‘ทักษิณ’ โคม่า – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

มัดแน่นไปอีกขด!

วานนี้ (๑๑ มกราคม) ปรากฏหลักฐานอย่างเป็นทางการอีกครั้งจากกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงเรื่อง นักโทษเทวดา

…ขณะนี้นายทักษิณได้ออกไปรับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลตำรวจเกินระยะเวลา ๑๒๐ วัน

โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการประสานไปยังโรงพยาบาลตำรวจเพื่อรับทราบถึงอาการป่วยของนายทักษิณ

ซึ่งแพทย์ได้รายงานอาการเจ็บป่วยในหลายประการที่ต้องเฝ้าระวัง

โดยแจ้งความเห็นว่าผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทาง และต้องดูแลอย่างใกล้ชิดถึงอาการป่วย เพื่อให้พ้นจากสภาวะอันตรายแก่ชีวิต

เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จึงได้รายงานมายังกรมราชทัณฑ์เพื่อดำเนินการพิจารณา ตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.๒๕๖๓ ที่ระบุไว้ว่า…

กรณีผู้ต้องขังต้องพักรักษาตัวที่สถานที่รักษาเป็นเวลานาน ให้ผู้บัญชาเรือนจำดำเนินการ ดังนี้ กรณีการพักรักษาตัวเกินกว่า ๑๒๐ วัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาจากความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาที่พิจารณาแล้วมีความเห็นว่ายังต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด

ประกอบกับเอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความครบถ้วนตามกฎหมาย จึงพิจารณาเห็นชอบ เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๗ ให้นายทักษิณอยู่รักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง

และหากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที

โดยกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎกระทรวง จึงรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.๒๕๖๓

โดยกรมราชทัณฑ์ยังคงยึดหลักการสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังพึงได้รับตามมาตรฐานสากล รวมถึงเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยและตามจรรยาบรรณของแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูลด้วย

กรมราชทัณฑ์จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยออกสู่สาธารณชนได้ ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๐

ตลอดจนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๓ และข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกร พ.ศ.๒๕๔๙ ข้อ ๒๗ ซึ่งแพทย์ต้องปฏิบัติตาม….

ครับ…ไม่ทราบ “หมอใหญ่” โรงพยาบาลตำรวจท่านอ่านแถลงการณ์นี้ทุกตัวอักษรแล้วหรือยัง

ท่านต้องรับผิดชอบเต็มๆ หากเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่เล่ากันมา

ส่วนกรมราชทัณฑ์คงจะรอด เพราะโยนใส่ “หมอใหญ่” ไปหมดแล้ว

ในแถลงการณ์สรุปได้ว่า ทุกการตัดสินใจของกรมราชทัณฑ์มาจากความเห็นของ “หมอใหญ่”

แต่ก็เอาเป็นว่า ณ ขณะนี้ “นักโทษชายทักษิณ” ยัง “โคม่า” อยู่

ไม่ได้แช่งนะครับ เพราะหาคำมาอธิบายอาการป่วยต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง หากเกิดภาวะแทรกซ้อนอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

นอกจากคำว่า “โคม่า”

เป็นตายเท่ากัน

ก็คงต้องนอนห้องวีไอพีชั้น ๑๔ รักษาตัวต่อเป็นปี

กฎกระทรวงเองก็ไม่ได้บอกไว้ว่า หลังจากเกิน ๑๒๐ วันแล้วจะยังไงต่อ “หมอใหญ่” ไม่ต้องรายงานกรมราชทัณฑ์แล้ว และกรมราชทัณฑ์ก็ไม่ต้องรายงานรัฐมนตรี

ฉะนั้นจะนอนต่อตลอดชีวิตยังได้ครับ

แต่คงได้เวลาพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

วันนี้ (๑๒ มกราคม) โรงพยาบาลตำรวจยินดีต้อนรับคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้ไปเยี่ยมชม ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการนำตัวผู้ต้องขังที่ ส่งจากราชทัณฑ์มารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

แต่จะต้อนให้ไปห้องประชุมชั้น ๖ อาคารศรียานนท์

ส่วน “นักโทษชายทักษิณ” โน้น…ครับ อยู่ชั้น ๑๔ อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ ๘๘ พรรษา

๒ อาคารนี้ไม่ได้อยู่ติดกัน แต่ถูกคั่นด้วยอาคารเภสัชกรรมและถนนภายใน

กรรมาธิการฯ จะได้ไปตีนบันได อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ ๘๘ พรรษา หรือเปล่า ยังต้องลุ้น

ยิ่งปิด คนยิ่งสงสัย

สงสัยมากก็เดากันมาก ผิดถูกไม่รู้ แต่เสียมากกว่าได้

หากตระกูลชินวัตรเข้าใจธรรมชาติการเมือง ควรใช้กรรมาธิการฯ เป็นเครื่องมือในการลดความร้อนแรงของกระแส “นักโทษเทวดา” ลง

ยอมให้กรรมาธิการฯ เข้าเยี่ยม “นักโทษชายทักษิณ”

แล้วถ่ายรูปแจกจ่ายไปยังสื่อต่างๆ

ปีนี้ “นักโทษชายทักษิณ” อายุ ๗๔ แล้ว ถือว่าเข้าสู่วัยชรา

การมีโรคภัยไข้เจ็บไม่ต้องอาย

มันเป็นธรรมดามนุษย์

ผู้ป่วยโคม่า คนทั่วไปคงนึกภาพออก ต้องมีสายน้ำเกลือ สายอะไรต่อมิอะไรโยงรุงรังไปหมด ต้องมีเครื่องวัดสารพัดจอ

ไม่งั้นไม่โคม่า

หากมีภาพ “นักโทษชายทักษิณ” นอนบนเตียง มีสายมีเครื่องที่ว่าเต็มไปหมด กระแสต่อต้านอภิสิทธิ์ชนจะลดลงอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆ ก็ครึ่งหนึ่ง

อีกครึ่งอาจสงสัยต่อ จัดฉากหรือเปล่า!

เพราะถ้าป่วยจริง ควรแล้ว

ทั้งหมดทั้งมวลสำหรับตัว “นักโทษชายทักษิณ” ไม่ต่างขว้างงูไม่พ้นคอ

จะป่วยจริง หรือป่วยการเมือง จะต้องนอนตากแอร์ในห้องวีไอพีไปอีกนาน

นานกว่าที่วางแผนเอาไว้

ปีนี้ทั้งปี ก็ยังยากที่จะออก เพราะในแถลงการณ์ของกรมราชทัณฑ์นั้น หนักหนาสาหัสเหลือเกิน

คนที่อยู่ภาวะวิกฤตมากว่า ๔ เดือน ใช่ว่าจะกลับมาได้ง่ายๆ

ผู้ป่วยวิกฤต คือผู้ป่วยที่มีความเจ็บป่วยที่รุนแรง ซับซ้อนและคุกคามต่อชีวิตจากการสูญเสียหน้าที่ของอวัยวะสำคัญที่เกิดอย่างเฉียบพลัน และมีการดำเนินโรคที่ไม่แน่นอน ทำให้มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและสูญเสียชีวิตได้ จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลด้วยวิธีการที่ซับซ้อนจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีการใช้เครื่องมือทางการแพทย์หลายชนิดร่วมกัน สำหรับการรักษาและติดตามอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยและเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด

หากพ้นโทษปุ๊บ “ผู้ป่วย” แบบนี้เดินไปปั๊บ เตรียมไว้ครับ

ยกเข่งแน่!

Written By
More from pp
รองโฆษกรัฐบาลแจ้ง รถ-เรือโดยสาร สมัครเป็นผู้ให้บริการ ตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เริ่มให้บริการ 1 ต.ค. 66 เป็นต้นไป
2 สิงหาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานภายใต้กระทรวงคมนาคม ได้แก่
Read More
0 replies on “‘ทักษิณ’ โคม่า – ผักกาดหอม”