ยุบพรรคไม่เคยแก้ปัญหาทางการเมือง แต่ยิ่งทำให้สังคมไทยถลำลึกสู่วงจรความขัดแย้ง 

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคก้าวไกล จากกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ระบุว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง

ต่อกรณีดังกล่าว นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่รัฐสภาวันนี้ว่า พรรคก้าวไกลได้เตรียมการต่อสู้คดีทางกฎหมายไว้แล้ว และจะทำงานทุกวันให้ดีที่สุด แม้ต้องยอมรับว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 มกราคมอาจจะทำให้พรรคก้าวไกลต่อสู้ได้ยาก แต่เราจะต่อสู้อย่างเต็มที่ว่ามันไม่มีเหตุผลเพียงพออย่างไรที่ถึงขั้นจะต้องยุบพรรคก้าวไกล

โดยปกติศาลจะต้องเปิดให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องคือพรรคก้าวไกลได้แก้ข้อกล่าวหา เสนอทั้งข้อเท็จจริงและพยานผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ แต่คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญจะอยู่ที่ดุลพินิจของศาล เมื่อใดที่ศาลเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้วก็อาจจะยุติการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ เราจึงต้องต่อสู้ให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงให้มากที่สุด

นายชัยธวัชย้ำว่า การยุบพรรคการเมืองไม่ใช่บทเรียนของอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล แต่น่าจะเป็นบทเรียนสำคัญของสังคมไทยและผู้มีอำนาจมากกว่า ว่าการยุบพรรคไม่เคยนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมือง ซ้ำร้ายยังอาจจะนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมืองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สวนทางกับความคาดหวังของประชาชนหลังจากที่มีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการรัฐประหารแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น การยุบพรรคการเมืองด้วยการอ้างเหตุผลเรื่องการล้มล้างการปกครอง การเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ในด้านกลับอาจจะเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สังคมไทยรักเสียเองก็ได้ เพราะยิ่งเป็นการดึงประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น เรื่องนี้ก็ต้องระมัดระวังเช่นกัน

“ผมเป็นห่วงสังคมไทย ลองจินตนาการถึงสังคมไทยหลังจากนี้ เรากำลังเข้าสู่วังวนแบบเดิม ๆ ที่หาทางออกไม่เจอ และอาจจะยิ่งถลำลึกต่อไปมากขึ้น การยุบพรรคการเมืองจากเหตุที่กล่าวหาว่าล้มล้างการปกครองและเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แต่ประการใด”

สุดท้ายแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะของพรรคก้าวไกล แต่เป็นปัญหาของวิธีการทางการเมืองแบบเดิมซึ่งควรจะหมดไปได้แล้ว รวมถึงการคิดว่าจะเอาชนะคะคานกันทางการเมืองด้วยการยุบพรรคการเมือง ซึ่งควรจะเป็นบทเรียนของสังคมไทยได้แล้วว่ามันไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่จะแย่ลง

Written By
More from pp
“เศรษฐพงค์” กางแผนระบบไอทีรัฐสภา ชี้ ต้องบูรณาการ Physical-Information ให้เข้ากับยุคมีความปลอดภัย แนะ เตรียมประยุกต์ใช้ Iot- AI ช่วยงาน
วันที่ 8 มิ.ย.63 พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กทธ.ดีอีเอส) กล่าวว่า...
Read More
0 replies on “ยุบพรรคไม่เคยแก้ปัญหาทางการเมือง แต่ยิ่งทำให้สังคมไทยถลำลึกสู่วงจรความขัดแย้ง ”