สันต์ สะตอแมน
ความจริง..
จะเป็นด้วยคิดน้อย หรือคิดแค่อยากให้เป็นสีสันของรายการก็ไม่แน่ใจนัก แต่เมื่อมีคนไม่สบายใจ ประณามด่ากับการที่ให้คุณไบรท์ พิชญทัฬห์ เล่าข่าวด้วยสำเนียงเขมร
กรรมกรข้าว เอ๊ย “กรรมกรข่าว” คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา จึงเลยต้องออกมาน้อมรับผิดต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป พร้อมชี้แจง..
“มีบางเพจ บางอินฟลูเอนเซอร์ ประณามผม ประณามน้องไบรท์ กรณีล้อเลียน ใช้สำเนียงกัมพูชาในเรื่องที่เกี่ยวกับข่าว เรื่องนี้รับทราบ ด่าได้ และขออภัยจริงๆ..
คือเรื่องของเรื่องมีการนำเสนอคนกัมพูชาที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยสงครามเขมรแดง แล้วเกิดเหตุการณ์บ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน ที่จังหวัดสระแก้ว
ที่เข้ามาก่อกวน ที่มารื้อลวดหนาม โดยสารคดีของกองทัพนำเสนอว่าไม่รู้จักบุญคุณว่าเราเคยรับเป็นผู้อพยพ แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่รู้จักบุญคุณ กลับมายึดเป็นที่ของตัวเอง แล้วก่อเรื่องก่อราว
คือมันอิน ความรู้สึกมันอิน พอมานึกย้อนดู มันมาจบที่หลักการของความเป็นสื่อ ก็คือ เราจะต้องไม่ล้อเลียนอัตลักษณ์ของชนชาติอื่น พอมาตกข้อนี้ไม่มีข้อแก้ตัว
ผมผิดเอง คนอย่างผมด่าได้ วิจารณ์ได้..ผู้ชมบางท่านบอกลบแล้วเงียบ การลบก็คือการแสดงความรับผิดชอบขั้นต้น คือถ้าผมไม่ใช่สื่อผมก็ยืนยันว่าผมทำถูก
บังเอิญผมเป็นสื่อ หลักของผมก็คือไม่ว่าเราจะชาติไหน ไม่ควรล้ออัตลักษณ์ของชนชาติอื่น ทุกอย่างมันมาจบที่ข้อนี้
เพราะฉะนั้นผมผิดไปแล้ว ขอให้ทุกท่านให้อภัยผม ขอให้ทุกท่านให้อภัยผมนะ”
เอาน่า..กับอีเรื่องแค่นี้มันไม่ได้สลักสำคัญ-ใหญ่โตอะไร ถ้าจะมองว่าเป็นการ “บูลลี่” อย่างงั้นผมก็คนหนึ่งล่ะที่โดนบูลลี่-ถูกล้ออัตลักษณ์ของชนชาติ “พันธุ์สะตอ” อยู่เป็นประจำ!
แต่ผมก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร หรือโกรธเคืองคนที่ล้อเลียนสำเนียงใต้-ทองแดงของผม กลับชอบอก-พอใจและ “ภูมิใจ” เสียด้วยซ้ำ
อย่างน้อยผมก็ได้ทำให้คนถิ่นอื่น-ภาคอื่นให้ความสนใจในอัตลักษณ์ภาษาปักษ์ใต้ (กู)!
คุณสรยุทธขอให้ทุกท่านให้อภัยก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ส่วนตัวผมเห็นจะไม่ให้อภัยหรอกนะ เพราะในความรู้สึก “กรรมกรข่าว” ไม่ได้ทำผิดอะไร..
ยิ่งเป็นคนข่าวที่ต้องสื่อสารกับคนทุกถิ่น-ทุกภาค ทุกเชื้อชาติด้วยแล้ว หากมีความพยายามหมั่นเพียรเรียนรู้ฝึกปรือหลายๆ ภาษาได้ก็ยิ่งดีมิใช่หรือ?
แล้วที่น้องไบรท์พยายามพูดสำเนียงเขมรมันผิดอะไรตรงไหน? ก็เหมือนคนกรุงเทพฯ ที่พยายามจะพูดสำเนียงภาษาบ้านผมนั่นแหละ เขาไม่ได้ล้อเลียน หากแต่เขาพยายามเพียรเรียนฝึก!
ฉะนั้น ก็อย่าทำตัวกระเดียดกันให้มากไป อะไรนิดอะไรหน่อยก็หาว่า “บูลลี่” จะไม่ให้คนไทยหัดพูดภาษาเขมรกันบ้างหรือไง?
เออ..แล้วนั่นผมไม่ได้จะบูลลี่หรืออะไรทั้งนั้น แต่เห็นจากข่าวว่าอดีตนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางไปเยี่ยมอดีตนายกฯ นายทักษิณ (พ่อ) ในคุก
ก่อนเข้า นักข่าวถาม.. “วันนี้หลานๆ ได้ฝากจดหมายมาถึงตาบ้างหรือไม่” ซึ่งคุณแพทองธารได้กล่าวตอบ..
“วันนี้ไม่มีค่ะ เดี๋ยวเขาจะมีอนุญาตให้เยี่ยมผ่านไลน์ได้ วิดีโอคอลไลน์ ซึ่งเขาจะมีเวลาให้ อย่างไรเดี๋ยวต้องถามทนาย”
และหลังจากเยี่ยมเสร็จออกมานักข่าวถาม (อีก) ว่าสุขภาพนายทักษิณเป็นอย่างไรบ้าง คุณแพทองธารบอก..
“สุขภาพโอเคค่ะ และมี ผบ.เรือนจำฯ บอกว่าเดี๋ยวจะให้คุณพ่อไปช่วยคุมการลอกท่อ”
โอ้..มายก๊อด อยู่ในคุกแค่ไม่กี่เพลา (18 วัน) นายทักษิณก็ขยับเป็น “ผู้คุมการลอกท่อ” ไปแล้ว น่าชื่นใจจัง!
และนี่..คนเสื้อแดงที่นัดกันไปกินข้าวกันหน้าเรือนจำจะไม่แห่ตามไปช่วยลอกท่อด้วยรึนั่น หรือแค่ไปยืนมุงดู-เป็นกำลังใจกันก็คงจะชุลมุนวุ่นวายเป็นแน่
คุณแพทองธารก็ไม่น่าจะปากไว จะด้วยภาคภูมิใจ (พ่อได้เป็นผู้คุมฯ) หรืออย่างไรก็ช่าง ก็ไม่น่าจะรีบเปิดเผยให้คนเสื้อแดงได้รู้แต่หัววันอย่างนี้เลย!
ว่าแต่..นายทักษิณป่วยเจ็บออดๆ แอดๆ อยู่ไม่ใช่รึ แล้วนี่ออกมายืนคุมนักโทษลอกท่อกลางแดดกลางฝนจะไหวไหม สอนหนังสือ-หนังหาภาษาอังกฤษอยู่ภายในจะไม่ดีกว่าหรือ?
หรือถ้าสอน (พูด) ภาษาเขมรได้ก็ยิ่งงาม!.
