“พระเอกเค้ามาแล้ว”! #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

คนอื่นหลบไป…..

“พระเอก” เค้ามาแล้ว!

ไม่ใช่ ณเดชน์ หรือ เจมส์ จิ แต่เป็น “นายกฯ หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” เขามาเปิดตัว “ผู้ช่วยพระเอก” และดาราในคณะภูมิใจไทยที่ “โรงละครอักษรา” คิง เพาเวอร์ เมื่อวาน (๒๔ ธ.ค.๖๘)

ต้องบอกว่า “ตลาดแตก”!

เพราะหลังจากผมอ่านนโยบายเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทยที่นายกฯ แถลงจบ ก็ไถเฟซ ดูข่าวอื่นไปเรื่อยๆ

อะไร(วะ)เนี่ย….(ยกมือทาบอก อุทานในใจดังๆ)

“นายกฯหนู มี “พ่อยก-แม่ยก” สนใจติดตามขนาดนี้เลยรึเนี่ย?!

ไม่ใช่ติดตามกรี๊ดดด แต่ติดตามฟัง ฟังแล้วเก็บประเด็นมาโพสต์ แสดงว่า เป็นแฟนประเภท “บุคคลคุณภาพ”

“เน้นเนื้อหาสาระ” และการกระทำ

ไม่ใช่ประเภทสมองฝ่อ “ตามแห่-ตามเห่อ” ไปเรื่อย แยกแยะไม่ได้ระหว่างนักปฎิบัติการ กับนักปฎิบัติกิน และนักพล่ามทางการเมือง!

“โซเชียลมีเดีย” เมื่อวาน จึงถูกแฟนๆ นายกฯ รวมทั้งแฟนๆ คุณศุภจี คุณสีหศักดิ์ และคุณเอกนิติ ยึดพื้นที่เรียบ

ผมก็เลยสบาย อาศัยเป็น “แมงดาเกาะหลัง” จากที่เขาโพสต์กันจนอ่านไม่หวัด-ไม่ไหว นำมาหากินไปอีกวัน!

เริ่มจากที่คุณ…. “I’m Proud” โพสต์

“ภูมิใจไทย” แถลงนโยบายเลือกตั้งปี 69 ภายใต้สโลแกน “พูดแล้วทำพลัส”

‘อนุทิน’ นำทีม “สีหศักดิ์ – เอกนิติ – ศุภจี – ไชยชนก – ซาบีดา” โชว์วิสัยทัศน์ ดันนโยบายทุกมิติ

ในสโลแกน “พูดแล้วทำพลัส”

สำหรับการแถลงนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้ 4 ปัญหาหลัก คือ เศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม และภัยพิบัติ

อาทิ คนละครึ่งพลัส, นำเศรษฐกิจเติบโต GDP 3% พลัส, เศรษฐกิจสีเขียว, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ +(บัตรคนจนใหม่), ค่าไฟต่ำ 3 บาท, รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า

Barter trading (เช่น ซื้อเครื่องบินจ่ายด้วยสินค้าเกษตร ผลผลิตไม่ตกค้าง, จ้างผู้สูงอายุทำงาน (สูงวัยมีรายได้),

พยาบาลอาสา (15,000/4ปี ลูกหลานกลับบ้านมีงานทำ ดูแลผู้สูงวัยถึงที่), กองทุนภัยพิบัติ, เรียนฟรีต้องมีจริง,

สร้างกำแพงความมั่นคงปกป้องคนไทย จากภัยคุกคาม สกัดลักลอบนำเข้า, ทหารอาสา 1 แสนอันตรา เงินเดือน 12,000 บาท Up-skill  Re-skill เป็นนายสิบ และศูนย์บำบัดยาเสพติดทุกอำเภอ

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายและแสดงวิสัยทัศน์ นายอนุทินได้สวมกอดนางศุภจี พร้อมระบุว่า

“เหนื่อยไหมครับ” ก่อนจะบอกว่า

“ที่ถาม เพราะจากวันนี้ไป ทุกคนจะเหนื่อยเป็นพันเท่า ซึ่งผมมั่นใจว่า ทุกท่านต้องการเหนื่อย มีความสุขในการทำงานอย่างหนัก

ถ้าจะเหนื่อยเพื่อชาติชาติ ประชาชน พวกเราอยากเหนื่อยมากๆ อยากเหนื่อยแสนสาหัส เพื่อให้ประชาชนหายเหนื่อย”

อนุทิน กล่าวต่อว่า

“มีคำถามระหว่างการแถลงบนเวทีจากโซเชียลมีเดียว่า

“นำคนเก่งมาหมดเลย….

แล้วมึงจะเป็นนายกรัฐมนตรีทำไม?”

คำตอบของผม คือ “เป็นนายกฯ เพื่อที่จะให้คนเก่งเหล่านี้ได้มาทำงานด้วยกัน

เพราะเชื่อว่า “ไม่มีใครตื๊อเก่งเท่า”

ซึ่งเราจะรวมพลังกันกับพรรคพวกทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการประจำ ภาคเอกชน สร้างบ้าน แปลงเมืองให้ไทยมีอนาคตที่สดใส มั่นคง มั่นคง ยั่งยืน”

รายต่อไป เป็นโพสต์ของคุณ “Adul Chomsri”

“ต้องยอมรับว่านายอนุทิน ณ เวลานี้เรตติ้งพุ่งกระฉูดฉุดไม่อยู่แล้ว เกิดจากการที่ท่านได้ “แสดงจุดยืน” ที่ชัดเจนหลายๆ เรื่อง แสดงถึงการเป็น “ผู้นำที่ดี”

โดยเฉพาะปัญหา “ชายแดนไทย-เขมร” เอาแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็ได้ใจไปเต็มๆ แล้ว”

ต่อไป เป็นโพสต์ของคุณ “Rossukhon Varachai”

บทบาทสำคัญในการเลือกตั้ง

ท่านศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้รับการเปิดตัวเป็นหนึ่ง

ใน “ดรีมทีม” ด้านเศรษฐกิจของพรรคภูมิใจไทย

วางตัวเป็น “รองนายกรัฐมนตรี”

นายอนุทินระบุ หากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะเสนอชื่อท่านศุภจีเป็นหนึ่งใน “รองนายกฯ”

ร่วมกับท่าน “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” และท่าน “สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว”

ไม่ใช่ “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรี

แม้จะมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า เธออาจเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ แต่นายอนุทิน ได้ยืนยันในการแถลงข่าววันนี้ ว่า

ท่านศุภจีและท่านเอกนิติ “จะไม่นั่งในบัญชีแคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีของพรรค

การชูนโยบาย

ท่านศุภจีได้ร่วมแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจและการค้า โดยเน้นผลักดันนโยบาย “เทรดพลัส(Trade Plus)” และ “ไทยแลนด์พลัส”

เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการค้าของประเทศ

สโลแกนพรรค

พรรคภูมิใจไทยได้เปิดตัวสโลแกนใหม่คือ “พูดแล้วทำพลัส” เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า

ความเคลื่อนไหวนี้

ถือเป็นการเสริมทัพภาคเศรษฐกิจของพรรคภูมิใจไทยด้วยผู้บริหารมืออาชีพจากภาคเอกชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เล่นในตลาดและประชาชนก่อนเข้าสู่ศึกเลือกตั้ง

ในส่วนตัวผู้เขียน..ขอแสดงความเห็นว่า..

แค่ท่านทั้ง 3 ยังอยู่ช่วยงาน ก็ขอบคุณท่านมากๆ แล้ว

อย่างที่ทราบกันตั้งแต่ต้น ท่านทั้งไม่ใช่นักการเมือง มั่นใจว่าท่านตั้งใจทำงานจริงๆ เลยไม่ได้สนใจตำแหน่งอย่างที่ประชาชนทุกภาคส่วนเชียร์ท่าน

หลายคนอาจผิดหวังเล็กน้อย ที่ท่านไม่รับตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ มั่นใจว่าท่านคิดและตัดสินใจดีแล้ว

ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ติดตามผลงานท่านมาตลอด  รู้สึกขอบคุณท่านมากๆ

ขอบคุณและขอบคุณนะคะที่ยังอยู่ตรงนี้ให้ประชาชนยังมีความหวัง

ขอบคุณที่สุดค่ะ “นางฟ้าของฉัน” 🥰🥰🙏🏼🇹🇭

ท่านต่อไปเป็นโพสต์ของท่าน “กวีเหลวไหลแท้”

ตั้งแต่นโยบายประชานิยมบานเป็นดอกเห็ด ประชาชนฝ่ายอนุรักษ์อย่างเรา ผิดหวังผลจากการเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่

น้อยครั้งมากที่ พรรคเราเลือกได้จัดตั้งรัฐบาลสมความตั้งใจ

ความไม่ละอายที่เสนอนโยบายประชานิยม เอางบประมาณมาละลายน้ำหาเสียงและแบ่งกันกิน

ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งจนยากจะล้มลงได้ ขณะที่พรรคที่เราเลือกก็แบ่งเป็นพรรคเล็กพรรคน้อย แย่งหากินกันในคุ้งน้ำเดียวกัน

ทำให้มีเสียงไม่พอที่จะขึ้นเป็นพรรคลำดับหนึ่ง สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างสมภาคภูมิ

เลือกตั้งครั้งนี้….

ถ้าไม่อยากตื่นมาแล้วพบกับความหงุดหงิดว่า นายกฯจะโชว์โง่ตลกอะไร คณะรัฐมนตรี มีแผนจะผลาญงบประมาณอะไรอีก เทปลับจะหลุดเรื่องอะไร จะแก้ 112 แก้รัฐธรรมนูญมั้ย ฯลฯ

เราต้องเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ของความเป็นไปได้

นั่นคือ ก้าวข้ามความชอบเดิม ความชอบส่วนบุคคล เพื่อเลือก “พรรคใด-พรรคหนึ่ง” ที่มีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลสักพรรค

ตอนแรก หนักใจกับการที่ประชาธิปัตย์ “รักเก่าที่บ้านเกิด” กลับมาถ่านไฟเก่าอีกครั้ง เพราะรักพี่เสียดายน้องอยู่ไม่น้อย

แต่ก็สบายใจขึ้น เมื่อหัวหน้าอภิสิทธิ์ยังคงเป็นสไตล์เดิม

ดังนั้น สรุปได้แล้ว….

ส่วนตัวจะ “เลือกภูมิใจไทย” เพื่อให้อนุทินเป็นนายก ศุภจี สีหศักดิ์ เอกนิติ เป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรี

ยิ่งถ้าภูมิใจไทย “แลนสไลด์” ได้เกินครึ่ง ก็จะได้ไม่ต้องร่วมกับธรรมนัสให้คนนินทา…

You may say I’m a dreamer but I’m not the only one…

“มินิมอล Homie” คือเจ้าของโพสต์รายต่อไป

“อนุทิน ไม่ธรรมดาเลย! เผยนโยบายสร้างกำแพงชายแดน เปิดรับทหารอาสา 1 แสนนาย รับราชการ 4 ปี เงินเดือน 12,000 บาท

พร้อมสนับสนุนกองกำลังทหารทุกด้าน เพื่อให้ประเทศไทยมีกำลังพลและกองทัพที่แข็งแกร่ง”

ต่อไป “Niti Wattana” โพสต์ “๘ กุมภา.จะเลืกพรรคไหน?”

เรื่องสำคัญของประเทศชาติที่ต้องการแก้ปัญหาเร่งด่วน ณ เวลานี้คือ ปากท้อง และปกป้องอธิปไตย

จึงขอตอบคำถามเพื่อนตรงนี้ว่า “เลือกพรรคไหนก็ได้” ที่มีทั้ง 3 ท่านนี้

“คุณศุภจี-คุณเอกนิติ-คุณสีหศักดิ์”

ปล.การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่แค่รักษาสิทธิ แต่หมายถึง #การรักษาอธิปไตยของชาติ 🇹🇭

“เห็นต่างได้ ไม่แตกแยก แต่ต้องเคารพสิทธิกันและกัน”

รายต่อไป “ฮ่องเต้ ถังแตก” แสดงว่าเป็น “แฟนพันธุ์แท้” หยิบนโยบายที่ตรงใจมาโพสต์

“อนุทิน” ชูนโยบาย “รั้วของชาติ” สกัดภัยความมั่นคง–คุกคามเศรษฐกิจชายแดน-สังคม

🪖เปิดรับสมัคร #ทหารอาสา 1 แสนคน เงินเดือน 12,000 บาท เพื่อสร้างกำลังพลที่สมัครใจ มาฝึก มีความเป็นมืออาชีพ มีโอกาสศึกษาต่อหรือสอบเลื่อนตำแหน่งเป็นนายสิบ และตำแหน่งที่สูงขึ้นในอนาคต

🔹ถ้าเลือก #พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐบาล

ได้ #อนุทิน เป็นนายกฯ + 3 รองนายกฯ

🔹#ศุภจี – #เอกนิติ – #สีหศักดิ์ คุมพาณิชย์-คลัง-การต่างประเทศ

🔹คนละครึ่งพลัส

🔹ค่าไฟ ต่ำกว่า 3 บาท 🔥

🔹สูงวัยมีรายได้

🔹เปลี่ยนทหารเกณฑ์ เป็นทหารอาสา มีเงินเดือน พร้อมปั้นนายสิบ ปกป้องอธิปไตย

อีกซัก ๒ รายนะ เริ่มจาก “Thenewsroom.co”

2 เดือนแรก…พิสูจน์ด้วยผลงาน ไม่ใช่คำพูด

เพียงเวลาไม่ถึง 2 เดือน สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ “ความหวัง”

แต่คือ ผลลัพธ์ที่จับต้องได้

• คนละครึ่งพลัส

เงินสะพัดกว่า 50,000 ล้านบาท

กระตุ้นเศรษฐกิจจริงถึงร้านเล็ก–รายย่อย ไม่ใช่แค่สโลแกนสวยหรู

• ข้าวไทยบุกตลาดโลก

ส่งออกจีน–สิงคโปร์กว่า 600,000 ตัน

เกษตรกรมีรายได้ ชาวนาไทยมีรอยยิ้มกลับมาอีกครั้ง

• เวทีระหว่างประเทศ

ไทยยืนหยัดต่อสถานการณ์ชายแดน

ไม่ก้มหัว ไม่ถอยศักดิ์ศรี

ทวงคืนศักดิ์ศรีประเทศไทยให้โลกได้เห็น

นี่คือผลงานในเวลาเพียง 2 เดือน

แล้วถ้าได้ทำงานต่อเนื่องครบ 4 ปี

ประเทศไทย…จะไปได้ไกลแค่ไหน

เงื่อนไขมีเพียงข้อเดียว

ประเทศไทย ต้องได้นายกรัฐมนตรีชื่อ “อนุทิน”

เพื่อเปลี่ยน “ความหวัง”

ให้กลายเป็น ความจริง

ตบตูดด้วยโพสต์ของ “คุณม๊วฟ 𝐂𝐡𝐚𝐭𝐭𝐞𝐫” ดังนี้

“ไม่เคยชอบอนุทิน…

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า “รัฐบาลชุดนี้ กล้าชนเขมรที่สุดในรอบหลายปี ทุกคนคิดว่าไง?”

……………………………….

เอาละ ตาผมมั่ง เมื่อวาน เขมรส่งหนังสือถึงไทย

“ขอเจรจาหยุดยิงตามกลไก GBC”!!!

ฝ่ายไทยตอบไปว่า “เขมรต้องพิสูจน์ความจริงใจตาม ๓ เงื่อนไขหลักก่อน”

แปลว่า “หมาเชื่อได้ แต่เขมรเชื่อไม่ได้”!

เปลว สีเงิน

๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๘