สันต์ สะตอแมน
นั่นสิ..พอได้รึยัง?
ผมก็สงสารประเทศไทยเหมือนกันกับนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.-รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นั่นแหละ!
เพียงแต่ สงสารกันคนละมุม มองกันคนละด้าน อย่างนายก่อแก้วที่โพสต์.. “สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณทักษิณ เป็นสิ่งที่เกินจะรับ
ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 1 ปี ซ้ำ โดยไม่หักวันที่เคยถูกคุมขังอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจเลย
ถูกอัยการอุทธรณ์คดี 112 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ คณะทำงานที่มีอัยการสูงสุดคนปัจจุบันเป็นหัวหน้าคณะมีมติไม่อุทธรณ์ 8:2 และทำให้หมดสิทธิ์ขอพักโทษจากการจองจำ
ถูกศาลฎีกา พิพากษาให้การที่กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีการขายหุ้น “ชินคอร์ป“ จำนวน 17,600 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ศาลภาษีชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้ถอนการประเมิน
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยึดไปแล้ว 46,000 ล้าน เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2553 ด้วยคำสั่งของศาลฎีกาฯ นักการเมือง
การกระทำต่อคุณทักษิณ ถูกมองว่ามาแบบซีรีส์ที่มีการจัดวาง ขัดต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก
ผลักไสไล่ส่งเอาคนที่สามารถทำประโยชน์ให้ประเทศมากๆ ไปอยู่ต่างประเทศ และขังคุก จากนั้น ก็เอาพวกเฮงซวยมาบริหารประเทศ
ไม่แปลกใจที่ประเทศถดถอยมาตามลำดับ จนหนี้ประเทศ และหนี้ครัวเรือนสูงสุด คนไทยส่วนใหญ่ แทบไม่มีความหวังกับประเทศนี้อีกเลย
สงสารประเทศไทย พอได้หรือยังครับ!”
ซึ่งนายก่อแก้วมองว่า..นายทักษิณคนดี คนเก่ง คนทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากมายมหาศาล แต่กลับถูกกระทำ รังแก กลั่นแกล้งทุกวิถีทาง จนเกินจะรับได้!
ส่วนผมเห็นตรงกันข้าม ว่าเหตุที่เกิดกับนายทักษิณล้วนมาจาก “กรรม” ของเจ้าตัวทั้งเพ ไม่มีใครที่ไหนจะไปกลั่นแกล้ง รังแกมหาเศรษฐีระดับหมื่นล้าน-แสนล้านได้
นอกเสียจาก..นายทักษิณทำกรรมใดไว้ ก็ย่อมจะต้องได้รับผลของกรรมนั้น และที่นายก่อแก้วมอง “สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณทักษิณ เป็นสิ่งที่เกินจะรับ”..
นั่น..ก็เป็นเรื่องของนายทักษิณ ซึ่งแม้แต่นายก่อแก้วก็ไม่สามารถเอาตัวเข้าไปช่วยแบกรับ (กรรม) แทนได้!
และที่ว่า.. “การกระทำต่อคุณทักษิณ ถูกมองว่ามาแบบซีรีส์ที่มีการจัดวาง ขัดต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก” นั้น
ก็..เป็นสิทธิของนายก่อแก้วที่จะคิด-จะพูด-จะเพ้อ เพราะคนทั่วไปอาจไม่ได้ขัดอารมณ์และความรู้สึกอะไรเลยก็ได้
หรือบางคนอาจจะรู้สึกโล่งอก-ผ่อนคลาย-สบายใจเสียด้วยซ้ำ ที่ได้เห็นนายทักษิณได้ชดใช้กรรมในชาตินี้ ไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้า!
และด้วยได้รับผลของกรรม (บางส่วน) ไปเช่นนี้แล้ว แทนที่นายก่อแก้วจะถามนายเหนือหัวตัวเองตรงๆ กลับโยนคำถาม.. “พอได้หรือยังครับ” ใส่กับใครก็ไม่รู้?
ความจริง ถ้ารู้สึก “เกินจะรับไหว” นายก่อแก้วก็ต้องเอ่ยปากกับนายทักษิณไปเลย.. “พอแล้วครับนาย..ปล่อยวางให้คนอื่นเขาได้บริหารประเทศนี้ไปด้วยความราบรื่นเสียที..
ประเทศบอบช้ำมามากหลายปีแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากนาย..” บลาบลาบลา!
อ้อ..อย่าลืมลงท้ายล่ะ.. “นี่ถ้านายกลับมาเลี้ยงหลานจริง กรรมคงจะไม่วิ่งมาให้ชดใช้เร็วปานนี้ ดี-ไม่ดี พรรคเรายังจะได้เป็นรัฐบาลอยู่ต่อไป..
นายหญิงน้อย-น้องอุ๊งอิ๊งก็จะได้ไม่ต้องเป็นนางฟ้า เอ๊ยนายกฯ ตกสวรรค์”!
แต่ระวัง..นายก่อแก้วอย่าเผลอยื่นปากไปกระซิบข้างหูล่ะ เพราะได้ยินลูกสาวนายทักษิณบอกกับนักข่าวว่า..ตอนนี้คุณพ่อเสียใจ ช้ำใจ และจิตตก
ซึ่งทั้ง 3 อาการนี้ หากมีคนพูดไม่เข้าหู อาจจะโดน..
บ้องหูเอาได้นะ..ก่อ!.

