คปภ. ลงพื้นที่ช่วยเหลือกรณีรถตู้ประสานงากับรถบรรทุกที่อุบลราชธานีมีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ตรวจพบแล้วมีการทำประกันภัย พร้อมเร่งรัดการจ่ายสินไหมเพื่อเยียวยาความสูญเสียโดยเร็ว

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถตู้หมายเลขทะเบียน นค-8905 ชลบุรี ชนกับรถบรรทุกหมายเลขทะเบียน 83-6454 อุบลราชธานี บริเวณถนนวารินชำราบ – เดชอุดม กม.14 ตำบลเมืองศรีไค อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และผู้บาดเจ็บ 4 ราย เหตุเกิด เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 นั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) และ สำนักงาน คปภ. จังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) ว่า รถตู้หมายเลขทะเบียน นค-8905 ชลบุรี ที่ผู้ประสบภัยโดยสารมานั้น ได้ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์เลขที่ 190001/M007150321 เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 2 ตุลาคม 2562 สิ้นสุดวันที่ 2 ตุลาคม 2563 โดยให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร จำนวน 300,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีความเสียหายต่อร่างกายหรืออนามัย จำนวน 80,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน จำนวน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

ในส่วนของรถบรรทุกหมายเลขทะเบียน 83-6454 อุบลราชธานี ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 07205-62303/กธ/6134981 เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 นอกจากนี้พบว่ารถบรรทุกดังกล่าวมีประกันภัยภาคสมัครใจ ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 12570-62213/กธ/021592-10 เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 2 เมษายน 2562 สิ้นสุดวันที่ 2 เมษายน 2563 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก สำหรับความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. 300,000 บาทต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง และความเสียหายต่อทรัพย์สินจำนวน 1,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อตัวรถ 1,100,000 บาท สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 50,000 บาท ผู้โดยสาร 2 คน จำนวน 50,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 50,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 500,000 บาทต่อครั้ง

จึงได้สั่งการให้ สำนักงาน คปภ. จังหวัดอุบลราชธานีประสานกับบริษัทประกันภัยดังกล่าวเพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้บาดเจ็บและทายาทผู้สูญเสียโดยเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ซึ่งบริษัทประกันภัยจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จังหวัดอุบลราชธานี ได้แจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยให้กับโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ รับทราบเพื่อดำเนินการต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้เร่งติดตามให้มีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิดังกล่าวโดยเร็ว

ในเบื้องต้นจากกรณีเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้โดยสารรถตู้จำนวน 6 ราย จะได้รับเงินเยียวยาจากประกันภัยภาคบังคับ(พ.ร.บ.) รายละ 300,000 บาท ส่วนผู้ขับขี่รถตู้ที่เสียชีวิต จะได้รับการเยียวยาเบื้องต้นจำนวน 35,000 บาท เนื่องจากต้องรอผลคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้โดยสาร จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 80,000 บาท ตามสิทธิของประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และในกรณีที่พิสูจน์แล้วพบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเป็นความประมาทของผู้ขับขี่รถบรรทุก ทายาทผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยภาคสมัครใจอีกไม่เกินรายละ 300,000 บาท และ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจ่ายจริงอีกไม่เกินรายละ 300,000 บาท ส่วนผู้ขับขี่รถตู้ที่เสียชีวิตหากพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นฝ่ายประมาททายาทจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เพิ่มอีก 265,000 บาท นอกจากนี้ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบอุบัติเหตุมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย

“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น รวมทั้ง เตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมในระหว่างการใช้รถใช้ถนนและหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้าไปช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

Written By
More from pp
“แม่ตกงานแต่ลูกต้องไม่อดนม” ถ้าทุกคนช่วยเหลือกัน โฆษกรัฐบาล เยี่ยมชมให้กำลังใจ “โครงการแม่ตกงานลูกอดนม” โดยโฆษกชุมชนและเพจอีจัน
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า “วันนี้ลงมาพื้นที่ หอประชุม โรงเรียนพิบูลประชาสรรค์ เพื่อให้กำลังใจและชื่นชม ทีมงาน ใน “โครงการแม่นมอีจัน” และ...
Read More
0 replies on “คปภ. ลงพื้นที่ช่วยเหลือกรณีรถตู้ประสานงากับรถบรรทุกที่อุบลราชธานีมีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ตรวจพบแล้วมีการทำประกันภัย พร้อมเร่งรัดการจ่ายสินไหมเพื่อเยียวยาความสูญเสียโดยเร็ว”