ถนอมไว้เชิดหน้าชูตา? #สันต์สะตอแมน

“ยัยดาราอาบน้ำโชว์ยังไม่อุจาดเท่า ลิซ่าเต้นท่าหมาร่วมรัก”

“ดาราที่เรารัก ถ้าทำไม่เหมาะในที่สาธารณะ ต้องเตือนได้ อย่ายึดตัวบุคคล ต้องยืนยันในหลักการครับ ขอให้ทุกท่านมีสุขสวัสดิ์”

“ลิซ่าควรออกมาขอโทษสังคม และเลิกเต้นท่าหมาอีกนะครับ (ดูคลิป)”

นี่..เป็นข้อความที่ ดร.โสภณ พรโชคชัย โพสต์ ซึ่งถ้าเป็นคำพูด ก็ต้องบอกว่า นี่คือ “ปากดอกเตอร์” ที่แกว่งใส่แรปเปอร์สาว “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาล

ครับ..จะว่าอยู่ดีไม่ว่าดีก็คงไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมีความคิด มีทัศนะ มีมุมมองไม่เหมือนกัน และที่ ดร.โสภณมองเช่นนั้นก็เป็นสิทธิที่จะพูด-จะวิจารณ์

อีกอย่าง ผมเข้าใจ..การที่จะทำให้ผู้คนรู้จักตัวเราจะในฐานะใดก็ตาม ต้องหาเรื่องที่จะเขียนถึง “คนเด่น-คนดัง” เข้าไว้..

ยิ่งเป็นการเขียนตำหนิ ติติง หรือโขกสับ-ด่าได้ ก็ยิ่งทำให้ตัวเราโดดเด่น เพราะจะเป็นเป้าให้ทั้งถูกชื่นชม และทั้งถูกรุมประณามด่า อย่างที่ ดร.โสภณกำลังเผชิญอยู่ ณ ขณะนี้!

ซึ่งคนที่เห็นด้วยกับ ดร.โสภณก็ใช่ว่าจะไม่มี ก็มีเหมือนกับที่รัฐบาลอ้าง ประชาชนสนับสนุนให้สร้างบ่อนกาสิโนนั่นแหละ!

ส่วนผม คนเรียนรู้น้อย มองว่าท่าเต้นของหนูลิซ่านั้นใช่ว่าเป็น “ท่า” (หมาร่วมรัก) ที่เธอกระสันซ่าน หากแต่ (เชื่อ) ได้ถูกออกแบบ-ดีไซน์จากสมองของทีมงานด้วยเลิศแล้ว

และผมไม่กล้าที่จะคิด หรือหยิบเอาไปเทียบกับการอาบน้ำโชว์เรือนร่างของนักร้อง “เบียร์ เดอะวอยซ์” ได้ ยิ่งบอกว่า “ไม่อุจาดเท่า” ด้วยแล้ว..ยิ่งแล้วใหญ่

เพราะการอาบน้ำโชว์นั้น มัน “อุจาด” ตามความหมาย น่าเกลียด น่าอาย อย่างที่ไม่ควรทำ อย่างเด่นชัด แต่กับท่าเต้นของหนูลิซ่า ถ้าหากไม่จินตนาล้ำลึกเกินไป..

ก็เป็นแค่ลีลาท่าเต้นตามแบบอย่างศิลปะของนักร้องระดับโลกที่มีให้เห็นอยู่ชินตา ไม่เห็นจะเป็น “ท่าหมาร่วมรัก” ให้ดูต่ำตมเลย!

อย่างไรก็ตาม ผมก็มองตรงกับ ดร.โสภณ ว่า..“ดาราที่เรารัก ถ้าทำไม่เหมาะในที่สาธารณะ ต้องเตือนได้ อย่ายึดตัวบุคคล”

แต่..ดร.โสภณจะนำมาใช้กับหนูลิซ่าเพียงแค่ท่าเต้นนี้ก็เห็นจะไม่ได้ หรือถ้าคันมือ-คันปาก (มาก) เอางี้ ช่วยดูและวิจารณ์ท่าเต้นนักร้องลูกทุ่ง-หมอลำสาวหน่อยเป็นไร?

เห็นไหม..บางเวทีกระเด้ง-กระเด้ากันจนนักร้องกับหางเครื่องเกิดอารมณ์พิศวาส ต้องแอบไปกระเด้าต่อในที่ลับตาคน จนบ้านแตกสาแหรกขาดนั่นน่ะ!

หรือหลายเวทีก็เต้นกันแทบเป็น “จ้ำบ๊ะ” ยุคคุณปู่-คุณตายังหนุ่ม อย่างงี้ถ้า ดร.โสภณจะแกว่งปากวิพากษ์ หรือจะใช้ภาษา-คำพูดเปรียบเทียบรุนแรงไปบ้าง ทัวร์ก็น่าจะไม่ลง!

ผมชอบที่คุณอัษฎางค์ ยมนาค เขียนถึงกรณีของหนูลิซ่า จึงใคร่ขออนุญาตนำช่วงท้ายข้อความมาให้ท่านผู้อ่านที่อาจไม่ได้ผ่านตาได้ทัศนาดู ว่าจะชอบอย่างผมไหม?..

เมื่อเธออยู่บนเวทีระดับโลก เธอมีหน้าที่เป็น “ศิลปิน” ไม่ใช่ “ทูตวัฒนธรรมแบบอนุรักษนิยม”

ความเซ็กซี่ในเวทีโลก ไม่ได้หมายถึงการยั่วยุทางเพศเสมอไป แต่มันคือ ความมั่นใจในร่างกาย ความกล้าแสดงออก และการสื่อสารอัตลักษณ์ผ่านศิลปะ

หากเรายอมรับศิลปินตะวันตกเช่น Beyoncé หรือ Rihanna ได้ ทำไมเราถึงตั้งมาตรฐานที่ต่างกันให้ลิซ่า?

บทสรุป:

ลิซ่าคือคนรุ่นใหม่ที่กล้า “อยู่ในโลก” โดยไม่ละทิ้งรากของตัวเอง เธอคือภาพสะท้อนของ “ความเป็นไทยที่ปรับตัวได้โดยไม่สูญเสียตัวตน”

และหากสังคมไทยยังไม่อ้าแขนรับความหลากหลายนี้ เราก็อาจกลายเป็น “ประเทศที่มีคนเก่ง แต่ไม่เคยยอมให้เขาเป็นตัวของตัวเอง”

อย่าด่วนตัดสินคนของเรา ด้วยแว่นสายตาที่ไม่เข้าใจโลก เพราะคนไทยที่ได้ยืนในระดับโลก…ไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยๆ

ถ้าเราอยากให้ศิลปินของเราไปไกล…เราต้องเลิกดึงเขากลับด้วยอคติที่ไม่เคยข้ามพรมแดน

ครับ..ยามนี้ก็เพียงหนูลิซ่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวนี้กระมัง ที่พอจะเชิดหน้าชูตาประเทศไทยให้สังคมโลกทึ่ง!

ส่วนผู้หญิงตัวเล็กๆ อีกคน แม้จะเป็นถึง “ผู้นำประเทศ” แต่ยังคงแค่ “เด็กน้อย” ที่ไม่รู้สี่รู้แปด ขนาดคำพูดตัวเองก็ยังไม่รู้ ต้องถาม.. “ถ้าตนพูดแล้วจะเชื่อกันหรือไม่”?

ถ้าไม่ใช่เวรกรรมประเทศไทย ก็ไม่รู้จะเป็นเวรกรรมอะไรแล้ว!.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
DGA เดินหน้าต่อเนื่อง เปิดประสบการณ์บริการดิจิทัลภาครัฐ ด้วยแนวคิด เข้าใจ เข้าถึงง่าย ลดภาระให้ประชาชนชาวอุทัยธานี
นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานเปิดโครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 ณ. อบต.บ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี 
Read More
0 replies on “ถนอมไว้เชิดหน้าชูตา? #สันต์สะตอแมน”