เปลว สีเงิน
พูดกันตามโฉลก…
“นายกฯ แพทองธาร” นี่ น่าเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี “แม่พระธรณีบีบมวยผม” เป็นสัญลักษณ์
มากกว่าเป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “นะ…ผมว่า
ก็ดูซี….
เป็นนายกฯ ปุ๊บ “ก็ปานแม่พระธรณีบีบมวยผม” หลั่งน้ำป่าอวยชัย ทะลัก-ทลาย ประหนึ่งพระแม่พิโรธปั๊บ!
“แม่สาย” เชียงราย จมน้ำว่าหนักหนา
แต่ดินเลนที่น้ำพามา ดูจะหนักหนาปานลาวาภูเขาไฟถล่ม เหมือนต้องการให้แม่สายจมธรณี
น้ำลด “ทหาร-ประชาอาสา” พอจะได้พักหายใจ ที่ไหนได้ ดินเลนที่พรางตัวมากับน้ำ กลายเป็นศึกใหญ่เล็ดลอดถมทับ ทำให้ต้องรบพิชิตติดพัน
แนวรบด้านแม่สายยังไม่ทันเบ็ดเสร็จ
น้ำป่าจากฝนสะสม ก็เปิดแนวรุกใหม่ เชี่ยวกรากยังกะโกรธใครมา คมกริบปานขวานถากถล่มเวียงป่าเป้า ลามไปถึงพะเยาและลำปาง
ที่เชียงใหม่….
ประมาทไม่ได้ โอกาสจะเป็น next station ของฝนบนฟ้า ตามโฉลก “นายกฯ ตระกูลชิน” ใครทั้งสิ้น ก็อย่าชะล่าใจ
ตอนนี้ กำลังวาบๆ หวิวๆ เพราะแม่ฮ่องสอน ทัพน้ำก็รุกไล่ยึดพื้นที่ไปแล้วบางส่วน
“เชียงใหม่” มี สส.๑๐ คน เลือกตั้งครั้งที่แล้วเพื่อไทย “เจ้าถิ่น” เสียเมือง ให้ก้าวไกล “เด็กในคาถา” ไปถึง ๗ คน
กองทัพน้ำบุกถล่มภาคเหนือมาจ่อเชียงใหม่ ทายกันซิว่า ชาวบ้านจะเห็นหน้าใครก่อน….
ระหว่างเพื่อไทย “พรรคพี่” กับก้าวไกล “พรรคน้อง”?
แต่ผมว่า “ทหารกับประชาอาสา” จะมาให้ชาวบ้านเห็นหน้าในยามมีภัยก่อนเพื่อน
นอกจาก “ข้าราชการในพื้นที่” แล้ว
บุ๋ม-ปนัดดา, บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์, กันต์ จอมพลัง และคนไทยที่ไม่ทิ้งกัน จากใต้ จากตะวันออก จากกรุงเทพฯ จากอีสาน และอีกมากมาย จาระไนไม่หมด
เป็น “หัตถ์พระเจ้า” ช่วยกันยื่นให้พี่น้องประสบภัยได้ยึดเกาะในยามยากลำบากนี้
เมื่อหมดทุกข์ยาก-ความลำบากหายไป
นายกฯ และรัฐมนตรี ก็จะนวยนาดมาโชว์แฟชั่น ให้กอด ให้จับไม้จับมือ และได้เซลฟี่ไปอัดกรอบตั้งไว้หัวนอน เพื่อหลับและฝันดีกัน!
ระยะหลังๆ นี้ น้ำมาทุกปี และทุกรัฐบาลก็ได้แต่ “ถอดบทเรียน” กันทุกปี ป่านนี้บทเรียนที่ถอด กองสูงเลยยอดตึกไทยคู่ฟ้าไปแล้วมั้ง
แต่ก็จะตั้งหน้า-ตั้งตาถอดกันให้โทรทัศน์ถ่ายทอดโชว์ชาวบ้านชนิดไม่หวั่น-ไม่อาย และจะทำกันเช่นนี้ตลอดไปชั่วนิรันดร์
“ผู้บริหารประเทศ” จากเลือกตั้ง ก็ทำได้แค่นี้แหละ!
นี่เห็น “นายชูศักดิ์ ศิรินิล” รมต.สำนักนายกฯบอกว่า…
๑ ตุลา.นี้ …….
รองนายกฯ และรมว.กห. “ภูมิธรรม” ผู้อยู่ในบท “นายกฯ เงา” อีกตำแหน่ง นัดพรรคร่วมรัฐบาลประชุมหารือด่วน
เปล่า…เปล่า ไม่ใช่หารือรับมือ “โลกวิปริต” ดินฟ้าอากาศแปรผัน ว่าจะป้องกันและช่วยชาวบ้านได้ยังไงหรอก
แต่จะหารือเรื่อง “แก้รัฐธรรมนูญ” ในปม “จริยธรรม” ที่ทำให้รัฐบาลอยู่ยาก-กินนอนยากน่ะ!?
ชูศักดิ์บอกว่า มี ๒ ประเด็น ที่ต้องหารือ คือ
๑.เรื่องแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนนำเสนอในขณะนี้ “พรรคร่วมรัฐบาล” มีความคิดเห็นอย่างไร?
๒.จะหารือเรื่องที่ทำมาในอดีตจนถึงปัจจุบันหรือความคืบหน้าเรื่อง “จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง?
เช่น เรื่องประชามติไปถึงไหนแล้ว จะเริ่มทำได้เมื่อไหร่ และจะแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒๕๖ ได้เมื่อไหร่?
ก็จะพูดคุยพรรคร่วมให้ได้ข้อยุติใน ๒ ประเด็นหลักนั้น
“จั๊กจี้ดี”!
งก็ “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ” เกี่ยวกับจริยธรรม เพื่อไทยยื่นต่อประธานรัฐสภาไปแล้ว ได้ยินประธานวันนอร์บอกว่า “จะบรรจุเข้าระเบียบวาระในเดือนหน้า”
เรียกว่า “เสร็จเรียบร้อย” ไปก่อนแล้ว
แล้ว “เพื่อไทย” เพิ่งนัดพรรคร่วมประชุม เพื่อจะถาม “เรื่องนี้ สหายทั้งหลาย มีความคิดเห็นกันอย่างไร?”
โถ…เวรกรรม!
ได้ยินพรรคร่วมหลักๆ ๒-๓ พรรค เขาไม่เห็นด้วยที่ มุ่งแก้เรื่องจริยธรรม นอกจากเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้แก้เองแล้ว
การแก้ประเด็นนี้ อ้างเหตุผลแบบหน้าด้านๆ บ้านพอได้ แต่ตัวเอง ตอบมโนธรรมสำนึกตัวเองได้มั้ย สบตาตัวเองในกระจกได้มั้ย
ว่า…ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง!?
ทั้งภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ กระทั่งประชาธิปัตย์ ในหลักการใหญ่ “แก้รัฐธรรมนูญ” ไม่มีใครค้าน
แต่ไม่ใช่เวลานี้ และการที่เพื่อไทยสมคบฝ่ายค้านเจาะจงยื่นแก้เฉพาะเรื่องจริยธรรมเพื่อตัวเองก่อน
มันก็เหมือน “แอบกินในครัว” ก่อน ครั้นถึงตอนกินมื้อใหญ่ ก็ออกมาร่วมโต๊ะแชร์
สวาปามพุงกางอีกรอบแบบนั้น นอกจากไม่แฟร์กับเพื่อนแล้ว ยังพูดได้ว่า…….
ก็นี่ไง ที่ถาม “ซื่อสัตย์สุจริตไม่เป็นที่ประจักษ์” เป็นแบบไหน?
ก็เป็นแบบที่เพื่อไทยทำกับพรรคร่วมนี่แหละ!
แอบจับมือฝ่ายค้าน ยื่นตัวร่างแก้ไขฯ ที่สมประโยชน์กันให้ประธานรัฐสภาไปแล้ว แล้วถึงมา “แจ้งเพื่อทราบ” กับพรรคร่วมทีหลัง
“ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ก็ลักษณะนี้แหละ พ่อชูศักดิ์ อย่าเอาแต่ทำตาเหลือก-ตาพอง
เรื่องแค่นี้ไม่เข้าใจ เป็นมือกฎหมายรัฐบาล เดี๋ยวก็พากันไปตายน้ำตื้นทั้งรัฐบาลจนได้หรอก!
พ่อชูศักดิ์เขาอ้างเหตุผลที่ต้องแก้ว่า….
“เราไม่ได้ยกเลิกเรื่องที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญปราบโกง เพียงแต่ต้องมีการกำหนดที่ชัดเจนว่า….
ต้องนับพฤติกรรมตั้งแต่เมื่อไหร่ เพื่อให้ชัดเจนขึ้น จะได้ไม่มีปัญหาในแง่การทำหน้าที่”
นี่นะเรอะ มือกฎหมายดีกรีอดีตอธิการบดีรามฯ?
“อดีตอารามบอย” จะสีซอให้ฟังซักนิด……
“รัฐธรรมนูญทุกมาตรา” ถ้าสงสัยว่าทำไมคณะร่างรัฐธรรมนูญเขาจึงเขียนอย่างนี้..อย่างนี้
ก็จะบอกให้ทราบว่า แต่ละมาตรามีความมุ่งหมายทางสั้น, ยาว, กว้าง, แคบ อย่างไร คณะผู้ร่างฯเขาจะอธิบายไว้ให้ทราบทุกมาตราครบถ้วน
และพิมพ์เป็นเล่มแจกจ่ายทั่วไป ผมเชื่อว่า ระดับชูศักดิ์ก็ต้องรู้และเคยผ่านตา แต่จะอ่านหรือไม่ เรื่องคุณ ไม่ใช่เรื่องผม
พอเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็ “ติดปม” จริยธรรม ละซีทีนี้
ทำไมถึงติด?
ไหนกระจก..กระจกอยู่ไหน เอาให้แต่ละคนที่พรรคคัดสรรมาตั้งเป็นรัฐมนตรีดูซิ ในนิยามว่า “ใครจะรู้ตัวกู-เท่าตัวกู” ก็จะกระจ่าง
ก็ต้อง “ตาหู-ตาแหก” แก้ก่อน ก่อนที่คำร้องเหมือนน้ำป่าหลาก จะไปถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
เพราะเผลอๆ ทั้งตัวนายกฯ และบางรัฐมนตรี จะถูกน้ำป่าว่าด้วยมาตรฐานจริยธรรมพัดจมหายต่อหน้า-ต่อตา!
ก็เลยเป็น “ลิงแก้แห” ไม่บอกพรรคร่วม แอบยื่นแก้ก่อนแล้วค่อยบอกทีหลัง
ข้ออ้างในการแก้ ฟังไม่ขึ้นซักราย ถ้าคนโง่ขนาดไม่เข้าใจว่าอะไรคือความซื่อสัตย์สุจริต แล้วสังคมยังปล่อยให้เป็นรัฐบาล เป็นรัฐมนตรี บริหารประเทศ
ก็สมควร “สมน้ำหน้า” ประเทศไทยประชาธิปไตยเลือกตั้ง!
ถ้าโง่โดยสุจริต จะยกโทษให้ พอแก้ไขได้
ไปหาอ่าน “ความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐” ซะ
ที่ “สัปปายสภาสถาน” และที่ “ทำเนียบรัฐบาล” ต้องมีอยู่แล้ว
สงสัยว่ามาตรานั้นๆ มีความมุ่งหมายแบบไหน-อย่างไร คณะกรรมการร่างฯ เขาเขียนไว้ละเอียด-ชัดเจนทุกมาตรา
เพื่อไทยไม่ต้องไป “แอบกินในครัว” ก่อนหรอก เอาไว้ตอนแก้เพื่อเขียนใหม่ทั้งฉบับ (ถ้าทำได้) อยากได้แบบไหน ก็ค่อยไปเขียนกันให้สะใจตอนนั้น
ผมไม่ต้องการสอนหนังสือสังฆราชหรอก แต่เห็นแกล้งทำเป็นซื่อตาใสกัน ก็จะบอกให้เอาบุญ
เรื่อง “จริยธรรม” นั้น ของสส.เป็นเกณฑ์จริยธรรมอ่อนๆในหมวดของสส.
ส่วนที่กำหนดเป็น “คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี” เป็นอีกเกรด
“มาตรฐานจริยธรรม” ของคนที่จะมาบริหารประเทศนั้น
รัฐธรรมนูญเขียนไว้ตะหาก เข้มข้นกว่าจริยธรรมสส.
ไปดูรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๖๐ ที่กลัว(๔)(๕)กันยิ่งกว่าผีกลัวใบหนาด ซึ่งเล่นเศรษฐาตกเก้าอี้ไปนั้น
(๔)มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ พูดกันว่ามันเวิ้งว้าง กว้างขวาง ตีความได้ตามใจชอบ ไม่มีกรอบกำหนด นั้น
ก็พูดหลอกชาวบ้านไปตามสันดาน ก็ทำไมจะไม่มี
ก็มันมี “พรบ.มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑” ทนโท่ ทั้งฉบับ
เห็นมั้ย “มาตรฐานจริยธรรม” เขาไม่ได้ใช้เฉพาะรัฐมนตรีเท่านั้น ใช้กับศาลรัฐธรรมนูญ, องค์กรอิสระ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ ฯลฯด้วย
ใช้มานานแล้ว ไม่มีฝ่ายไหนเขาระคางใจ มีแต่รัฐบาลเพื่อไทยนี่แหละ ที่โวย
ถ้าบอกว่ามันกว้าง ต้องตีกรอบให้แคบ
ไปอ่าน “มาตรฐานจริยธรรม” ก่อน ที่อ้างกันอย่างโน้น-อย่างนี้ เขาวางกรอบ “สั้น, ยาว, กว้าง, แคบ” ไว้ให้แล้วชัดเจน
ผมคุยยาวไปแล้ว แต่ยังสั้นกว่าเขาสัตว์
สรุปว่า “อย่าซื่อตาใส” กันไปให้มากนัก
ที่รัฐบาลจะทะร่อ-ทะแร่ไปได้ซักปี-สองปี ถ้าขืนงี่เง่ากันแบบนี้
เผลอๆ ไม่ถึงปีก็จะจอดซะก่อน …นี่ “จ๊อด ฮาวดี้” เตือนแล้วนะ!