ผักกาดหอม
ควันหลงครับ…
วานซืน แม่ทัพภาคที่ ๒ “พล.ท.บุญสิน พาดกลาง” ไปบรรยายพิเศษ เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และคนไทยทุกคน ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เห็นภาพแล้วชื่้นใจครับ
ตอนอยู่ชายแดน “บิ๊กกุ้ง” หน้าตาคร่ำเครียด
พออยู่กับเด็ก หน้าตาผ่อง จนแทบแยกไม่ออก ใครเด็กใครแม่ทัพภาคที่ ๒
ว่าเข้าไปนั่น!
ภาพแม่ทัพ กับเด็กๆ อนาคตของชาติ ดูกลมกลืนแทบไม่มีที่ติ ไม่ใช่ความสวยความหล่ออย่างเดียว แต่สีหน้าแววตา ล้วนมีความรักชาติ รักแผ่นดิน ไม่แพ้กัน
เด็กๆ ได้เห็นของจริง คนจริง เสียงจริง ไม่ใช่นักการเมืองนั่งในห้องแอร์บนหอคอย เอาแต่ปั่นกระแสชังชาติ ชังกองทัพ
ปั่นให้เด็กๆ ตั้งคำถาม มีทหารไว้ทำไม รบกับใครก็แพ้
วันนี้เด็กๆ ได้พบกับความเป็นจริงแล้วว่ามีทหารไว้ทำไม
และมีนักการเมืองชังชาติไว้ทำไม
สิ่งที่ “แม่ทัพกุ้ง” บอกกับเด็กๆ ล้วนมีคุณค่าที่จะต้องพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำอีก
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นห่วง ทรงห่วงใยตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยให้กองงานของท่านได้สอบถามสถานการณ์ แม่ทัพรายงานทุกวัน
เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย ตั้งแต่ประวัติศาสตร์แล้ว พระมหากษัตริย์จะเป็นองค์นำกองทัพ ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้นพี่ๆ ทหารทุกคนสละชีพเพื่อชาติ พร้อมทุกคน และปัจจุบันนี้เราก็ยังอยู่หน้าแนว สถานการณ์จะอย่างไรเราก็พร้อม จะยุติก็ได้ จะรบต่อก็พร้อม”
ถ้าท่านแม่ทัพไม่พูด เราคงไม่รู้ว่า ในหลวง ทรงห่วงใยคนไทยทุกคนแค่ไหน
ต่างจาก “พวกส้ม” ที่พยายามโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ตลอดเวลา
บรรดา สส. อดีต สส. พวกแกนนำพรรคก้าวไกล ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เหน็บแนมเบื้องสูงในสื่อโซเชียลแทบทุกวัน
พวกนี้ยังไม่หยุดหรอกครับ!
บางคนโจมตีกระทบกระเทียบผ่านสถาบันพระมหากษัตริย์ของชาติอื่น ไม่ได้ดูเลยครับว่าตัวเองสร้างคุณประโยชน์อะไรให้ประเทศบ้าง
ขนาดเขารบกันที่ชายแดน ก็ยังตามกระแนะกระแหนกองทัพ พอกระแสตีกลับ ก็อ้างเป็นเรื่องส่วนตัว พรรคไม่เกี่ยว
แต่พอทหารพลาด กระเหี้ยนกระหือรือถามหาคนรับผิดชอบทันที เช่นกรณีพลทหารเครียดจากการสู้รบ ใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านบาดเจ็บ
น่าเห็นใจครับ พลทหารในสมรภูมิตาเมือนธมเกิดภาวะเครียดจากการปฏิบัติหน้าที่ และสุดท้ายปลิดชีพตัวเอง
คนทำงานการเมืองผิดพลาด ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเครียดหรอกครับ เพราะมีความสามารถพิเศษ หาทางไหลไปเรื่อย
จากมีทหารไว้ทำไม รบกับใครก็แพ้ กลายเป็นทหารมีไว้เพื่อปกป้อง ไม่ใช่ปกครอง บรรดาสาวกก็ยกนิ้วให้ ผู้นำในดวงใจ
สิ่งที่ “แม่ทัพกุ้ง” ฝากเด็กๆ มีคุณค่ามากครับ
“…เรื่องการเสพสื่อ หากเป็นเรื่องแตกความสามัคคีใส่ร้าย ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน ให้เกิดปัญหา ขอให้คิดก่อนว่าจริงหรือไม่ อย่าไปเชื่อง่ายๆ ต้องมีสติ หาข้อมูลจากหน่วยงานเกี่ยวข้องได้
และขอให้ยึดมั่น ในห้วงเวลาที่ประเทศชาติเป็นอย่างนี้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป อยากให้คนไทย กลับมาดูผืนธงชาติไทย จำให้ดีว่า สิ่งเหล่านี้จะต้องอยู่กับแผ่นดินไทยชั่วลูกชั่วหลาน เราจะต้องช่วยกันรักษาสีธงชาติให้ครบ
สีแดง คือ ชาติ เสียสละเลือดบรรพบุรุษรักษาแผ่นดิน สีขาว คือ ศาสนา ยึดถือยึดมั่นในความดี และสีน้ำเงิน คือ พระมหากษัตริย์ เป็นองค์ที่ก่อบ้านสร้างเมือง ตั้งแต่โบราณเป็นจอมทัพที่นำคนไทยต่อสู้ จนมีแผ่นดินอยู่ทุกวันนี้…”
การจะให้เด็กๆ ได้เห็นความสำคัญของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะต้องให้เด็กได้เห็นได้สัมผัสกับความจริงที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
ไม่ใช่การล้างสมอง
แต่ให้ซึมซับเหตุการณ์
ความขัดแย้งแนวชายแดนไทย-เขมร ได้สร้างความเสียหายแก่ประชาชนทั้ง ๒ ประเทศอย่างมหาศาล
ความสัมพันธ์ของทั้ง ๒ ประเทศจะกลับคืนมาเหมือนเดิมได้หรือเปล่า ณ ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะมันบาดลึกจนต้องใช้เวลาเยียวยานานพอควร
จึงเป็นหน้าที่ของเยาวชนทุกคน หันกลับมาดูผืนธงชาติไทย ตระหนักในหน้าที่ ในฐานะพลเมืองไทย ที่ต้องรับผิดชอบต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
อีก ๕ ปี ๑๐ ปีข้างหน้า ความขัดแย้งในโลกจะขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งสงครามเศรษฐกิจ
สงครามที่ใช้อาวุธฆ่าฟันกัน
ถึงวันนั้นสิ่งที่นักการเมืองขายฝันสังคมในอุดมคติมันไม่มีจริง เพราะชาติมหาอำนาจต่างเอารัดเอาเปรียบชาติที่เล็กกว่า
“ไม่มีคำว่าเท่าเทียม มีแต่ใครให้ประโยชน์แก่ใครได้มากกว่า”
ความขัดแย้งไทย-เขมร ก็เริ่มปรากฏชัดว่า ชาติมหาอำนาจต่างเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ โดยเฉพาะอเมริกา ที่เข้ามาหยุดการขยายอิทธิพลของจีน
ภูมิภาคนี้อาจล่มสลายเช่นตะวันออกกลางได้เช่นกัน หากมีผู้นำประเทศจำพวกโลกสวย นั่งอยู่ในห้องแอร์ ไม่ออกไปสัมผัสความจริง
เยาวชนคืออนาคตของชาติ วันข้างหน้าคนเหล่านี้คือผู้รับผิดชอบประเทศ จำต้องอยู่กับข้อเท็จจริง ไม่ใช่การปั่นกระแสล้างสมองของพรรคการเมือง
การเสียสละเลือดเนื้อของบรรพบุรุษคือเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่้องอนุรักษนิยม ไม่ใช่เรื่องการปลุกให้รักชาติรักแผ่นดินอย่างไร้เหตุผล
แต่เป็นการปลุกให้ทำหน้าที่เพื่อชาติ เพื่อส่วนรวม
พรรคการเมือง นักการเมือง มาแล้วก็ไป
และส่วนใหญ่ไม่รับผิดชอบในความผิดพลาดที่ก่อขึ้นกับประเทศ
แต่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องดำรงอยู่
นั่นคือสิ่งที่ “แม่ทัพกุ้ง” บอกข้อเท็จจริงให้เยาวชนฟัง.
