สันต์ สะตอแมน
“สุริยะ” เช็กแผนพัฒนาคมนาคมภาคใต้ ของบกลางศึกษา “ทางคู่, มอเตอร์เวย์” เชื่อมหาดใหญ่ ชายแดนมาเลย์
ครับ..พาดหัวข่าว “ผู้จัดการออนไลน์” ซึ่งเห็นปุ๊บก็อืออ คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นี่ช่างขยันขันแข็งกับงานในตำแหน่งหน้าที่ดีจัง
เดี๋ยวของบนู่น เดี๋ยวของบนั่นสมกับนามสกุล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ซึ่งก็ดีใจนะที่คนใต้จะได้มีทางคู่ มอเตอร์เวย์ สะพานใหม่ๆ ให้ได้ใช้-ได้สัญจร
รีบเร่งเซ็น-เร่งทำสัญญาล่ะ เพราะไม่รู้รัฐบาลแพทองธารจะอยู่ได้อีกกี่น้ำ เห็น (ลาง) ผู้ครอบครองนายกฯ ขออนุญาตศาลออกนอกประเทศถี่ๆ..
เกิดอุบัติเหตุปุ๊บปั๊บขึ้นมา ไม่ใช่แค่คนใต้ที่จะไม่ได้อะไร คุณสุริยะก็จะพลอยไม่ได้อะไร หมายถึงผลงง-ผลงานไปด้วยเท่านั้นแหละ!
เอ้า..ส่วนนั่นแม้จะไม่ได้อะไร แต่เพื่อมนุษยธรรมและความถูกต้อง-เป็นธรรม คุณไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ที่กำลังมีรักใหม่หวานแหววอยู่กับนางเอกคราวลูก..
ก็..ยินดีด้วยเต็มใจจะไปให้ข้อมูลกับดีเอสไอตลอดเวลา ล่าสุดเห็นข่าวจาก “ผู้จัดการออนไลน์” อีกแหละ ที่รายงานว่า..
ทยอยกันเข้าไปให้ปากคำกับ DSI คดี “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง “ไทด์ เอกพัน บรรลือฤทธิ์” ได้ออกมาเล่าว่า
หลังจากที่เข้าไปให้ปากคำ และฟังข้อมูลจากทาง DSI แล้ว บอกได้เลยว่าคนบนเรือตอนนี้ ร้อนๆ หนาวๆ กันแล้ว
“ผมเพิ่งจะได้ไปฟังข้อมูลจาก DSI ผมว่าคนบนเรือตอนนี้ร้อนๆ หนาวๆ แล้ว ผมมั่นใจเลย ในใจผมคิดไว้แล้วว่าใครที่ทำอะไรไว้กับน้องจะต้องได้รับกรรมที่เขาทำ
แต่ตอนนี้มันอาจจะยังไม่ถึงเวลา พอถึงเวลาทุกสิ่งทุกอย่าง หลักฐานต่างๆ ที่เขารวบรวมและมั่นใจว่าน้องถูกฆาตกรรม
ทุกคนที่อยู่บนเรือ ใครที่ทำสำนวนอะไรต่างๆ ต้องโดนออกมาทั้งหมดนะครับ เพราะเขามีรายชื่อไว้ทั้งหมดอยู่แล้ว
หลังจากนี้ทีมกู้ภัยเองก็เพิ่งไปให้ข้อมูล ทางกู้ภัยได้รับแจ้งข้อมูลจากใคร ที่ไหน เวลากี่โมง ต้องไปให้ข้อมูลให้ตรงกับที่เขาแจ้งหรือเปล่าว่ากี่โมง
บอกว่ามีคนตกเรือตาย มีคนตกเรือทราย หรือว่ามีคนตกเรือบรรทุกทราย ตรงนี้เป็นประโยคที่สำคัญ ถ้าคนในเรือแจ้งมาว่ามีคนตกเรือตาย เขารู้ได้ยังไงว่าเขาตกลงไปแล้วตาย
ถ้าตกเรือทราย แสดงว่าต้องมีเรือทรายวิ่งผ่านตรงนั้นแล้วมีคนตกไป ตกเรือขนทราย เรือขนทรายจอดอยู่แล้วกำลังขนทรายจากบกขึ้นมาบนเรือ แล้วคนตกลงไป
มันมี 3 เคส เด็กอาสาไปถามชาวบ้านแถวนั้นหมดแล้ว ไม่มีใครรับแจ้งว่ามีคนตกเรือทราย
ถ้าอย่างนั้นก็ตรงประเด็นว่ามีคนตกเรือตาย ถ้า DSI เขาร้องขอให้เข้าไปผมก็คงจะไปอีก ผมไปอยู่แล้วครับ”
เนี่ย..ไม่ทราบว่าคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พี่ชายคุณไทด์จะมีแพลนโปรเจกต์ทำหนังอยู่หรือไม่ ถ้ามีผมขอเสนอให้ทำเรื่องราวการเสียชีวิตของหนูแตงโมนี่แหละ!
และขอเสนอต่อว่า ให้ไปเจรจา-ติดต่อคุณมานพ อุดมเดช ผู้กำกับมือรางวัลที่เวลานี้กำลังตกงานให้มาช่วย “เขียนบท” ควบตำแหน่ง “ที่ปรึกษา” หรือถ้าจะให้สมบูรณ์เบ็ดเสร็จ..
ควรมอบหน้าที่ “ผู้กำกับ” ให้แกไปเสียด้วยเลย!
ส่วนคุณท็อปกับคุณไทด์ก็แค่ออกเงิน-ลงทุน (สร้าง) กับคอยตามหาข้อมูลจากคุณปานเทพ คุณอัจฉริยะ คุณหมอธวัชชัยมาป้อนให้พอแล้ว
ผมไม่ขอรับรอง แต่มั่นใจหนังต้องได้ทั้งเงิน-ทั้งกล่อง ดูอย่าง “คืนบาปพรหมพิราม” ที่คุณมานพเปิดแฟ้มอดีตคดีดังมาสร้างเมื่อ 20 กว่าปีก่อนนั่นไง..
กวาดเงินแล้วยังไม่หนำ ยังจะโกยรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงหญิงนำยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ไปค่อนเข่ง!
เอาน่า..กล้าๆ หน่อย คิดเสียว่าลงทุนลงแรงเพื่อที่จะได้บันทึกเรื่องราว-การเสียชีวิตของน้องสาว (แตงโม) ไว้เป็นตำนาน และหากดีเอสไอรวบรวมหลักฐานจนถึงที่สุด..
แตงโมไม่ได้ตกเรือตาย แต่เป็นการ “ฆาตกรรม” ขึ้นมา..จุ๊ๆ..
โรงแตกแน่..ท็อปเอ๊ย!
