โควิด 19 ชีวิตที่ต้องเดินหน้าต่อไป – ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ

18 เมษายน 2565 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

โควิด 19 จะอยู่กับเราตลอดไป และจะเป็นโรคประจำถิ่นในที่สุด เมื่อคนส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานที่เกิดจากวัคซีนหรือการติดเชื้อ
ความรุนแรงของโรคจะน้อยลง และจะมียารักษาเพิ่มขึ้น เหมือนไข้หวัดใหญ่ มียา oseltamivir และจะมีการพัฒนายารักษาได้ดียิ่งขึ้น

การศึกษา สังคม เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ต้องเดินหน้าให้กลับมาสู่ภาวะปกติใกล้เคียงกับก่อนการเกิดระบาดของโรค เดินหน้าไปด้วยความรอบคอบ

การศึกษาที่ผ่านมากว่า 2 ปี แม้มีการสูญเสีย ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการจัดการได้ดี ยอดผู้ป่วยตายต่อจำนวนประชากรดีกว่าหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส

การเกิดภูมิต้านทานจากวัคซีน หรือการติดเชื้อ ในการติดเชื้อจะมี แบบไม่มีอาการ มีอาการน้อย จนกระทั่งมีอาการมาก การศึกษาของศูนย์ ในเด็กอายุ 5-6 ขวบ พบการติดเชื้อแบบไม่มีอาการทราบจากการตรวจเลือด ประมาณร้อยละ 8 ถ้านับเด็กที่มีอาการด้วย ขณะนี้ก็น่าจะมีการติดเชื้อในกลุ่มดังกล่าวมากกว่า 1 เท่าตัว

การติดเชื้อครั้งแรก ส่วนใหญ่จะมีอาการมากที่สุด และเมื่อติดเชื้อซ้ำอาการจะลดน้อยลง เช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจชนิดอื่น เช่น RSV พบความรุนแรงในเด็กเล็กที่เป็นครั้งแรก และในปีต่อๆไปก็มีการติดเชื้อซ้ำอีก อาการจะลดลง และเมื่อเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่การติดเชื้อจะเป็นแบบไม่มีอาการ จึงไม่มีปัญหาในผู้ใหญ่

ในอนาคต ประชากรมีภูมิต้านทานมากขึ้น โรครุนแรงน้อยลง มียาที่ใช้รักษาดีขึ้น เราจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ที่เป็นแล้วจะทำให้เกิดความรุนแรง เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบัน เรามุ่งเน้นให้วัคซีนเพิ่มภูมิต้านทานในกลุ่มเสี่ยง
ชีวิตต้องเดินหน้าด้วยความไม่ประมาท เราจะผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ได้ในที่สุด


Written By
More from pp
ศักดิ์สยาม ติดตามการสร้างสรรค์พื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
23 มิถุนายน 2565-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามการสร้างสรรค์พื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน 2565 เวลา 10.00...
Read More
0 replies on “โควิด 19 ชีวิตที่ต้องเดินหน้าต่อไป – ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ”