สันต์ สะตอแมน
จำ “เพิก ชุมแพ” ได้ไหม?..
ถาม..เพราะเห็นสื่อหลายสำนักเปิดหน้า-เปิดประวัติ “สายลับวัดไร่ขิง”
ก็..ตัวละครนำของหนังไทยเรื่อง “ชุมแพ” ที่แสดงโดยอดีตพระเอกตลอดกาล “สมบัติ เมทะนี” เมื่อหลายสิบปีก่อนนู้นไง!
ซึ่ง เพิก ชุมแพ ถือเป็นคู่ปรับของตำรวจตงฉิน-น้ำดีอย่าง “ผู้กองไชโย” อยู่แทบทุกฉาก-ทุกซีนในฐานะ “เสือเพิก” ในสายตาของผู้กองฯ
ก่อนที่ความจริงจะปรากฏเอาตอนจบ..แท้จริงแล้ว เสือเพิก ชุมแพ ก็คือ “นายอำเภอเพิก ชุมแพ” นายอำเภอคนใหม่ของอำเภอชุมแพที่พลางตัวกลับมาชุมแพบ้านเกิด
เพื่อสะสางบัญชีแค้นกับ “จ่าบุญถม” และ “ผู้ใหญ่เสือ” ที่มีส่วนทำให้พ่อของเขาตาย!
เนี่ย..ที่ทำให้นึกย้อนถึง “เพิก ชุมแพ” ก็ด้วย 2-3 วันที่แล้ว จากเหตุ-กรณี “พระอมเงินวัดและสีกาอมของวัด” จนเป็นข่าวอึกทึกครึกโครม
และในข่าวนั้นก็ได้เกิด “ตำรวจ-พระเอก” อย่างเพิก ชุมแพ ให้เป็นที่รู้จัก บางสื่อได้นำเสนอประวัติเสียละเอียดลออ ชนิดที่เรียกว่าหลังปิดคดีพี่แย้มแล้ว
นายตำรวจท่านนี้ก็เห็นจะหมดสิทธิ์ที่จะได้ทำหน้าที่ “สายลับ” อีกต่อไป เพราะสื่อเปิดหน้า-เผยชื่อ-ยศซะขนาดนั้น ใครๆ ก็จำภาพความหล่อได้ติดตา!
มีคนถามเหมือนกันว่า ผู้บังคับบัญชาปล่อยให้ “สายลับวัดไร่ขิง” เปิดเผยตัวตนเพื่ออะไร เพราะเห็นในหนังฮอลลีวูดเรื่องไหนก็เรื่องนั้น..
ขึ้นชื่อ “สายลับ” ต้องปิดบังตัวตนไปจนกว่าจะเกษียณหรือไม่ก็ตาย!
หรือ..นายตำรวจท่านนี้จะทำหน้าที่ (สายลับ) เป็นคดีสุดท้าย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็น่าเสียดาย เพราะยังมีอีกหลายวัดที่จะต้องชำระล้าง..
“พระในคราบโจร”!
เอ้า..แต่นั่นไม่ใช่เรื่องพระหรือเรื่องโจร แต่เป็นเรื่องของ “เทวดาเดินดิน” ที่ชาวบ้านยกย่องให้กับสองพี่น้องตระกูล “บรรลือฤทธิ์” คุณบิณฑ์-คุณเอกพันธ์
เวลานี้ทั้งคู่จะวิ่งไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ รู้เพียงว่า เมื่อวันเสาร์ 17 พฤษภา. ซึ่งเป็นวันที่สองพี่น้องต้องไปรับรางวัล “บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ต่อวิชาชีพสื่อมวลชน การศึกษาและสังคม”
ที่สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบให้นั้น ทั้งคุณบิณฑ์-คุณเอกพันธ์ไม่สามารถไปรับด้วยตัวเองได้
ด้วยเป็นวันดี-ฤกษ์งามที่ทั้งคู่ได้ “ออกสตาร์ท” วิ่งในโครงการ “สัญญาไม่ทอดทิ้ง ขอวิ่งเพื่อบ้านสุขสุดท้าย” ณ จุดปั๊ม ปตท. ถนนพหลโยธินขาออก ฝั่งตรงข้ามอนุสรณ์สถานแห่งชาติ
จากที่เห็นในกำหนดการ ก็จะวิ่งไปทางปทุมธานี, อยุธยา, สระบุรี, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ จนไปสิ้นสุดที่บริเวณลานทุ่งศรีเมืองจังหวัดอุบลราชธานี
ส่วนจะใช้เวลากี่วันในการวิ่ง ไม่ได้กำหนดหรือขีดเส้นเอาไว้ มีแรงก็วิ่ง เหนื่อยก็พัก ป่วยก็หยุดคงประมาณนั้น
อย่างไรก็ตาม คุณบิณฑ์บอก ด้วยพละกำลังวังชาของน้องชาย เชื่อว่าคุณเอกพันธ์กำหนดตัวเองจะวิ่งให้ได้วันละ 30 กิโลเป็นอย่างน้อย และมั่นใจว่าแค่ไม่กี่วันก็น่าจะถึงเส้นชัย!
แต่ถ้าอยากรู้-เห็นความเคลื่อนไหวตลอดเส้นทางการวิ่ง ก็สามารถติดตามดูทาง “เพจสัญญาไม่ทอดทิ้ง ขอวิ่งเพื่อบ้านสุขสุดท้าย” ได้เลย
และหรือหากมีศรัทธาอยากร่วมบุญ-กุศลด้วยกัน ก็บริจาคได้ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขาศาลายา ประเภทบัญชีกระแสรายวัน..
เลขบัญชี 208 188 0231 ชื่อบัญชีสัญญาไม่ทอดทิ้งขอวิ่งเพื่อบ้านสุขสุดท้าย
อ้อ..คุณบิณฑ์ฝากบอกมายังเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักแสดง-ดารา-นักร้อง-ตลก ถ้ามีเรี่ยวมีแรงนึกอยากจะร่วมวิ่งไปด้วยกันก็ติดต่อ-สอบถามได้ที่เบอร์โทร. 09-2574-9115 และ 09-2574-6782
ส่วนพวกที่ไม่นิยมวิ่ง แต่ชอบที่จะเดิน (บนถนน) ก็เตรียม “รองเท้าผ้าใบกับใจถึงๆ” เอาไว้ให้พร้อม
ได้ยินว่า ถ้ารัฐบาลนำร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์ปนบ่อนกาสิโน-พนันออนไลน์เข้าสภาวันไหน..
คุณตั้ม-พิชิต ไชยมงคล กับมวลชนที่ปักหลักกินนอนอยู่แถวสะพานชมัยมรุเชษฐ ก็จะยกพลกรีธาทัพลงบนถนนทันที!
และครั้งนี้..ทหารถอยไป ไม่ต้องสัญญิง-สัญญา..
ประชาชนจะปฏิวัติเอง!.
