ผักกาดหอม
เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ…
ช่างสรรหาเรื่องให้ปวดกบาลได้ตลอดจริงๆ
พรรคส้ม เอาอีกแล้ว ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการลบล้างผลพวงรัฐประหารจำนวน ๓ ฉบับต่อประธานรัฐสภา
ถึงอยากให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำรัฐบาล เพราะอยากรู้ว่า ขณะที่เป็นรัฐบาล พรรคก้าวไกลจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเล่นงาน คสช. หรือเปล่า
ที่จริงอยากเห็นมากกว่านี้คือ จะเสนอกฎหมายแก้ ม.๑๑๒ หรือเปล่า
แต่เสียดายที่ก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล
ก้าวไกลในฐานะฝ่ายค้าน ที่ไม่ต้องรับผิดชอบในการบริหารประเทศ จึงสร้างบทบาทตัวเองด้วยการเพิ่มความตึงเครียดทางการเมือง
วานนี้ (๒๕ กรกฎาคม) “ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ” เปิดยุทธการเอาคืน คสช. ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการลบล้างผลพวงรัฐประหารจำนวน ๓ ฉบับ
ร่างที่ ๑ ยกเลิกมาตรา ๒๗๙ ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นมาตราที่ทำให้ประกาศและคำสั่งทุกฉบับของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้า คสช.ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
ให้เหตุผลว่าการยกเลิกมาตรา ๒๗๙ นี้ จะเปิดโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้เสียหายจากประกาศและคำสั่ง คสช. มีโอกาสได้โต้แย้งถึงความชอบด้วยกฎหมายของประกาศและคำสั่งดังกล่าว ในกรณีที่ประกาศและคำสั่งนั้นส่งผลต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
พรรคก้าวไกลจะผลักดันเรื่องการยกเลิกมาตรา ๒๗๙ ของรัฐธรรมนูญ คู่ขนานกับการผลักดันกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อดำเนินการยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.ที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน
ครับ…นี่คือการยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตราสุดท้าย
“ไอติม” คิดดีแล้วหรือยัง!
รู้ถึงความสำคัญของรัฐธรรมนูญมาตราสุดท้ายแค่ไหน
มาตรา ๒๗๙ ในรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ต่อเนื่องมาจากมาตรา ๔๘ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗
มันคือการนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร
พรรคก้าวไกลรู้ดีว่า คสช.เขียนนิรโทษกรรมตนเองรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นประกาศ คำสั่ง และการกระทำของ คสช.ก่อนหน้านี้ และหลังจากการทำรัฐประหาร ให้ถือว่าชอบด้วยกฎหมายทั้งหมด
และไม่สามารถเอาผิดย้อนหลังกับการทำรัฐประหาร
เพื่อความชัดเจน มาตรา ๔๘ ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว บัญญัติไว้ดังนี้…
“…บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ของหัวหน้าและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว หรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือของผู้ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อันได้กระทำไปเพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางรัฐธธรรมนูญ ในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ รวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่างอื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อนหรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง…”
หากสามารถแก้ไขมาตรา ๒๗๙ ได้สำเร็จ การตามเช็กบิล คสช.จะเกิดขึ้น
หรืออาจต้องตีความว่าสามารถเอาผิดย้อนหลังได้หรือไม่
แต่เจตนาของพรรคก้าวไกล ไม่ต้องตีความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมันตรงตัว
เอาคืน คสช.!
ถ้าประชาชนทั้งหมดเห็นด้วยก็ว่าไปครับ
แต่ถ้าไม่ใช่ระวัง ได้ปิดเทอมยาวอีก
ร่างที่ ๒ ที่พรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขคือ การเพิ่มหมวด ๑๖/๑ ในรัฐธรรมนูญ เรื่องการป้องกันและต่อต้านรัฐประหาร มีสาระสำคัญ ๓ ส่วน
๑.เติมพลังให้ประชาชนทุกคนในการต่อต้านการรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชนทั่วไป หรือการกำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่วางแผนยึดอำนาจจากประชาชน
๒.เพิ่มความรับผิดชอบให้ทุกสถาบันทางการเมืองร่วมกันปฏิเสธการรัฐประหาร เช่น ห้ามไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญและศาลทั้งปวงรับรองการรัฐประหาร
และ ๓.ทำให้การทำรัฐประหารมีราคาสำหรับผู้ก่อการ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามไม่ให้มีการนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร การกำหนดให้ประชาชนเป็นผู้เสียหายที่ฟ้องผู้ก่อรัฐประหารฐานกบฏได้ โดยปราศจากอายุความ และการทำให้บทบัญญัติในหมวดการป้องกันรัฐประหารทั้งหมดมีสถานะเป็นกฎหมายจารีตประเพณี ที่มีผลใช้บังคับไปโดยตลอดไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะถูกฉีกหรือไม่
สิ่งแรกที่คณะรัฐประหารทำคือ ฉีกรัฐธรรมนูญ และให้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมีผลบังคับใช้ทันที
บรรดาบทบัญัติต่างๆ ในรัฐธรรมนูญที่ถูกฉีก จึงไม่มีผลบังคับใช้
ไทยเป็นประเทศที่ใช้รัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษร หากถูกฉีกก็สิ้นสภาพไปทั้งฉบับ
ฉะนั้นหากจะสร้างกฎหมายจารีตประเพณี ไม่จำเป็นต้องบัญญัติในรัฐธรรมนูญ
แต่การจะเริ่มให้การทำรัฐประหารเป็นความผิดตามจารีตประเพณีนั้น ไม่ได้เริ่มง่ายๆ
เพราะยังมีประชาชนอีกมากสนับสนุนคณะรัฐประหาร
จะไปโทษประชาชนไม่ได้ครับ เพราะประชาชนเบื่อนักการเมืองคอร์รัปชัน
พวกเกิดมาโกงนั้นมีเยอะ
ก็คล้ายๆ กับที่ประชาชนเบื่อนักการเมืองลายคราม ต้องการนักการเมืองรุ่นใหม่นั่นแหละครับ
แต่ถ้าทำได้ การจัดการกับคณะรัฐประหาร พอมองเห็นทาง
รัฐธรรมนูญหลายๆ ฉบับ มีตัวบทที่เขียนคล้ายๆ กันคือ
“…เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้กระทําการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข…”
แต่มีวิธีที่ง่ายกว่านี้ และต้องเริ่มที่ตัวนักการเมืองเอง ไม่ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ
จะเลิกโกงกันกี่โมง!
ถ้าเลิกโกงได้ ทหารหน้าไหนจะกล้าทำรัฐประหาร ขืนทำก็โดนสหบาทา
แถมวิธีนี้ยังสามารถทำให้การทำรัฐประหารเป็นความผิดตามจารีตประเพณีได้ด้วย เพราะประชาชนทุกภาคส่วนจะเห็นชอบ
ร่างที่ ๓ คือการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี
“ไอติม” อย่าเห็นขี้มูกเป็นเต้าส่วนเลยครับ
๘ ปี รัฐบาลลุงตู่ บริหารตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ฝากผลงานอะไรเอาไว้บ้าง ถ้ามองอย่างไม่อคติ เทียบกับหลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมา เปลี่ยนรัฐบาลทีเปลี่ยนนโยบายที แล้วก็บ่นกันว่าไม่ต่อเนื่อง
จะเอาแบบไหน
ยังมีเรื่องอื่นๆ ให้ “ไอติม” ทำอีกเยอะครับ ตรวจสอบรัฐบาลให้หนักหน่วงกว่านี้อีกหน่อยจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า
หลุดจากแก้ ม.๑๑๒ จะมาเล่นงาน คสช.กลับ มันก็มีแต่รบกันไม่จบ
หรือจะเอาแบบนี้
