โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ เปิดตัวทีมบริหารใหม่ มุ่งขับเคลื่อนโรงแรมไปข้างหน้าด้วยแนวคิด Revival of The Original

ชาวกรุงเทพฯ ได้ดีใจกันอีกครั้งเมื่อฝั่ง North Wing ของโรงแรมระดับตำนานอย่าง โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ กลับมาเปิดทำการหลังปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ ด้วยโฉมใหม่ภายใต้แนวคิด ‘Revival of The Original’ ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันระหว่างตระกูลตันตกิตติ์ เจ้าของโรงแรมกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ Conduit House จากฮ่องกง

การปรับปรุงครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่การปรับเปลี่ยนหน้าตาของอาคารเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนการนำโรงแรมที่เรียกได้ว่าเป็น ไอคอนของกรุงเทพฯ มาตีความใหม่ ผ่านการผสมผสานประวัติศาสตร์อันเก่าแก่กับการตกแต่งภายในและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งในเมืองไทยและจากต่างประเทศ

เพื่อตอกย้ำความพร้อมในการผลักดันให้โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ กลับมาเป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นนำของกรุงเทพฯอีกครั้ง และเพื่อให้รับกับการเปิดตัวเฟสแรกหลังปรับปรุงครั้งใหญ่ ตระกูลตันตกิตติ์ จึงได้แต่งตั้งทีมผู้บริหารใหม่ โดยจับคู่ผู้บริหารที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการโรงแรมระดับห้าดาวมากว่า 30 ปี กับผู้จัดการหนุ่มชาวไทยที่รู้จริงเรื่องตลาดผู้บริโภคในเมืองไทย ทั้งคู่พร้อมแล้วที่จะผนึกกำลังกันในการสื่อเอกลักษณ์ความเป็น มณเฑียรถึงทั้งชาวไทยและชาวโลก

มร. ปิแอร์ อังเดร เพเลเทียร์ (Pierre-André Pelletier) ผู้มารับตำแหน่ง Area General Manager ของโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ และโรงแรม 56 สุรวงศ์ มีประสบการณ์ด้านการโรงแรมมากกว่า 25 ปี โดยเคยดูแลโรงแรมหลายแห่ง ทั้งที่ภาคใต้ของไทยไปจนถึงเวียดนามและมัลดีฟส์

เขาเองยังเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมการโรงแรมและการท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาผงาดอีกครั้ง ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้ประเทศไทยแตกต่าง คำตอบของผม คือ คนไทยครับ มีเหตุผลที่ทำไมชาวต่างชาติจึงเรียกประเทศไทยว่าเป็น สยามเมืองยิ้มและทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม การบริการแบบไทยๆ ขึ้นชื่อเรื่องความจริงใจ เอาใจใส่เป็นพิเศษ และที่สำคัญ ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท ทั้งภูเขา ทะเล ไปจนถึงเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ไทยเป็นประเทศที่มีพัฒนาการอยู่เสมอ และจะเป็นแบบนี้ต่อไปครับ

ในอนาคตถ้าวิกฤตโควิด-19 นี้จบลง ผมเชื่อว่าประเทศไทยพร้อมที่จะฟื้นตัว เราสามารถปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ต่อไปได้ และกลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อีกเหมือนเดิมครับมร.ปิแอร์กล่าว

เมื่อโอกาสในการร่วมงานกับโรงแรมมณเฑียรฯ มาถึง เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะคว้าเอาไว้ ยิ่งผมได้ทราบเกี่ยวกับประวัติของโรงแรมมณเฑียรฯ เท่าไหร่ ผมรู้เลยว่านี่เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ โรงแรมแห่งนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจมาก และยังมีความเป็นมายาวนานกว่า 50 ปี เคยรับรองบุคคลสำคัญมากมาย ทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย ของต่างประเทศและดาราฮอลลีวู้ด ตัวอาคารเองก็เป็นมรดกด้านการออกแบบ ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน

“โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้แนวคิด ‘Revival of The Original’ ตระกูล    ตันตกิตติ์ และ Conduit House ได้เปลี่ยนโฉมพื้นที่ทั้งหมดของโรงแรมโดยเน้นที่การนำเสนอเอกลักษณ์ในอดีตผ่านรายละเอียด และเทคโนโลยียุคใหม่ที่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นครับ”

มร. ปิแอร์ที่รับตำแหน่งรองประธานด้านการบริหารสินทรัพย์ของ Conduit House กล่าว นอกจากวิกฤตโควิด-19 แล้ว สิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับผมน่าจะเป็นโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรจึงจะส่งต่อเอกลักษณ์ของความเป็นโรงแรมมณเฑียรฯ ให้กับแขกของเราได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด เราเป็นโรงแรมที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราว แต่ก็เข้าใจความต้องการของคนยุคใหม่ด้วย เป้าหมายของเราคือ การทำให้โรงแรมมณเฑียรฯ กลับมาเป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นนำของกรุงเทพฯ และภูมิภาคนี้อีกครั้งครับ

ในส่วนของตลาดในไทยเอง ทางโรงแรมได้ สุชานนท์ มงคลธง มาร่วมทีมในฐานะ Hotel Manager ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี กับเครือโรงแรมชั้นนำอย่าง ชีวาศรม แชงกรี-ลา และแมริออท บวกกับความเข้าใจในตลาดคนรุ่นใหม่ ผู้จัดการหนุ่มไฟแรงผู้นี้ พร้อมแล้วที่จะนำเสนอโรงแรมที่มากด้วยประวัติศาสตร์แห่งนี้ต่อกลุ่มลูกค้าใหม่

โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนพื้นที่ทำเลทอง ที่ใกล้ทุกอย่างเลยครับแต่ที่นี่ก็มีความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวายจนเกินไป ในส่วนของเทคโนโลยีนั้น เรามีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เช่น ลำโพงบลูทูธในทุกๆ ห้อง รวมถึงแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ส่วนของงานจัดเลี้ยง เรามีไฮไลต์อยู่ที่ห้องราชมณเฑียร แกรนด์บอลรูมที่มี LED video wall และจอ LED ติดตั้งบนเสาทั้งหมด เป็นนวัตกรรมที่เรียกได้ว่าล้ำหน้ามากครับ”  คุณสุชานนท์กล่าว และที่สำคัญที่สุด เรามีความเป็นมณเฑียรที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน เราได้แรงบันดาลใจจากประเทศไทยและจากทั่วโลกและวันนี้เราได้ปรับลุคแบรนด์ของเรา เพื่อที่จะสามารถสร้างประสบการณ์แบบ ที่เดียวในโลกได้ที่นี่ครับ

คุณสุชานนท์เชื่อว่า ความเป็นมณเฑียรนี้เอง ที่จะเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ แบรนด์ของเรามีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งถูกบอกต่อกันมารุ่นต่อรุ่นครับ ผมยังจำได้ว่าตอนผมยังเด็ก โรงแรมนี้ยิ่งใหญ่มาก และห้องอาหารก็ดังมากด้วย การได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่จะมาเติมชีวิตชีวาให้กับโรงแรมมณเฑียรฯ ไม่ได้เป็นแค่ความก้าวหน้าทางอาชีพเท่านั้น แต่เป็นเหมือนรางวัลชีวิตของผมเลยครับ โรงแรมมณเฑียรฯ ในวันนี้ยังคงมีรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เหมือนเช่นเมื่อก่อน  ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม แต่ยังเป็นบ้านไทยร่วมสมัย ที่พรั่งพร้อม ด้วยการผสมผสานมาตรฐานด้านการโรงแรมระดับห้าดาวเข้ากับความจริงใจและเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด ทำให้พนักงานของเราสามารถให้บริการได้อย่างน่าประทับใจ ที่นี่จึงเป็นที่ที่สร้างความรู้สึกอบอุ่นและความทรงจำดีๆ จากรุ่นสู่รุ่น

คุณสุชานนท์กล่าวว่า หนึ่งในข้อดีของการไม่ได้เป็นเครือโรงแรมใหญ่คือ ทางโรงแรมฯ สามารถรักษาความเป็นไทยไว้ได้อย่างเหนียวแน่น อีกทั้งยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วได้ง่าย เราตัดสินใจได้เร็วกว่า และสามารถปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงได้ครับ ยกตัวอย่างเช่น เราศึกษาอย่างละเอียดว่าคนรุ่นใหม่มีอะไรแล้ว และต้องการอะไรบ้าง (เช่น เรื่องโทรศัพท์มือถือ การเชื่อมต่อ ฯลฯ) และข้อมูลนี้ทำให้เราแตกต่างจากแบรนด์ระดับนานาชาติอื่นๆ ครับ นอกจากนี้ ความเป็นแบรนด์ไทยยังช่วยให้เราทำงานหรือทำกิจกรรมทางสังคมกับชุมชนรอบๆ สุรวงศ์และสีลมได้ง่ายขึ้นด้วยครับ

และผมมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างความท้าทายให้มากกว่าทุกครั้ง ดังนั้นเราจึงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในหลายๆ ทาง ยิ่งมีหลายทางยิ่งดี เราต้องมองย้อนกลับไปยังอดีต และใช้ประโยชน์จากประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณปิแอร์ ผมคิดว่าเราสองคนทำงานแบบพึ่งพาอาศัยกันนะ ผมต้องพึ่งคุณปิแอร์เรื่องการจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ที่มีผลกระทบต่ออัตราการเข้าพัก และความเชื่อมั่นของลูกค้า ในขณะที่ผมเองก็สามารถช่วยเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ที่ผมมีความคุ้นเคยมากกว่าครับ

เมื่อเสร็จสิ้นการปรับปรุงห้องพักและห้องสวีททั้งหมดในฝั่ง North Wing รวมถึงการเปิดตัวห้องอาหารระดับรางวัลอย่างห้องอาหารเรือนต้น, พระรามสี่ บิสโตร โดยเชฟแอร์เว่ แฟร์ราด, ห้องราชมณเฑียร แกรนด์ บอลรูมและพื้นที่ส่วนกลางส่วนอื่นๆ มร. ปิแอร์กล่าวว่า โรงแรมมณเฑียรฯ พร้อมแล้วที่จะก้าวไปอีกขั้น เตรียมพบกับเฟสต่อไปของเราได้เลยครับ ฝั่ง South Wing มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ โดยจะมาพร้อมกับ Garden Lounge และห้องมณเฑียรทิพย์ ที่ประดับภาพจิตรกรรมฝาผนังของอาจารย์ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ นอกจากนี้ เรายังภูมิใจนำเสนอ Le Gourmet Grill ที่จะมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่

ที่ผ่านมา เราได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากแขกและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเรา ผมเองก็รู้สึกภูมิใจมากที่ได้เข้ามาดูแลที่นี่ และรอที่จะเป็นส่วนหนึ่งของตำนานบทใหม่ของโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ที่จะเผยโฉมเต็มรูปแบบในเร็วๆ นี้ ครับ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ ได้ที่เว็บไซต์ https://montienbangkok.com, Facebook @montiensurawongbkk หรือโทร.066-2233-7060

Written By
More from pp
“อนุชา” ห่วงใยผู้ป่วยโควิด เปิดโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิดจังหวัดชัยนาทและจังหวัดใกล้เคียง
4 กรกฎาคม 2564 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท ต.เขาพลอง อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท
Read More
0 replies on “โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ เปิดตัวทีมบริหารใหม่ มุ่งขับเคลื่อนโรงแรมไปข้างหน้าด้วยแนวคิด Revival of The Original”