สันต์ สะตอแมน
แค่นายกฯ อนุทินหยอดมุก..
“อยากนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่เจอเข้าไป 4 ภัย ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ”
นักการเมืองผู้มั่นคงอุดมการณ์ มากความรู้ ความสามารถอย่างคุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไงจึงได้ถือเป็นจริงเป็นจังถึงขนาดเขียนข้อความแล้วโพสต์..
“ผมฟังท่านนายกรัฐมนตรีอนุทิน พูดว่า ช่วงนี้ อยากมีนามสกุล “หลีกภัย” แต่กลับได้นามสกุล “เจอภัย”
ผมไม่รู้ว่า ท่านนายกฯ พูดโดยมีเจตนาอย่างไร และมีวัตถุประสงค์อะไร ผมว่า ถ้านายกฯ จะเปลี่ยนนามสกุล ผมแนะนำให้เปลี่ยนเป็น “โอษฐภัย”
ผมเห็นด้วยกับที่คุณเดชอิศม์ ขาวทอง พูดว่า ท่านนายกฯ เป็นได้เพียงพระรอง มิใช่พระเอก แต่เมื่อจับพลัดจับผลู ได้แสดงบทพระเอก หนังมันก็ออกมาอย่างนี้แหละครับ
ปกตินามสกุลนี่เขาไม่ให้ตั้งซ้ำกันนะครับ และหากจะไปใช้นามสกุลของคนอื่น ก็ต้องให้ต้นกระกูลเขายินยอมให้ใช้ ซึ่งทำยากมาก
หากนายกฯ จะเปลี่ยนนามสกุล ผมแนะนำให้พรุ่งนี้ ท่านขึ้นไปที่ ที่ว่าการอำเภอ แล้วบอกนายอำเภอว่า ขอเปลี่ยนนามสกุลเป็น “โอษฐภัย” รับรองไม่ซ้ำกับใคร
ไม่ถึงครึ่งวันเดินลงจากที่ว่าการอำเภอ พร้อมกับนามสกุลใหม่ “โอษฐภัย” ทำเถอะครับ เชื่อผม”
เนี่ย..คุณนิพิฏฐ์จะแห้งแล้งอารมณ์ขันไปไหม? เป็นนักการเมืองคุณภาพ มาดผู้ดี มีความรู้ระดับทนายความใหญ่ ก็ไม่เห็นจะต้องจริงจัง ซีเรียสไปเสียทุกเรื่อง
ยิ้ม-ขำ-หัวเราะดังๆ บ้างก็ได้ มันคงไม่ทำให้แคมเปญ “สส.ที่ดี..คุณเองก็เป็นได้นะ” ของพรรคประชาธิปัตย์ต้องเสื่อมเสียหรอกกระมัง?
คนฉลาดเป็นกรด คารมคมคายอย่างคุณนิพิฏฐ์น่ะหรือที่จะไม่รู้ ว่าท่านนายกฯ พูดโดยมีเจตนาอย่างไร และมีวัตถุประสงค์อะไร?
เพราะขนาดชาวบ้านทั่วไปต่างก็รู้ดีว่านายกฯ ไม่ได้มีเจตนาลึกลับซับซ้อนอะไร เป็นเพียงการ “หยอดมุก” อยากมีนามสกุลหลีกภัย..
เพื่อจะได้ไม่ต้องเจอกับ “ภัย” ต่างๆ นานา ที่ถาโถมเข้าใส่ ก็เท่านั้น!
สื่อแต่ละสำนัก ก็ได้นำคำพูดมาพาดหัวข่าวอย่างเรียบง่าย อย่างเช่น.. “อนุทินโอด อยากนามสกุล “หลีกภัย” แต่กลายเป็น “เจอภัย”
เนื้อข่าวก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ไปกระทบกระเทือนถึงอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย เจ้าของนามสกุล โดยคุณอนุทินพูดแต่เพียง..
“ผมมองว่าปีนี้อาจจะต้องมุ่งเน้นแก้ปัญหา 4 ภัย คือ ภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ
และยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามทำนโยบาย Quick Big Win เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลชีวิตพวกเขาได้ ให้เกิดความผาสุก
ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมอยากจะนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่ผมกลายเป็นนามสกุล ‘เจอภัย’”
ครับ..ชัดเจนในเจตนาที่นายกฯ พูด ซึ่งไม่ได้ทำให้ใครต้องเดือดร้อน แม้กระทั่งคุณชวน หลีกภัย ก็คงไม่ได้เก็บมาคิดหรือติดใจอะไร
มีก็แต่คุณนิพิฏฐ์ที่หงุดหงิดใจ ถึงกับแนะนำให้คุณอนุทินไปเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น “โอษฐภัย” ซึ่งต้องการหรือเจตนาอะไร-อย่างไร ผมไม่รู้!
เหมือนกับ “ไม่รู้” ว่าข้อความ.. “หรือว่าจะเอาภัยพิบัติน้ำท่วม มาปกปิด ข่าวสแกมเมอร์???? คิดว่าคงไม่เลวขนาดนั้น”
ที่เพจพรรคประชาชน–People’s Party ของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาชนโพสต์วันก่อนนั้น มาจากสมอง (อัจฉริยะ) ของ สส.หรือใครคนไหน?
เพราะคนธรรมดาสามัญทั่วไปเห็นจะคิดไม่ได้ ต้องระดับ สส.ในพรรคประชาชนเท่านั้นที่จะฉลาดปราดเปรื่องคิดได้ถึงขั้นหลุดโลกไปไกลเช่นนี้
แต่..โทษที มันช่างเป็นความคิด-จินตนาการที่ “โคตรเลว” ได้แรงอก (ว่ะ)!.
