ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
วันจันทร์ 13 เมษายน.. “วันสงกรานต์”!
ก็..ย้ำบอก “วันปีใหม่ไทย” ได้มาถึงแล้ว และย้ำด้วยว่า..เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ รัฐบาลได้มีมาตรการให้ “งดเล่นสาดน้ำ” และกิจกรรมรื่นเริงต่างๆทั้งประเทศ
ไม่ใช่ “รัฐประหารโควิด” แต่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 หรือพูดให้ชัด-ตรง..
เพื่อ “เซฟชีวิต” ประชาชนนั่นแหละ!
ฉะนั้น..อย่าคะนอง ลองดี ท้าทายกฎหมาย กัก-เก็บตัวอยู่กับบ้านอย่างน้อยก็ยังได้เห็นหน้าเห็นตาคนในครอบครัว แต่ถ้าถูกหิ้วตัวไป “กัก” อยู่ในคุก ทั้งหมดสนุก ทั้งขาดอิสรภาพ..
จะเอา “สุขภาพนำเสรีภาพ” หรือ “เสรีภาพนำสุขภาพ” เชิญเลือกได้ ตามใจปรารถนานะ!
แต่รายได้นี้เลือก “เสรีภาพนำสุขภาพ” ชนิดตายเป็นตาย.. วันวาน หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ “คุณปลื้ม” ได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว
Nattakorn Devakula ..
“อัตราผู้ติดเชื้อเเละเสียชีวิตทุกวันน้อยเกินไปที่จะปิดอะไรเเล้ว คืนชีวิตให้กับเราทุกคน ทั้งผู้ใหญ่เเละเด็ก คุณไม่ใช่เจ้าของชีวิตเรา คืนชีวิตให้กับเรามาได้เเล้ว หยุดละเมิดสิทธิของปัจเจกบุคคลซะที”
“หน้ากากใส่ เว้นระยะเว้นเเต่ชีวิตต้องกลับมา เเละโรงเรียนเปิดตรงเวลา อย่าพรากการประกอบอาชีพไปจากคนเเละอย่าพรากการศึกษาไปจากเด็ก”
“เด็กต้องเรียนที่โรงเรียน โรคระบาดคุมอยู่และไม่ได้เคยระบาดในโรงเรียนเลย ไม่ทราบใครเสนอนโยบายสุดโต่งอย่างนี้ ณ บัดนี้ ตั้งเเต่ 1 พ.ค.เศรษฐกิจต้องเปิด ร้านค้าต่างต่างต้องเปิด ชีวิตประชาชนต้องค่อยค่อยกลับมา”
จะพูดอย่างไรดี..เอางี้ ผมก็ภาวนาอยู่นะคุณปลื้ม ขอให้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ ไอ้เจ้าโควิด-19 จงหายไปจากประเทศไทย ไม่มีคนติดเชื้อ-ไม่มีคนตาย ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขทีเถอะ!
แต่ตอนนี้ ที่ไวรัสยังระบาดอยู่ ก็อยากขอร้องคุณปลื้ม อย่าได้แสดงความคิดอ่านที่ “สุดโต่ง” ออกมากวนใจ กวนอารมณ์คนทำงานเขาเลย
ไม่มีใคร หรือรัฐบาลเฮงซวยที่ไหนในโลกนี้ ที่จะพรากการประกอบอาชีพไปจากคน เเละพรากการศึกษาไปจากเด็ก หรอก!
คุณปลื้มตาไม่ได้บอด เห็นอยู่ทนโท่ ทั้งโลกตกอยู่ในสภาพเดียวกัน และทั้งโลกต่างก็ใช้วิธีการต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อรักษาชีวิตประชาชนที่เหมือนๆ กัน
อัตราผู้เสียชีวิตและติดเชื้อสักเท่าไหร่ล่ะ คุณปลื้มถึงจะเห็นไม่น้อยเกินไป และคุณปลื้มแกล้งคำเป็นโง่ใช่ไหม ว่าที่คนติดเชื้อ (เริ่ม) น้อย กำลังจะควบคุมได้ ก็มาจาก..
นโยบายรัฐบาล (สุดโต่ง) ผสมผสานกับความรู้ ความสามารถของคุณหมอ และบุคลากรทางการแพทย์นี้แหละ!
นี่..พูดแล้วทำให้ผมอยากคิดสุดโต่งขึ้นมาบ้าง..ว่าเจตนาคุณปลื้มที่เรียกร้องให้เร่งเปิดโรงเรียน น่าจะไม่ได้เป็นเพราะห่วงการศึกษาของดง-ของเด็กหรอก หากแต่ห่วง..
ขืนเปิดเรียนช้า “แฟลชม็อบ” ที่ก่อไว้จะมอดดับเสียมากกว่า..จริงมั้ย?