ผักกาดหอม
มั่วกันจนถึงวินาทีนี้ครับ
นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน เดิมทีรัฐบาลบอกว่า ๕ แสนล้าน วันนี้ลดเหลือ ๔.๕ แสนล้าน ทำกันเหมือนเล่นขายของ
ใช้งบประมาณสูงขนาดนั้น แต่กลับไม่มีอะไรชัดเจนเลย
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการแจกเงิน ที่มาของเงิน เปลี่ยนกลับไปกลับมาตลอดเวลา
ประเด็นสำคัญคือ ยิ่งเปลี่ยนยิ่งเละ
๑ วันพันปัญหา!
ย้ำนะครับ นโยบายที่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมหาศาลถึง ๔.๕ แสนล้านบาท กลับไม่มีการกลั่นกรอง ไม่มีการศึกษาถึงข้อดีข้อเสียเลย
ถ้าบอกว่ามีก็ขอดูหน่อย
จากคำแถลงของ “ช่วยคลัง” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อยากให้พรรคร่วมรัฐบาลเอากลับไปคิด เพราะประตูที่สร้างความฉิบหายให้กับประเทศได้เปิดอ้าแล้ว
ไม่ต่างจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรอกครับ
โกงกันมโหฬาร
ฉะนั้นพรรคร่วมรัฐบาลต้องชัดเจน จะร่วมเรียงเคียงหมอนกันต่อไป หรืออย่างเบาสุด มีมาตรการให้นายกฯ เศรษฐายุตินโยบายนี้เสีย
หนักสุดคือถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล
ยุบสภา เลือกตั้งใหม่!
แต่หากไม่หือไม่อือ ก็รับรู้ไว้นะครับว่า พวกท่านทุกคนมีส่วนรับผิดชอบกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต
ทำไมคิดว่ามีแต่เรื่องเสียหาย!
นโยบายที่ต้องใช้เงิน ๔.๕ แสนล้าน และจะแจกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โครงการใหญ่ขนาดนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องที่มาของเงินเลย
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเพราะไม่ใช่นโยบายที่ผ่านการศึกษาอย่างดีมาตั้งแต่แรก
ฉะนั้น ไม่ต้องพูดถึงรายละเอียดว่าจะอุดช่องว่างช่องโหว่อย่างไรไม่ให้มีการโกง
เหมือนสร้างบ้านไม่มีแบบแปลนตั้งแต่แรก
แต่สร้างตามใจอยาก สุดท้ายต้องแก้งานไม่จบไม่สิ้น
คำแถลงของ “ช่วยคลัง” เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ประจานให้เห็นว่า รัฐบาลไม่มีความพร้อมใดๆ เลยในการใช้งบประมาณแผ่นดิน ๔.๕ แสนล้านบาท
“…รัฐบาลยังยืนยันจะครอบคลุมประชาชน ๕๐ ล้านคนเช่นเดิม แต่กระบวนการในการเตรียมงบประมาณเพื่อรองรับการดำเนินการคงไม่เกิน ๙๐% หรือใช้เงินประมาณ ๔.๕ แสนล้าบบาทเท่านั้น
ซึ่งตามข้อเสนอมองว่าสามารถใช้วิธีการบริหารจัดการด้วยวิธีงบประมาณตามปกติได้ คือดำเนินการผ่านงบประมาณปี ๒๕๖๗ ที่จะมีการตั้งงบประมาณราว ๑.๖ แสนล้านบาท
ประกอบด้วย งบประมาณเพิ่มเติม ๑.๒๒ แสนล้านบาท และงบประมาณจากการบริหารจัดการในส่วนต่างๆ อีกราว ๔.๓ หมื่นล้านบาท
และในปีงบประมาณ ๒๕๖๘ จะมีการตั้งงบประมาณ ๒.๘ แสนกว่าล้านบาท
มาจากการตั้งงบประมาณ ๑.๕๒ แสนล้านบาท และจากการบริหารจัดการงบประมาณในส่วนอื่นๆ อีกราว ๑.๓๒ แสนล้านบาท ซึ่งสุดท้ายเชื่อว่าจะเพียงพอรองรับการดำเนินการ…”
ประการแรกที่เศรษฐกิจย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ เพราะความล่าช้าของงบประมาณปี ๒๕๖๗
ไม่มีการลงทุนภาครัฐอยู่เกือบครึ่งปี
หลังวันที่แถลงนโยบาย ๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ แทนที่รัฐบาลจะเร่งให้สภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๔๕๗ กลับปล่อยเวลาสูญเปล่าไปร่วม ๔ เดือน
กว่าที่ร่าง พ.ร.บ.จะเข้าสภาได้ก็ข้ามปีไปแล้ว คือพิจารณาวาระแรกวันที่ ๓-๕ มกราคม ๒๕๖๘
ประชาชนควรได้รู้ว่า นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่เศรษฐกิจย่ำแย่ทุกวันนี้
หรือรัฐบาลวางแผนล้วงเงินจากงบประมาณปี ๒๕๖๗ ไป เติมนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตตั้งแต่แรก เพราะอย่างไรเสียก็ใช้ไม่หมด เนื่องจากกว่างบฯ จะเบิกใช้ได้ก็ปาเข้าไปเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่ผ่านมานี่เอง
มีเวลาแค่ครึ่งปีในการใช้งบประมาณปี ๒๕๖๗ แทนที่จะเป็นหนึ่งปีงบประมาณเต็ม
โหดร้ายมาก!
ประการถัดมา หากเป็นไปตามที่ “ช่วยคลัง” พูด รัฐบาลไม่ใช้เงินจาก ธ.ก.ส.แล้ว แต่ไปขูดเอาจากงบประมาณ ๒๕๖๘ แทน
“๑.๓๒ แสนล้านบาท”
แบบนี้ความฉิบหายมาเยือนครับ!
ยิ่งมาเจอคำพูดของ “ช่วยคลัง” ที่บอกว่า…
“…ข้อเสนอเรื่องการใช้วิธีการบริหารงบประมาณแทนนั้น อาจจะมีผลกับโครงการลงทุนตามงบลงทุนบ้าง แต่ไม่มีผลกระทบในเรื่องเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง…”
หมายความว่าไปตัดเอามาจากงบลงทุนใช่หรือไม่?
คิดกันได้อย่างไรครับ งบลงทุนภาครัฐน้อยอยู่แล้ว ยังไปเฉือนมาอีก
ประเทศมันจะพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างไร เมื่อรัฐบาลมักง่าย เอางบลงทุนไปแจกประชาชนแบบให้เปล่า
ในแง่การบริหารงบประมาณถือว่าอุบาทว์มาก
มักง่ายตั้งแต่การที่รัฐบาลเชื่อว่าประชาชนจะเข้าร่วมโครงการแค่ ๙๐% จึงตั้งงบฯ ไว้แค่ ๔.๕ แสนล้าน โดยไปเทียบกับโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ชิมช้อปใช้
เอาอวัยวะส่วนไหนคิดครับ เราเที่ยวด้วยกัน ชิมช้อปใช้ มันต้องควักเงิน แต่เงินดิจิทัลวอลเล็ตรับอย่างเดียว
เตรียมไว้เลยครับ ประชาชนใช้สิทธิมากกว่า ๙๐% แน่ แล้วจะเอางบประมาณจากไหนเพิ่มเติม
นี่คือความไม่พร้อมของรัฐบาล
แค่คิดก็ไม่พร้อมแล้ว ลงมือทำจะขนาดไหน
วานนี้ (๑๑ กรกฎาคม) นายกฯ เศรษฐาไปตอบกระทู้ที่สภา
คนถามคือ “ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เห็นบ่นว่าถามม้าตอบช้าง
กลายเป็นว่าคนถาม ถามไม่ตรงคำตอบ
จะตรงหรือไม่ตรง แต่ฟังนายกฯ เศรษฐาชี้แจงแล้ว ลมแทบจับครับ!
“…โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายหลักใช้เงินหมื่นบาท โดยใช้ให้จำกัดพื้นที่เพื่อให้เกิดการพัฒนากระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการพัฒนาต่ำ เช่น จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดมหาสารคาม เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค…”
อ้าว…แล้วที่แจกให้คนกรุงเทพฯ คนระยอง ชลบุรี ภูเก็ต แจกเพื่ออะไร?
ถ้ารู้ว่าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการพัฒนาต่ำ ก็แจกแบบเจาะจงกลุ่ม ตามที่แบงก์ชาติ หรือสภาพัฒน์เคยเสนอสิครับ
แค่แสนล้านก็เอาอยู่
จะเหมารวมทั้งประเทศทำไม
ยิ่งพูดลิ้นยิ่งพันคอ
ไปเสียเถอะครับ อย่าอยู่สร้างปัญหาให้ลูกหลานเลย