ภูมิธรรม ประชุม ก.น.บ. เห็นชอบร่างประกาศ ก.น.บ. เรื่อง การจัดตั้งภาค กลุ่มจังหวัด และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างแท้จริง

20 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ครั้งที่ 2/2566

โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประชุม ก.น.บ. ในวันนี้ว่าเป็นการประชุมครั้งแรกของรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่ง ก.น.บ. เป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565 เพื่อทำหน้าที่ในการกำกับให้การบริหารงานจังหวัด กลุ่มจังหวัดและภาคเกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างแท้จริง

ให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนา รวมทั้งอำนวยความสะดวกและตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยการประชุม ก.น.บ. วันนี้เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2568

สำหรับที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบในประเด็นสำคัญ ดังนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างประกาศ ก.น.บ. เรื่อง การจัดตั้งภาค กลุ่มจังหวัด และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด โดยอาศัยอำนาจ ก.น.บ. ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง และ มาตรา 36 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565

เสนอให้จัดตั้งภาค จำนวน 6 ภาค กลุ่มจังหวัด จำนวน 18 กลุ่มจังหวัด และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ จัดทำร่างประกาศ ก.น.บ. เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมแจ้งเวียนส่วนราชการ จังหวัด กลุ่มจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบต่อไป

รวมทั้งที่ประชุมเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ภายใต้กลไก ก.น.บ. จำนวน 7 คณะ ประกอบด้วย (1) คณะอนุกรรมการประจำภาค จำนวน 6 คณะ (6 ภาค) โดยมอบหมายให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นประธานอนุกรรมการประจำภาคเหนือ นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานอนุกรรมการประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธานอนุกรรมการประจำภาคกลาง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นประธานอนุกรรมการประจำภาคตะวันออก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธานอนุกรรมการประจำภาคใต้ และพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นประธานอนุกรรมการประจำภาคใต้ชายแดน

มีหน้าที่และอำนาจหลักในการวางแนวทางปฏิบัติและอำนวยการให้การบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการในภาคเป็นไปตามนโยบาย หลักการ และวิธีการตามที่ ก.น.บ. กำหนดจัดทำเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค และพิจารณากลั่นกรองเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดยี่สิบปี

วัตถุประสงค์และทิศทางการพัฒนาในอนาคตของกลุ่มจังหวัด แผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด กลุ่มจังหวัด ข้อเสนอโครงการของส่วนราชการที่สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค รวมทั้งบูรณาการแผนงานโครงการของส่วนราชการและแผนพัฒนาระดับพื้นที่ก่อนนำเสนอ ก.น.บ. และ

(2) คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ โดยมอบหมายให้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นประธานอนุกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจหลักในการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการต่าง ๆ อาทิ จัดทำเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค และพิจารณากลั่นกรองเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดยี่สิบปี

วัตถุประสงค์และทิศทางการพัฒนาในอนาคตของกลุ่มจังหวัด แผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด กลุ่มจังหวัด ข้อเสนอโครงการของส่วนราชการที่สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค การประสานแผนและการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่กลุ่มจังหวัดหรือจังหวัดต้องร่วมดำเนินการ

รวมถึงวิธีการประเมินผลตามแผนและข้อเสนอโครงการของส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อเสนอ ก.น.บ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 7 คณะ และนำกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.น.บ. เพื่อพิจารณาลงนาม ก่อนแจ้งเวียนคณะอนุกรรมการดังกล่าว เพื่อทราบต่อไป

Written By
More from pp
“ชัยวุฒิ” ฟังเสียงเด็กใต้ ผลักดันกฎหมายรับรอง บุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกต้อง
จังหวัดยะลา – สมาคมสื่อ MEDIA ASSOCIATION FOR SOCIETY OFFICE ร่วมกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการบุหรี่ไฟฟ้ากับอนาคตของประเทศ
Read More
0 replies on “ภูมิธรรม ประชุม ก.น.บ. เห็นชอบร่างประกาศ ก.น.บ. เรื่อง การจัดตั้งภาค กลุ่มจังหวัด และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างแท้จริง”