เมื่อ ‘ไอ้เสือติดจั่น’ #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

เอาละเว้ย…เฮ้ย!
สัญญาณ…ไม่อาวววว “เผ่นดีกว่า” มาให้เห็นหลังไหวๆ แล้วพี่น้อง
พลันที่ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง” ตรวจสอบกรณีจำคุกทักษิณว่า “อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด”
และมีคำสั่งนัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ ๑๓ มิถุนา.

ขณะเดียวกัน ข่าวแพร่สะพัด
๘ พฤษภา. “แพทยสภาจะแถลงผลสอบจริยธรรมแพทย์ รพ.ตำรวจ และ รพ.ราชทัณฑ์
ไอ้เสือกินคนตาบอดเหมือนตกอยู่ในวงล้อม ศาลฯ, กสม., ป.ป.ช. และแพทยสภา เริ่มออกอาการ “หางจุกตูด”

ดังนั้น เมื่อวาน ขณะที่แพทยสภาประชุมตอน ๑๐ โมงเช้าที่ “อาคารมหิตลาธิเบศร” กระทรวงสาธารณสุข

ทักษิณในฐานะจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ แต่งหล่อ นั่งโรลส์-รอยซ์ บึ่งไปศาลอาญา พร้อมรัฐมนตรีต่างประเทศ “นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์”
ยื่นคำร้องต่อศาล “ขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร” ทันที!

ตกบ่ายวันเดียวกัน…
ผลสอบจริยธรรมแพทย์ กรณีป่วยขั้นวิกฤตของทักษิณ ที่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ก็ออกมา

“ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา” อุปนายกแพทยสภาคนที่ ๑ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม แถลงว่า ……….

“ที่ประชุมกรรมการแพทยสภา มีการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องอยู่ในความสนใจของประชาชน
กรณีกล่าวโทษแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม

ที่ประชุมมีมติลงโทษแพทย์ ๓ ท่าน โดยตักเตือน ๑ คน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน
และพักใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ๒ ท่าน ในกรณีให้ข้อมูลและเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

หลังจากนี้จะนำเสนอมติต่อสภานายกพิเศษ คือ รมว.สาธารณสุข เพื่อขอความเห็นชอบก่อนจะดำเนินการตามมติ
ดังนั้น ทั้งหมดจึงต้องรอความเห็นจาก รมว.สธ. (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.๒๕๒๕”

นักข่าว…..
“สาเหตุที่ตัดสินเช่นนี้เพราะอะไร?”

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์…..
“สำหรับท่านที่ว่ากล่าวตักเตือนเป็นความผิดที่ไม่ได้รุนแรงเนื่องจากเกี่ยวกับเรื่องการออกใบส่งตัว
ส่วนอีกสองท่านเป็นเรื่องการให้ข้อมูลเอกสารทางการแพทย์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง”

นักข่าว…..
“การให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงหมายถึงอะไร?”

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์…..
“ขณะนี้ข้อมูลที่เราได้รับไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น”

นักข่าว…..
“สรุปคือไม่ป่วยจริงใช่หรือไม่?”

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์…..
“ผมบอกได้แค่ว่า ด้วยข้อมูลหลักฐานทั้งหลายที่เราได้รับ ไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้นตามที่มีการแถลงข่าว อยู่ที่การตีความ”

“ดังนั้น วันนี้ ที่เราไม่สามารถบอกว่าต้องพักใช้ใบอนุญาตนานเท่าไหร่ เพราะการจะพักใช้นานเท่าไหร่ อยู่ที่ความเห็นชอบของสภานายกพิเศษ

หากเราให้ข้อมูลไปก่อนแล้วไม่ตรงกัน หรือมีความเห็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้น ต้องรอให้จบทุกขั้นตอน จึงจะบอกได้ว่าต้องพักใช้ใบประกอบวิชาชีพนานเท่าไหร่”

นักข่าว…..
“รายละเอียดเอกสารที่ไม่สอดคล้องกับอาการป่วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?”

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์…..
“เอกสารที่เราได้รับซึ่งไม่ใช่ทั้งหมด แต่เท่าที่ได้รับมา มันเป็นแบบนั้น”

นักข่าว…..
“เนื่องจากสังคมจับตาการทำงานของแพทยสภา มติที่ออกมาในวันนี้ คิดว่าจะเรียกความเชื่อมั่น ศรัทธา เกียรติยศ และศักดิ์ศรีกลับคืนหรือไม่?”

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์…..
“แพทยสภายึดความถูกต้อง ยึดหลักฐานต่างๆ เราไม่ได้สนใจปัจจัยภายนอก เราไม่ได้สนใจว่าแพทย์ท่านนี้คือใคร เราไม่ได้อิงปัจจัยภายนอก ไม่อย่างนั้นจะเกิดเป็นประเด็น”

“ดังนั้น จากข้อมูลที่มีแบบนี้ จึงสรุปออกมาแบบนี้ และขอให้รู้ว่า พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.๒๕๒๕ มีมติอย่างไรยังไม่สิ้นสุด คำสั่งยังออกไม่ได้
จนกว่ารัฐมนตรีสาธารณสุขจะเห็นชอบ สรุปคือคำสั่งยังออกไม่ได้จนกว่ารัฐมนตรีจะเห็นชอบ”

นักข่าว…..
“แพทย์ด้านไหนที่เข้าข่ายความผิดนี้?”

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์…..
“เป็นแพทย์เฉพาะทางและออร์โธปิดิกส์”
………………………………….

ครับ……แค่ประโยคเดียว ที่ว่า
“ข้อมูลที่เราได้รับ ไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น”!

ฟังปุ๊บ ทักษิณลมตะกังตีกลับ ๓ ตลบ!
เจออีดอกนี้ ถ้าผมเป็นทักษิณก็ต้องร้อง….ไม่อาววววว กูเผ่นก่อนดีกว่า

ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ว่าทำไมทักษิณจึงไปยื่นคำร้องต่อศาลขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ทั้งที่เคยร้องขอมาครั้งแล้ว แต่ศาลไม่อนุญาต

เรื่องภาษาหมอนี่ ผมไม่ค่อยเข้าใจ ต้องอาศัยที่ “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” ท่านถอดรหัสแล้วนำมาโพสต์ไว้ ดังนี้
…………………………………………..

วรงค์ เดชกิจวิกรม – Warong Dechgitvigrom
#ข่าวดีจากแพทยสภา

ผมขอแปลผลการแถลง ของแพทยสภา เป็นภาษาที่เข้าใจง่ายๆ คือ

เท่ากับว่าเป็นการยืนยัน มีแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือนักโทษ ที่ถูกลงโทษทางจริยธรรม 3 คน ที่นักโทษไม่ได้ป่วยวิกฤต แต่ใช้วิชาชีพแพทย์เพื่อช่วยเหลือ

มี 2 คน ที่ถือว่าเป็นโทษที่หนัก นั่นคือการพักใบอนุญาต ซึ่งตีความได้ว่า แพทย์ 2 คนนี้ มีการออกเอกสารทางการแพทย์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง

ก็คือออกเอกสารเท็จ เพื่อช่วยเหลือนักโทษ เพราะนักโทษรายนี้ ไม่ได้ป่วยวิกฤต ตามที่อ้าง

เชื่อว่าผลของแพทยสภาจะถูกไปใช้ประโยชน์ที่ ป.ป.ช.และศาลฎีกานักการเมือง ที่จะมีการไต่สวนเร็วๆ นี้
ส่วนจะขยายความผิดไปที่ใครบ้าง ต้องติดตาม ป.ป.ช.และศาลครับ
……………………………..

ผมก็ขอแปล “ข่าวดี” จากศาลอาญามั่ง…..

ล่าสุด……..
ศาลอาญาได้มีคำสั่ง “ไม่อนุญาต” ให้นายทักษิณเดินทางไปกาตาร์ตามคำเชิญส่วนตัวของเจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ โดยอ้างเหตุผลว่า “เป็นการนัดหมายส่วนตัว”

“กงเกวียน-กำเกวียน” เป็นฉันใด……..

เรื่องทักษิณป่วยชั้น ๑๔ ก็เป็นฉันนั้น ระหว่าง ๒ รัฐมนตรียุติธรรมคนปัจจุบัน “ทวี สอดส่อง” กับอดีตรัฐมนตรียุติธรรม “สมศักดิ์ เทพสุทิน”

เพราะถึงตอนนี้ รัฐมนตรีทวีโบ้ยแล้วว่า เรื่องส่งไปนอนชั้น ๑๔ ต้องไปถามรัฐมนตรีคนก่อน เพราะเขามาทีหลัง
ทำเอาหินในมือสมศักดิ์ที่กำลังเรียงหล่นมือทันที!

เรื่องมติแพทยสภา “ลงโทษจริยธรรม ๓ หมอ” ออกเอกสารเท็จเพื่อช่วยเหลือนักโทษ เพราะนักโทษรายนี้ไม่ได้ป่วยวิกฤต ตามที่อ้าง นั้น

มติแพทยสภานี้ จะออกเป็นคำสั่งได้ ก็อยู่ที่อดีตรัฐมนตรียุติธรรมที่เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขวันนี้คือ “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” จะเห็นชอบและยอมลงนามในคำสั่งหรือไม่?

คิดแล้วก็ขำ “กรรมเล่นตลก”

กรรมใดใครทำ ลงท้าย คนนั้นรับ หอกใครเสี้ยม คนนั้นคะมำให้หอกตำเสียบ
กรรมบุคคลต่อบุคคล ยังพอปลดปลง

แต่ “อนันตริยกรรม” ทำต่อชาติ-ต่อแผ่นดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้นก็ยังช่วยไม่ได้
ก็ดูกันไว้ แล้วคิดกันไว้ พวก “ขายชาติ” มีใครได้ตายดีซักคนมั้ย?.

เปลว สีเงิน
๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
เปิดงาน “เดอะ มาร์เก็ต สงกรานต์ฉลองนคร ๒๕๖๔”
รัตนธร ลิมป์ไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมการตลาด บมจ. เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ผู้บริหาร ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ร่วมกับ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม, สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย...
Read More
0 replies on “เมื่อ ‘ไอ้เสือติดจั่น’ #เปลวสีเงิน”