วันที่ 23 สิงหาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนสน.ดินแดง ยื่นคำร้องฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ สำนวน ฝ893/2564 ซึ่งมี นายนนทกานต์ สาเทศ อายุ 19 ปี,นายมโหฬาร แซ่เอี้ยว อายุ 34ปีเป็นผู้ต้องหาที่ 1-2 เข้าร่วมชุมนุมก่อความวุ่นวายย่านดินแดง เนื่องจากต้องสอบปากคำเพิ่มอีก 5 ปาก รอผลตรวจลายนิ้วมือและประวัติต้องโทษผู้ต้องหาทั้ง2จากกองทะเบียนประอาชญากร จึงขอฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน นับแต่ 23ส.ค.-3ก.ย.
พฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค.เวลาประมาณ 17.00-20.00 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหลายคนมารวมตัวกันชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณถนนอโศกดินแดงต่อเนื่องถึงถนนวิภาวดีรังสิต แขวงดินแดงเขตดินแดงโดยในการชุมนุมดังกล่าว กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการขว้างปาประทัดระเบิดและใช้ลูกแก้วยิงด้วยหนังสติ๊กเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่มาดูแลสถานการณ์และขว้างปารวมทั้งยิงเข้าใส่ที่บริเวณสถานที่ราชการจนเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานตำรวจควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย
หน้ากากอนามัยทรงเกาหลี กันฝุ่น กันไวรัส ทรงเกาหลี 3D หน้ากากอนามัย เกาหลี KF94 สินค้า1แพ็ค10ชิ้นสุดคุ้ม ส่งเร็วภายใน 24 ชม.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ที่บริเวณดังกล่าวได้ โดยพบนายนนทกานต์ , นายมโหฬาร ซึ่งเป็นผู้ร่วมชุมนุมมั่วสุมก่อให้เกิดความวุ่นวาย ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับกุมตัวได้ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น พบหนังสติ๊กสำหรับใช้ยิงวัตถุใส่เป้าด้ามเป็นไม้จำนวน 1อันอยู่ในมือของนายนนทกานต์ฯ และพบโทรศัพท์มือถือซัมซุง เมื่อทำการตรวจค้นตัวนายมโหฬารฯ ก็พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน สอบถามผู้ต้องหาทั้ง2 ให้การว่าได้ใช้โทรศัพท์มือถือดังกล่าวในการถ่ายภาพการชุมนุมและติดต่อกับผู้ชุมนุมรายอื่น ๆ เพื่อนัดหมายมาชุมนุมกันเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นพีซีเอ็กซ์สีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นฟิราโน่สีเขียวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อทำการตรวจสอบในภายหลังด้วย
สอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคนในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215ให้เลิกไป แต่ผู้นั้นไม่เลิก, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยได้กระทำโดยมีและใช้อาวุธและร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไปร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83 ,138วรรคสอง,140วรรคแรก,216,296, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อพ.ศ.2548 มาตรา 18,34,35,52, ข้อกำหนดมาตรา9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินพ.ศ.2548 (ฉบับ30) ประกาศของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงเรื่องห้ามชุมนุมการทำกิจกรรมการมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19(ฉบับที่7)
เหตุเกิดที่ หน้าศูนย์จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงดินแดง เขตดินแดงกรุงเทพฯ