ผักกาดหอม
ปากกล้า ขาสั่น
คดียุบพรรคก้าวไกล คงใช้เวลาไม่นานนัก เพราะแทบไม่ต้องไต่สวนเพิ่มเติม
รวมทั้งคำวินิจฉัย “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” ในคดีพรรคก้าวไกล และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แก้ (ยกเลิก) ม.๑๑๒ ก็มีความชัดเจนเพียงพอแล้ว
แต่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปเมื่อวันที่ ๓ เมษายน ศาลให้เวลาพรรคก้าวไกล ๑๕ วัน ในการส่งคำชี้แจง แกนนำพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็น “ชัยธวัช ตุลาธน” “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” พยายามจะถ่วงเวลา
ขอขยายการยื่นเอกสารออกไป
อ้างว่ามีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ
ฟังสุ้มเสียงแล้วพรรคก้าวไกลต้องการให้คดีนี้รุงรังมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
พยายามหาข้อโต้แย้ง
อ้างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนเพิ่มเติม ด้วยเหตุผลมีข้อเท็จจริงเพิ่ม
ก็ว่ากันไปตามกระบวนการครับ
แต่…ปัญหามันอยู่ที่คำพูดของ “ชัยธวัช ตุลาธน”
“…ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่มีบทบัญญัติใด หรือมาตราใด ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคการเมือง
แต่อำนาจในการยุบไปปรากฏอยู่ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งเป็นกฎหมายลำดับรองและต่ำกว่า
ดังนั้นเรายิ่งเห็นว่ารัฐธรรมนูญให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญแค่สั่งให้ยุติการกระทำ ที่ศาลฯ เห็นว่าเป็นการล้มล้างการปกครองแค่นั้น
ดังนั้นจุดมุ่งหมายและลำดับศักดิ์ของกฎหมายก็ไม่เท่ากัน แต่โทษที่กำหนดในกฎหมายต่ำกว่า กลับร้ายแรงกว่า ต้องเป็นกรณีจำเพาะมากเท่านั้น จึงจะลงโทษร้ายแรงขนาดนี้ต้องได้สัดส่วน…”
ไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลจะเอาประเด็นนี้ไปสู้ในศาลหรือไม่?
จริงตามที่ “ชัยธวัช ตุลาธน” พูดครับ
มาตรา ๔๙ บัญญัติว่า…
บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้
ผู้ใดทราบว่ามีการกระทําตามวรรคหนึ่ง ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทําดังกล่าวได้
ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคําสั่งไม่รับดําเนินการตามที่ร้องขอ หรือไม่ดําเนินการภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับคําร้องขอ ผู้ร้องขอจะยื่นคําร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้
ไม่น่าเชื่อว่าคนระดับผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถมยังเป็นทนายความ จะอ่านกฎหมายไม่แตก หนำซ้ำยังเอามากล่าวอ้างต่อสาธารณะเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง
รัฐธรรมนูญมาตรานี้ ระบุถึง “บุคคล” ไม่ใช่ “พรรคการเมือง”
และยังอยู่ในหมวด ๓ ว่าด้วย สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย
ไม่ใช่ส่วนที่เกี่ยวข้องพรรคการเมืองแต่อย่างใด
ขณะที่พรรคการเมืองถูกแยกย่อยไปใน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
แน่นอนครับกฎหมายมีลำดับชั้น
แต่เรื่องบทลงโทษหนักเบากว่ากฎหมายลูก เป็นความคิดที่ไร้สาระ
เป็นตรรกะนรก
หากจะให้รัฐธรรมนูญ เป็นอย่างที่ “ชัยธวัช ตุลาธน” ต้องการ ก็คงต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความยาวพอๆ หรือมากกว่าประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมกัน
เพราะต้องกำหนดโทษรุงรังไปหมด เพื่อไม่ให้บทลงโทษไปอยู่ในกฎหมายลูก
รัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๐ กำหนดหน้าที่และอำนาจศาลรัฐธรรมนูญดังต่อไปนี้
(๑) พิจารณาวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายหรือร่างกฎหมาย
(๒) พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอํานาจของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระ
(๓) หน้าที่และอํานาจอื่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
นี่คือกรอบกว้างๆ
ย้อนกลับไปดูคำร้องที่ กกต.ยื่นไปยังศาลรัฐธรรมนูญกันอีกครั้ง
เป็นคำร้องที่นายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๙๒ วรรคหนึ่ง (๑) และ (๒)
ซึ่งข้อเท็จจริง ปรากฏตามคําวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๓/๒๕๖๗ จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้อง และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดํารงตําแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้ง
คำร้องก็ชัดเจนว่าร้องตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
และศาลรัฐธรรมนูญก็รับคำร้องไว้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗ (๓) คดีเกี่ยวกับการร้องขอให้เลิกการกระทำล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ทนายใหญ่อย่าง “ชัยธวัช” เข้าใจหรือเปล่าว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (organic law) คืออะไร
เป็นข้อมูลพื้นฐานที่เด็กนักเรียนน่าจะค้นหาเพื่อเอาไปทำการบ้านกันบ่อยๆ
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ คือกฎหมายที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญที่ทำหน้าที่อธิบายขยายความและกำหนดรายละเอียดสาระสำคัญของเรื่องต่างๆ ในรัฐธรรมนูญ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนและชัดเจนยิ่งขึ้น
ถ้า “ชัยธวัช ตุลาธน” บอกว่าไม่รู้ เสียสุนัขเลยนะครับ
แล้วอย่าสะเออะเอาประเด็นนี้ไปสู้คดียุบพรรคเด็ดขาด คิดถึงหน้าด้อมส้มบ้าง ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ตรงไหน
นึกไม่ออกเลยว่าจะมีอะไรมาหักล้างคำวินิจฉัย “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” ได้บ้าง
ฉะนั้นเตรียมไว้เลย มีแค่ ๒ ทางเลือก
หาพรรคใหม่มาสวม
หรือแยกย้ายไปพรรคอื่น
เพราะก้าวไกลจะเป็นเพียงพรรคในอดีตที่ถูกยุบ จากพฤติการณ์กระทําการล้มล้างการปกครอง