18 เมษายน 2565 – นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงข่าวเปิดเผยความรู้สึกและความคืบหน้าในคดีความต่างๆ ที่ตนต้องเผชิญ จำนวน 10 คดีนับจากการทำงานการเมือง โดยตั้งข้อสังเกตว่า หลายคดีมีความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งที่สำคัญถึง 3 เลือกตั้ง ได้แก่ การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และต้นปีหน้า จะมีการเลือกตั้งทั่วไป รวมถึงขณะนี้ คณะก้าวหน้ากำลังมีแคมเปญรณรงค์เข้าชื่อแก้ไขรับธรรมนูญ หมวดว่าด้วยการกระจายอำนาจ หรือแคมเปญ “ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น”
ในคดี 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งเกิดจากการที่ผมแถลงผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน: ใครได้-ใครเสีย” เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 ธนาธรยืนยันว่าไลฟ์ดังกล่าวเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารวัคซีนของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ามีลักษณะแทงม้าตัวเดียว คือแอสตร้าเซเนก้า ทำให้ประชาชนเสี่ยงได้รับวัคซีนช้าและไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ตนกังวล กลายเป็นความจริง ปัจจุบันเป็นที่ชัดเจนแล้วในทางการแพทย์ ว่าวัคซีนที่ได้ผลที่สุดในการรับมือโควิด คือชนิด mRNA ไม่ใช่วัคซีนไวรัลเว็กเตอร์ และปัจจุบันรัฐบาลก็ได้ฉีดวัคซีน mRNA ให้กับประชาชนเป็นหลักแล้ว
นอกจากนี้ ธนาธรยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงดิจิทัลฯ เคยพยายามขอให้ศาลลบคลิปไลฟ์ที่เป็นคดี โดยอ้างว่ากระทบต่อความมั่นคง แต่ตนได้ยื่นอุทธรณ์ และในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลได้เพิกถอนคำสั่งลบคลิป โดยเห็นว่า “เมื่อพิจารณาแต่ละถ้อยคำตามตัวอักษร ยังไม่สามารถเห็นได้อย่างกระจ่างชัดเจนว่าจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกดูหมิ่นเกลียดชังองค์พระมหากษัตริย์แต่อย่างใด…แต่มีลักษณะเป็นการกล่าวหาว่าการกระทำของรัฐบาลจะกระทบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทำให้จนถึงปัจจุบัน คลิปนี้ยังคงปรากฏต่อสาธารณะ
ส่วนกรณีคดีที่ดินราชบุรี ธนาธรยอมรับว่าคดีนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับตนเองมาก เพราะการกลั่นแกล้งยัดคดี ไม่ได้เกิดกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังไปถึงคุณแม่และพี่สาว ทั้งครอบครัวถูกตราหน้าว่าเป็นพวกโกงชาติโกงแผ่นดิน กินที่ป่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซื้อที่ผืนนี้ ครอบครัวได้ซื้อที่มาอย่างถูกกฎหมาย มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องทุกอย่าง ที่ดินซื้อขายกันมาหลายมือ และผู้ที่ขายให้คือบริษัทมิตรผล ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ
“ครอบครัวเราครอบครองที่มาตั้งแต่ปี 2533 ไม่เคยมีปัญหาใดๆ จนกระทั่งผมมาทำงานการเมือง ก็มีการกล่าวหาว่าที่ผืนนี้ทับป่าสงวน ครอบครัวเรารุกที่ป่า ผมไม่มีปัญหาอะไรกับการสอบสวนตามขั้นตอน เพราะในประเทศไทย มีกรณีป่าทับที่ ที่ทับป่า ป่าสงวนออกทับเขตเอกชนมากมาย เป็นคดีความสร้างความเดือนร้อนให้ประชาชนทั่วประเทศ แต่กระบวนการที่เกิดกับครอบครัวผม ไม่ใช่กระบวนการปกติ”
ที่มา:‘ธนาธร’ ครวญเจ็บปวดมากถูกยัดเยียดคดี ‘โกงชาติ-กินป่า’ กลั่นแกล้งครอบครัว (thaipost.net)