ด่า ประณาม หยามหยันเขาเช้า-เย็น-ค่ำ..
พอโดนทหารสวนกลับเอาบ้าง นักการเมือง (บางคน) ก็ร้องโวยวาย อ้าง..ก้าวก่ายการเมือง ผิดวินัยกลาโหม!
เนี่ย..ตกลงนักการเมืองเป็นอาชีพที่มี “อภิสิทธิ์” เหนือผู้อื่นหรืออย่างไร ใครแตะนิดเฉียดหน่อยเป็นไม่ได้ และที่ว่า..ข้าราชการประจำต้องมีระเบียบวินัย มีกฎ กติกา นั้น..
ถามหน่อย (ไม่ใช่สุดารัตน์)..เคยสำรวจดูตัวเองกันบ้างมั้ย? หรือนักการเมืองไม่จำเป็นต้องมีวินัย มีกฎ กติกา..หือ?
จ้องแต่จะเข้มงวดกวดขันเอากับข้าราชการประจำ (ทหาร) แต่กับพวกตัวเอง-อาชีพตัวเองแล้วล่ะก็ พยายามจะเลี่ยงวินัย เลี่ยงกฎ เลี่ยงกติกาอยู่ตลอดเวลา..
ขนยาเสพติด ก็เลี่ยงดคีไม่ถึงที่สุด ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่..สั่งฆ่า ก็เลี่ยงศาลไม่ได้มีคำพิพากษาตัดสิน จึงยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง หรือกระทั่งศาลสั่ง “หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.”..
ก็ยังเลี่ยงที่จะทำหน้าที่อยู่ต่อ..ช่างน่าอนาถใจกับนักการเมืองไทยซะจริงๆ!
แต่..เรื่องนี้จะรู้สึกอย่างไรอยากให้ลองพิจารณา.. “โคตรขำ ขนาดอยู่ต่างประเทศยังมีทีมงานโทรมาแจ้งว่า กำลังติดต่อแขกรับเชิญของโหนกระแส แต่มีทีมงานรายการอื่นติดต่อไปเหมือนกัน และบอกแขกรับเชิญว่า
อย่าไปออกโหนกระแสนะ เพราะรายการนั้นชอบเอาคนมาทะเลาะกัน และกรรชัยห้ามไม่ได้เอาไม่อยู่ รายการไม่ดี แขกมาก็ทิ้งแขกต่างๆนาๆ
สำหรับผม ผมคิดว่า การต่อสู้การทำรายการประเภทชิงแขกแบบนี้ ไม่ต่างจากขึ้นเวทีชกมวย ต่อยกับคู่ชกเสร็จลงจากเวทีคือพี่น้องกันกอดคอกัน บนเวทีมันคือหน้าที่และการแข่งขัน
แต่อย่าลืมว่าวงการมวยเค้าถือเรื่องการวางยาคู่ชกมาก คนดีๆเค้าไม่วางยาคู่ชกเพื่อให้ตัวเองชนะกันหรอก
การทำรายการประเภทนี้ก็เช่นกัน มันไม่ควรมีการวางยารายการอื่นด้วยการด่าว่ารายการเค้าไม่ดี มันมีวิธีอื่นอีกเยอะแยะที่คุณทำได้ ต่อสู้ช่วงชิงได้
คิดให้ดีๆ นะครับ คุณอยากเป็นนักมวยที่ขึ้นชกแบบมีศักดิ์ศรี หรือจะเป็นหมาข้างถนนที่คอยรอบกัดชาวบ้านไปวันๆ
แต่วิธีที่เพิ่งเจอมาบอกเลย จะด่าว่าหมา ยังสงสารหมา”
ครับ..ก็เป็นข้อความของคุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ที่ได้เขียนไว้ในโพสต์ของอินสตาแกมของเขาเมื่อวันก่อน
คงไม่ถึงกับ “อนาถใจ” กับวงการโทรทัศน์ที่แข่งขันดุเดือดกันอยู่ในตอนนี้ เพราะก็อย่างที่คุณหนุ่ม กรรชัย ว่า.. “เป็นธรรมดาของรายการทีวี. ประเภท ชิงแขก”!
และคุณหนุ่ม กรรชัย ก็ไม่ใช่พิธีกรคนแรกที่ระบายความรู้สึกในใจในลักษณะนี้ เพราะก่อนหน้าเคยมี-เคยได้ยิน มีการแย่งชิง กัก-เก็บตัวแหล่งข่าวอยู่เหมือนกัน
สำคัญเพียง..ถ้าต่างคนต่างด่า หรือด่ากันไปด่ากันมาแล้วสื่อนำมาขยายความต่อ ก็กลัวว่า วันข้างหน้า..
“ศรัทธา” จากผู้ชม จะเสื่อมถอยเท่านั้นแหละ!