หลักการในเรื่องการตรวจสอบความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ รัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบ มาตรา 82 ระบุไว้ชัด กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประธานสภาส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ สามารถทำได้
ไม่จำเป็นว่ารัฐมนตรีคนดังกล่าวจะเป็น ส.ส.หรือไม่ก็ตาม ซึ่งรัฐธรรมนูญระบุไว้กรณีตรวจสอบความเป็นรัฐมนตรี สามารถทำการตรวจสอบได้สองช่องทางคือ ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือ คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นข้อเท็จจริงเองหรือมีใครไปยื่นคำร้อง ต่อ กกต. ก็สามารถดำเนินการได้
เมื่อข้อเท็จจริงยุติว่า กรณีการเข้าชื่อของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ตามรัฐธรรมนูญ จึงสามารถใช้ช่องทางการเข้าชื่อ 1 ใน 10 ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรได้
ขณะนี้เมื่อมีการรับคำร้องดังกล่าวมา ก็ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในการตรวจสอบคำร้อง ตรวจสอบลายมือชื่อของ ส.ส.ว่าถูกต้องเป็นจริงหรือไม่ และล่าสุดเจ้าหน้าที่รายงานว่า ลายมือชื่อของ ส.ส.ถูกต้องและเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ ขั้นตอนต่อไปก็จะเข้าสู่กระบวนการของการยกร่างคำร้องเพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรลงนามในคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป