ไทยสร้างไทย ชี้ รัฐปล่อยประชาชน เผชิญวิกฤติทางการเงิน หนี้ครัวเรือน – หนี้เสียพุ่งไม่หยุด ตอกย้ำล้มเหลวในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจหลังจากทุ่มเงินกว่า 1.9 ล้านล้านบาทแต่ไทยยังฟุบยาว แนะตั้งกองทุนดูแลคนตัวเล็ก เร่งฟื้นเศรษฐกิจไทย
5 เมษายน 2565 – นายเทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมฯพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึง กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานตัวเลขหนี้ครัวเรือนไทยคงค้าง ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 14.58 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 3.9% (YOY) ใกล้เคียงกับ 4.0% ในปี 2563 แต่เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังเติบโตช้าทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพียังคงขยับสูงขึ้นมาที่ระดับ 90.1% ในปี 2564 จากระดับ 89.7% ในปี 2563
ขณะที่ รายงานข้อมูลเครดิตบูโร พบว่าหนี้เสียทำให้ลูกหนี้บุคคลธรรมดา เพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนล้านบาท ส่วน SMEs มีหนี้เสียเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 แสนล้านบาท ส่วนหนี้ครัวเรือนหนี้ครัวเรือนล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 89.6% หรือคิดเป็นหนี้ครัวเรือนรวมที่ 14.58 ล้านล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลมีความล้มเหลวในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากทุ่มเงิน 1.9 ล้านล้านบาท จากวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่นับรวมงบประมาณขาดดุลตลอด 8 ปี ที่กู้ไปกว่า 5.7 ล้านล้านบาท
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือ softloan ช่วยเหลือผู้ประกอบการ พักเงินต้น แต่ไม่พักดอกเบี้ย ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากเท่าที่ควร และที่สำคัญ มาตรการช่วยเหลือประชาชน ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ปล่อยให้ประชาชนเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจตามยถากรรม ทำให้เกิดหนี้เสียเพิ่มขึ้น ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของประชาชน
อยากจะให้รัฐบาลคำนึงถึงความทุกข์ของประชาชน อย่าช่วยเหลือแต่นายทุนใหญ่เหมือนตอนวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เพราะรัฐบาลได้ช่วยลดหนี้ ประนอมหนี้ให้นายทุนใหญ่จนสามารถฟื้นตัวได้ จึงไม่มีเหตุผลที่จะทอดทิ้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19ได้
ดังนั้น แผนการใช้งบประมาณ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะการจัดทำงบประมาณปี 2566 จะต้องตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง และนโยบายใด ที่ไม่ช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นอย่างมีประสิทธิภาพต้องหยุดดำเนินการ ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยเอง ได้สร้างนโยบาย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้คนลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุดแข็งแรงที่สุดอีกครั้ง หลายนโยบายเช่น กองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก หรือ กองทุนคนตัวเล็ก
ซึ่งพรรคตั้งใจ สร้างขึ้นมาเพื่อมอบ “เครดิตแก่ประชาชน” ที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน ในการทำมาหากิน จนต้องไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบ และกองทุนนี้ จะเป็น “เครดิต” ที่มอบให้ติดตัว สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ1 ต่อเดือน กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาทโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ด้วยกระบวนการสินเชื่อที่แตกต่าง จากสถาบันการเงินทั่วไป จะช่วยสร้างพลังและปลดปล่อยคนไทย โดยเฉพาะคนตัวเล็กพ่อค้าแม่ขาย ให้หลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงินและสามารถตั้งตัวได้ ยิ่งไปกว่านั้น เงินส่วนนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้คนกรุงเทพฯสามารถลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด แข็งแรงที่สุดอีกครั้ง
