้ใหญ่พรรคก็ไปขโมยเมียเพื่อนมาครอง ที่ได้เป็นตัวเป็นตนก็ทอดทิ้ง แล้วนี่ยังมีเรื่องข่มขืนลวนลามอีกนับสิบ เรียงคิวกันมาแจ้งความเป็นแถว
จริยธรรมไม่มี จริยเพศไม่สน มีแต่เรื่องพัวพันใต้สะดือ จิ๋มกับจู๋ มั่วกันไปหมด บอกแล้วไง เวรกรรมไม่ช้าก็เร็ว มันมาในหลายรูปแบบ ทำหน้าได้งงๆ ซื่อๆ ตามสไตล์ ผู้ใหญ่พรรคสอนเอาไว้
นี่หากผู้หญิงเขาไม่เจ็บใจ ไม่แบกหน้ามาแจ้งความหรอกครับ เรื่องพรรค์นี้กับพรรคอย่างนี้ คงรู้ตัว ต้องโดนตัดหางปล่อยวัดตามฟอร์ม
กว่าตำรวจจะใจถึงยื่นศาลขอออกหมายจับ เจ้าตัวคงหายงง ตั้งหลักได้ โต้เป็นฉากๆ พรรคนี้เก่าแต่ชื่อ แต่ของพรรค์นี้ไม่เก่าเลย
นี่หากเป็นลูกชาวบ้านตาสีตาสา ป่านนี้ได้เอาไปนั่งแถลงข่าวแล้ว อย่าคิดไปเปลี่ยนเลยกรุงเทพฯ เปลี่ยนสันดานคนในพรรคให้ได้ก่อนเถอะครับ”
ถ้าสมัยยังเป็น “เจ้าพ่ออาบอบนวด” ผมก็คงตะโกนเชียร์.. “เอาเลยชู เอาเลยชู” แต่ตอนนี้เป็นทั้งนักการเมือง สวมทั้งบทบาทสื่อ-วิเคราะห์ข่าวหน้าจอโทรทัศน์
คุณชูวิทย์น่าจะสำรวมปาก-สำรวมใจให้มากกว่านี้ ต่อให้หมั่นไส้ เกลียดแค้นแค่ไหน-อย่างไร ก็ไม่ควรด่าสาดเสียเทเสียเข้าไปในบ้านคนอื่นเค้า
“จริยธรรมไม่มี จริยเพศไม่สน มีแต่เรื่องพัวพันใต้สะดือ จิ๋มกับจู๋ มั่วกันไปหมด” นั่นเหมาะกับปาก “เจ้าพ่ออ่าง” แล้วมันเป็นจริง-เป็นหมดทั้งพรรคหรือเปล่าล่ะชู?
เห็นด้วย-ถูกต้อง.. “อย่าคิดไปเปลี่ยนเลยกรุงเทพฯ เปลี่ยนสันดานคนในพรรคให้ได้ก่อนเถอะครับ” แต่ชูก็ควรบอกกับทุกพรรค ไม่เว้นกระทั่งพรรครักประเทศไทย!
ที่ประเทศชาติฉิบหายวายป่วงอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะ “สันดาน” นักการเมืองที่ไม่ยอมเปลี่ยนนี่แหละ บางคนเข้าคุกออกมาก็ยังมีวัตรปฏิบัติเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง!
พอเสียทีเถอะคำพูด “ลูกตาสียายสา” น่ะ มันโบราณคร่ำครึไปแล้ว เพราะยุคนี้จะลูกเต้าเหล่าใคร จะรวย-จนก็ตาม ลองทำผิด–ทำชั่วสิ คุกเปิดประตูรับหมดอย่างเท่าเทียม..
ดูชูไง..ลูกตาสีตาสาเสียที่ไหน เป็นถึงอดีตเจ้าพ่ออ่างทองคำ เป็นหัวหน้าพรรค แต่ก็ยังได้ไปใช้ชีวิตในนั้นเลย!
เออ..ว่าแต่ ถ้าเรื่องนี้เป็นคดีของลูกตาสียายมา นักการเมืองอย่างชู จะละเลงเล่นด้วยรึเปล่าล่ะ แต่ผมว่าไม่นะ เพราะเล่นไปก็ไม่ได้แสงหรือเด่นดังอะไร
อ้อ..ที่คุณบุญยอด สุขถิ่นไทย คนในบ้าน (ประชาธิปัตย์) โพสต์.. “ชูวิทย์” ไม่ควรวิจารณ์คนอื่นเรื่อง “จริยเพศ??” ตักน้ำใส่ “อ่าง” ชะโงกดูเงาตัวเองก่อน!!!!
ขอโทษนะ..เห็นด้วยครับ!