เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก #สันต์สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย..

งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน “นายกฯ แพทองธาร” พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

ตุ๊กตาแบร์บริก 9 ตัว ทองคํา-เครื่องประดับพรึบ เสื้อผ้า 167 ชุดมูลค่าเกือบ 27 ล้าน พบมีที่ดินปทุมธานี 3 แปลง และที่ฮอกไกโด 2 แปลง บ้านเช่าที่ลอนดอน 2 หลัง

กู้เงินแม่-พี่ชาย-พี่สาว วันเดียวกันถึง 6 รายการ กว่า 2.8 พันล้าน มีรายได้ปีละ 265 ล้าน”

อุ๊..แม่เจ้า ประกอบธุรกิจสุจริต เก็บเงิน-เก็บทองให้ลูกได้มากมายขนาดนี้แล้ว ยังจะไม่พอ ยังแสวงหาอำนาจ เงินตรา บารมีต่อไม่จบสิ้นเลยนะนายทักษิณ?

รวยน่ะไม่มีใครอิจฉาหรอก แต่รวยกันทั้งครอบครัวเป็นหมื่นเป็นแสนล้านก็น่าจะเพลาๆ ความกระหายลงเสียบ้าง..

ใจคอ กะจะเขมือบให้หมดทั้งประเทศหรือไง? ไหนพูดต่อหน้าพระพยอม.. “ในช่วงที่อยู่ต่างประเทศนั้น ตนอ่านหนังสือเกี่ยวกับธรรมะจนจิตใจสงบลง ปล่อยวางไปได้เยอะมาก”

สงบกับผีน่ะสิ..วันๆ เห็นคิด-แค้นแต่จะ “เอาคืน” กับคนนั้น-คนนี้ ในชีวิตน่ะปล่อยว่างอะไรได้บ้างล่ะ..เกาะกูดรึ บ่อนคาสิโนรึ?

แม้แต่เพียงเสียงของคุณชวน หลีกภัย ที่พูดด้วยความสุภาพและให้เกียรติ ก็ยังไม่ปล่อยวางไม่ได้-ทนไม่ได้..

จนต้องปล่อยปลอกคอให้หมาในคอกออกมาเห่ากระโชกให้เป็นที่หนวกหู..รำคาญใจชาวบ้านเลย!

อ้อ..แต่ที่รับไม่ได้-ทนไม่ได้แน่ ก็ที่ครม. มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ลดขั้นตอนการพิจารณาให้สัญชาติไทยแก่กลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทย

และบุตรของต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย รวม 483,000 คน โดยในจำนวนนี้มีลูกของต่างด้าวที่เกิดในไทยถึง 113,000 คนนั่นแหละ!

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ จึงได้ให้ความเห็นว่า.. “เนื่องจากการให้สัญชาติแก่บุตรของต่างด้าวที่เกิดในไทยแบบง่ายๆ นั้นจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในหลายมิติ

ดังนั้นรัฐควรต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ ในการพิจารณาให้สัญชาติ.. อีกทั้งรัฐบาลควรออกกฎเกณฑ์ในการพิจารณาให้สัญชาติไทยให้มีความเข้มงวดมากขึ้น

เช่น หากพบว่าหลบหนีเข้าเมืองมาแบบผิดกฎหมาย คลอดลูกในไทย แม้จะเข้ามาเป็นแรงงาน ลูกก็ไม่มีสิทธิได้สัญญาติไทย

เราต้องรักษาสิทธิของคนไทยทั้งประเทศ เพราะการที่จะเพิ่มจำนวนคนไทยขึ้นมาหนึ่งคนมันหมายถึงสวัสดิการต่างๆ ของประเทศที่ต้องแบ่งไปดูแลเขา

เช่น สิทธิในการรักษาพยาบาล สิทธิที่รัฐแจกเป็นครั้งคราว เช่น เงินดิจิทัล 10,000 บาท เขาก็ได้ด้วย เป็นสิทธิที่เขามาแย่งคนไทย..

ดังนั้นการที่จะมาคลอดบุตรในเมืองไทย เพื่อให้ลูกได้สิทธิการรักษาบัตรทอง อยู่จนลูกโต ลูกได้สิทธิเรียนฟรี 15 ปี เมื่อเรียนจบปริญญาตรีก็หาคนรับรองเพื่อให้ได้สัญชาติไทย มันไม่ถูกต้อง”

ครับ..ก็ไม่ได้กังวลแบบ “คนคลั่งชาติ” แต่หากรัฐหรือหน่วยงานความมั่นคงยังปล่อยปละละเลอยู่ต่อไป ก็จะเป็นภัยต่อความมั่นคงได้

เอาเรื่องเล่าจากคุณเต้ อาชีวะ มาให้อ่านอีกนิด.. “ชายคนหนึ่งชื่อ “ปานจิ้ง ลุงมะ” พ่อกับแม่เป็นคนไทยใหญ่และถือสัญชาติพม่า เข้ามาอาศัยอยู่ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

ส่วนตัวเขามีชื่อในทะเบียนบ้านหลังหนึ่งในประเทศไทยในฐานะผู้อาศัย ไม่รู้ว่าเกิดวันที่เท่าไหร่ ไม่มีเอกสารรับรองการเกิด ต่อมาเขาทำเรื่องขอสัญชาติและได้สัญชาติไทย

แต่ปัญหาที่ตามมาคือนายปานจิ้ง ซึ่งปัจจุบันอายุ 55 ปี ได้นำสัญชาติไทยและบัตรประชาชนไทยที่ได้รับไปหาผลประโยชน์

โดยเขาไปทำเรื่องรับรองบุตรให้แก่ลูกของผู้หญิงชาวพม่านับร้อยคน ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นพ่อของเด็กและไม่ได้รู้จักกับผู้หญิงเหล่านี้มาก่อน..

เท่ากับว่าผู้ชายคนนี้นำสัญชาติไทยที่ได้รับไปหาประโยชน์ เอาบัตรประชาชนไทยไปหากิน และมีเด็กกว่าร้อยคนที่ปานจิ้งไปทำเรื่องรับรองบุตรให้”

อย่างนี้น่ากังวลและชวนขนลุกไหม..อุ๊งอิ๊ง?

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
GC รับรางวัล CEO, CFO และ IR ยอดเยี่ยม จากเวที IAA Awards for Listed Companies 2020
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC...
Read More
0 replies on “เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก #สันต์สะตอแมน”