‘เพื่อไทย’ ไม่ไปต่อ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

พรรคเพื่อไทยจะยื่นซักฟอกรัฐบาลหรือไม่?

คำถามนี้เกิดจากคำตอบของนายกฯ อนุทิน วานนี้ (๓ ธันวาคม)

“…คาดเข็มขัดนิรภัย…​”

แปลไทยเป็นไทยคือ เตรียมพร้อม ๑๒ ธันวาคม หากแน่ชัดแล้วว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ มีทางเลือกเดียวคือ ยุบสภา!

ก็อย่างที่ทราบกันครับ รัฐบาลอนุทินเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่เอาจมูกของพรรคส้มมาหายใจ การยุบสภาคือคำตอบสุดท้าย

ขณะนี้ท่าทีของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร

เงียบครับ!

แทบไม่เห็นความเคลื่อนไหวของ สส.ในการเตรียมข้อมูลซักฟอกรัฐบาลเลย

เมื่อดูท่าทีจากประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย “จาตุรนต์ ฉายแสง” ชัดเจนว่าจะไม่มีการยื่นซักฟอกรัฐบาลในปีนี้

เพราะมุ่งไปที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า

“…ให้รัฐสภามีมติร้องขอให้จัดให้มีการทำประชามติ ตามแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้ ช่องทางนี้จำเป็นต้องรอให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าไปจนถึงวาระสามเสียก่อน

เมื่อรัฐสภาลงมติวาระสาม เห็นชอบกับร่างแก้ไขและมีมติเห็นชอบให้ร้องขอทำประชามติคำถามที่ ๑ ด้วย ประธานรัฐสภาก็จะส่งเรื่องไปยัง ครม.เป็นสองเรื่องพร้อมกัน

คือ ขอให้ทำประชามติในคำถามที่ ๑ และขอให้จัดทำประชามติในร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ผ่านวาระสาม ซึ่งจะเป็น ‘คำถามที่ ๒’

ทั้งกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นหลังจากวาระสองเสร็จสิ้นแล้ว ๑๕ วัน หรือราววันที่ ๒๖ ธันวาคม…”

ประเด็นอยู่ที่วันที่ ๒๖ ธันวาคม

หากต้องการให้เป็นไปตามไทม์ไลน์นี้ พรรคเพื่อไทยจะต้องยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังปีใหม่

นั่นหมายความว่าการโหวตร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่ ๓ จะต้องเสร็จทันก่อนสิ้นปี

กางปฏิทินแล้วกว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติได้ คงต้องรอถึงวันที่ ๕ มกราคม ซึ่งเป็นวันทำการแรกของปี ๒๕๖๙

วันที่ ๒ มกราคม หยุดราชการนะครับ สภาปิด!

ปกติการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้าสู่ระเบียบวาระ ประธานรัฐสภาจะต้องตรวจสอบรายชื่อผู้ยื่น พิจารณาขั้นตอนตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

กว่าจะได้ซักฟอกกันจริงๆ ก็ปาเข้าไปกลางเดือนมกราคมแล้ว

เหลือเวลาอีกครึ่งเดือน นายกฯ อนุทิน จะยุบสภา

ก็ต้องวัดใจพรรคเพื่อไทยครับว่า จะเอาแบบไหน

ถ้าไม่ยุบ ปล่อยให้มีการซักฟอก นายกฯ อนุทินแพ้โหวต ต้องตั้งรัฐบาลใหม่ เรื่องยุ่งๆ จะตามมาอีกเยอะ

ตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วครับ

การเมือง ๓ ขั้วแบบนี้ เผลอๆ การตั้งรัฐบาลอาจกินเวลาเป็นเดือนๆ

แค่คิดเรื่องใครจะมาเป็นนายกฯ ก็ปวดตับแล้วครับ

พรรคเพื่อไทยหวังจะขุด “ชัยเกษม นิติสิริ” ขึ้นมาอีกครั้ง จะเอาใครเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

พรรคส้มจะโหวตให้พรรคเพื่อไทยอย่างนั้นหรือ

ถ้าไม่มีเสียงจากพรรคส้ม เพื่อไทยก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้

แคนดิเดตนายกฯ ที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็น “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หรือ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” โอกาสนั่งเก้าอี้นายกฯ แทบเป็นศูนย์

คิดแค่นี้ประเทศก็ฉิบหายแล้วครับ

เสียเวลาโดยใช่เหตุ

หรือหากพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้จริง จะมีคำถามตามมาว่า แล้วรัฐบาลเพื่อไทยจะอยู่กี่เดือนถึงจะยุบสภา

มันก็ไปล้อกับโปรไฟไหม้ช่วงที่ชิงกันตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยนั่นแหละครับ

พรรคเพื่อไทยบอกว่าจะยุบสภาทันที!

คำพูดเป็นนาย จะอ้างว่าสถานการณ์เปลี่ยนคงไม่ได้

แบบนั้นมันมักง่ายเกินไป

หรือจะบอกว่าหลังนายกฯ อนุทินลาออก จะตั้งรัฐบาลแล้วยุบสภาทันที

กว่าจะได้ยุบ เกินวันที่ ๓๑ มกราคมแน่นอน

แล้วจะเล่นเกมนี้เพื่ออะไร

ความจริงคือคนในพรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อยยังไม่อยากให้ยุบสภา เพราะยังไม่มีความพร้อมที่จะเลือกตั้ง

ตัวหัวหน้าพรรค “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” เองก็ใช่ว่าจะพร้อม

ไม่รู้ว่า ความรู้สึกที่ตัวเองถูกตระกูลชินวัตรจับเป็นตัวประกันนั้นหมดไปหรือยัง

ฉะนั้นยิ่งไปเล่นเกมพิเรนทร์ ทำให้เกิดความยุ่งยากทางการเมืองขึ้น พรรคเพื่อไทยจะยิ่งเจ็บตัวหนักกว่าเดิม

ข่าว ปปง.ยึด อายัดทรัพย์ ก๊วนสแกมเมอร์กว่า ๑ หมื่นล้าน สกัดเส้นทางเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฟอกเงินดิจิทัล เชื่อมโยงกัมพูชา ครอบคลุมเครือข่าย Prince Group, ก๊ก อาน, ยิม เลียก, เบน สมิธ

นายกฯ อนุทินบอกว่า….

“…เรื่องนี้ไม่ได้กู้ภาพลักษณ์แต่เป็นงานที่ต้องทำทุกวัน

ไม่ว่ารัฐบาลไหน หัวหน้ารัฐบาลถ้าใส่ใจและเชิญผู้บังคับบัญชาหัวหน้าส่วนราชการที่มีหน้าที่ปราบปรามเรื่องพวกนี้โดยตรงมา และยืนยันเจตนารมณ์ว่าต้องปราบต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ยืนยันให้การสนับสนุนทุกรูปแบบ เราก็สามารถป้องกันยับยั้งจับกุมดำเนินคดีได้ทุกอย่าง…”

จะมองว่าสร้างภาพก็ไม่ผิด กลบข่าวน้ำท่วมหาดใหญ่ก็ได้ แต่มีอยู่จุดหนึ่งอยากให้พิจารณา

การยึดทรัพย์ ๑ หมื่นล้านบาท ใช่ว่าจะทำได้ในวันสองวัน

มันต้องรู้ก่อนว่าใครมีทรัพย์สินอะไร เท่าไหร่ ซ่อนไว้ตรงไหนบ้าง

มันต้องใช้เวลา

คิดเล่นๆ หากพรรคเพื่อไทยยื่นซักฟอกรัฐบาล ตอนนี้จะซักฟอกประเด็นอะไร

ถ้าเป็นเรื่องสแกมเมอร์ คงมันยกร่องแน่นอน

ต้องถามพรรคส้มด้วยว่าจะเอาไง

ที่แน่ๆ “รังสิมันต์ โรม” อ้างข้อมูลจาก “ทอม ไรต์” มาตลอด

“…เบน สมิธ มีบทบาทเป็นนายหน้าในการจัดการธุรกิจและอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับนักการเมือง เช่น เครื่องบินเจ็ตและเรือยอชต์ เช่นในกรณีของการเดินทางที่หลีเป๊ะ ของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ และ ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ไปพบนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย โดยใช้เรือยอชต์หรู รุ่น wanderlust ซึ่งมีเพียงไม่กี่ลำในโลก

ทำให้เกิดคำถามว่า ร้อยเอกธรรมนัสซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ไปมีความสนิทสนมกับเครือข่ายเหล่านี้ได้อย่างไร…”

ขอให้ “รังสิมันต์” ถามคำถามนี้ไปเรื่อยๆ

ถามในสภาตอนมีการซักฟอกรัฐบาลด้วยยิ่งดี

ครับ…เห็นหรือยังว่า พรรคเพื่อไทยไม่อยากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรอกครับ

มันเข้าตัว.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
พปชร.ฟาด รัฐบาลล่าช้า ไม่ทันเลห์ “เขมร” จี้ เร่งฟ้องโลก “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เหมือน กรณี ประธานสภากัมพูชาหญิง สะอื้นบนเวที ใส่ร้ายไทย ย้ำ ต้องไม่ยอมเสียเปรียบ ปล่อยบางประเทศเข้าใจผิด
30 กรกฎาคม 2568 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งประเทศกัมพูชา ยังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ว่า พรรคพลังประชารัฐ...
Read More
0 replies on “‘เพื่อไทย’ ไม่ไปต่อ #ผักกาดหอม”