รัฐบาล “ในรอยบาป” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

เห็นตัวเลข ๒๕๒-๒๕๓ เสียงของรัฐบาลในสภาเมื่อวานแล้ว ก็ต้องบอกว่า

เตรียม “จองศาลา” เห้อะ!

นี่ยังดีที่เป็นการโหวตขอถอนร่างพรบ.กาสิโนของรัฐบาลเอง เสียงพรรคร่วมจึงพารอด

ขนาดพารอด ก็ยังฉิวเฉียดยิ่งกว่าเฉียดฉิว!

ถ้าเป็นการโหวตให้ผ่านละก็ “พรรคประชาชาติ” ของประธานวันนอร์ ประกาศแล้ว “การพนันผิดหลักศาสนา” ๙ สส.ของพรรค ของดออกเสียง

แบบนั้นละก็ รัฐบาล “ขี้ทูต-กุฎฐัง” ชักแหงกๆ ทันที!

ดูการประชุมสภาเมื่อวาน (๘ ก.ค.๖๘) พอประเมินแนวรบด้านตะวันออกฉียงเหนือได้แล้วกระมังว่า

“ฝ่ายค้าน” แทนที่พรรคประชาชนจะนำปะทะฝ่ายรัฐบาล แต่กลายเป็นว่า “พรรคภูมิใจไทย” ของนายอนุทิน เป็นกองหน้า พรรคประชาชนกลายเป็นกองหลัง

แค่ยกแรกยัง “เลือดเดือด” ขนาดนี้ เพื่อไทยกับภูมิใจไทยเชือดเฉือนกันจากสภาถึงสนามเลือกตั้ง ขนาดนั้นเลย

ฉะนั้น ศึกสภาในรอบต่อๆ ไป รับประกัน “ไม่มัน…คืนตั๋ว”!

ในขณะที่ซีกฝ่ายค้านคึกเป็นม้าดีดคอก แต่ซีกรัฐบาล โหวตแต่ละครั้ง เหมือนต้อนควายเข้าคอก ประธานสภา “กดออด” เป็น ๑๐-๒๐ นาที ค่อยลากห….มากดบัตร

แล้วมันจะอยู่ได้ไง…รัฐบาล “ซังกะตาย” แบบนี้!?

พูดตรงๆ นะ เห็นกระบวนทัพ “ฝ่ายรัฐบาล” แล้ว อาการมันฟ้อง จะลากไปถึงสิงหา.-กันยา.หรือเปล่า ก็ยังไม่แน่ใจ

ในสภาว่าร้อนเจียวไข่สุกแล้ว ยังสู้นอกสภาไม่ได้ ร้อนชนิดไข่ไหม้คาหม้อ เมื่อ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าภูมิใจไทยโพสต์กลางดึก ส่งแรงเขย่าตอนเช้าระดับ ๕ ริกเตอร์

………………………………………..

Anutin Charnvirakul

พรรคภูมิใจไทยยินดีและพร้อมสนับสนุนให้มีการถอนญัตติ การนำเสนอร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือร่างกฎหมายกาสิโน ออกจากวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้

หากรัฐบาลยืนยันว่าจะยกเลิกนโยบายนี้และไม่นำกลับเข้าสู่การพิจารณาอีกต่อไป

นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร เป็นสิ่งที่ถูกอ้างว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ให้ความร่วมมือกับพรรคแกนนำรัฐบาล

และเป็นหนึ่งในสารตั้งต้นที่มีความคิดจะกดดันให้พรรคภูมิใจไทยต้องออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ทั้งที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าไม่พร้อมที่จะให้การสนับสนุนร่างกฏหมายนี้ เพียงแต่ไม่พูดออกมา

เพราะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้อย่างชัดเจนแล้ว

จึงพร้อมใจกันให้พรรคภูมิใจไทยรับบทเป็นผู้ร้ายต่อพรรคแกนนำรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว

จนกระทั่งถึงวันที่มีความพยายามจะพิจารณากฎหมายฉบับนี้ในสมัยประชุมสภาที่แล้ว

พรรคร่วมรัฐบาลแทบทุกพรรคก็ได้แสดงท่าทีที่ไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้

ถึงขั้นที่มีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งออกแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจนต่อสาธารณชน

โชคดีที่นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจชะลอการนำเสนอกฎหมายในวันนั้น และได้ขอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปอีกสมัยประชุมหนึ่ง

ถึงแม้ว่าวันนี้รัฐบาลจะมีการเสนอให้ถอนญัตตินี้ออกไป แต่ก็ถือว่ามันสายไปเสียแล้ว

การดำเนินนโยบายนี้มาอย่างต่อเนื่องได้สร้างความเสียหายอย่างยับเยินแก่ภาคการท่องเที่ยวของไทยอย่างรุนแรงที่สุดจนไม่อาจเยียวยาได้อีก

รัฐบาลทราบเป็นอย่างดีว่า “จีนมีท่าทีไม่เห็นด้วย” ที่ทางการไทยจะผ่านกฎหมายให้มีการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร พร้อมกับอนุญาตให้มีการเล่น“การพนัน”ได้

และได้มีการพูดตอกย้ำถึง“สามครั้ง”ในที่ประชุมระดับผู้นำของทั้งสองประเทศว่า

“ขอให้ยกเลิกนโยบายนี้เสีย”

มิฉะนั้น รัฐบาลจีนมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการต่างๆที่จะทำให้คนจีนและกิจการต่างๆของจีนปรับท่าทีต่อการท่องเที่ยว

รวมไปถึงท่าทีต่อการค้าและการลงทุนกับไทยให้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

นี่คือการหารือในระดับผู้นำประเทศทั้งสอง

คือ “ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง” ของจีนและ “นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร” ซึ่งผมได้ร่วมประชุมอยู่ด้วย

และได้ “จดบันทึก” การประชุมในประเด็นนี้อย่างละเอียด ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ซึ่งจะต้องมีความเกี่ยวข้องเป็นอันมากต่อการดำเนินนโยบายนี้

แต่ท่าทีของรัฐบาลไทยออกไปในทาง “เมินเฉย” และไม่ให้ความสำคัญต่อ “คำเตือน” จากผู้นำของจีนในวันนั้น

และยังดำเนินการผลักดันเร่งรัดให้ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (กาสิโน) ได้รับการบรรจุอยู่ในวาระแรกของสมัยประชุมสภานี้

ผลพวงอันเลวร้ายที่ได้เกิดขึ้นมาจนถึงบัดนี้ก็คือ การหายไปของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนกว่าร้อยละ 90

สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย

…………….ฯลฯ…………….

ช่วงนี้ รัฐบาลดำเนินการผิดพลาดหลายเรื่อง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่ประมาณค่าความเสียหายไม่ได้

ทั้งเรื่องความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน

การเปลี่ยนนโยบายแจกเงินประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

และล่าสุด การยืนยันของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเรื่องภาษี ดังนั้น วันนี้ ขอรัฐบาลอย่าทำผิดพลาดอีกเลย

อย่านึกถึงกลุ่มทุนเพียงไม่กี่กลุ่มแล้วแลกด้วยความเสียหายย่อยยับของพี่น้องประชาชนที่เขาเคยได้รับรายได้เลี้ยงชีพจากนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมหาศาล

ก่อนที่จะมีคำว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” ซึ่งแฝงด้วยบ่อนการพนันหรือ “กาสิโน” มาทำลายชีวิตและธุรกิจของพวกเขาโดยสิ้นเชิง

รัฐบาลมีหน้าที่สร้างความมั่นคงสร้างรายได้ให้กับประชาชนของประเทศ

ไม่ใช่ให้กับกลุ่มทุนซึ่งมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของเรา

รัฐบาลต้องไม่ผลักดันนโยบายที่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศและต่อคู่ค้าที่มีสถานะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอีกด้วย

เราควรต้องให้ความสำคัญต่อความเห็นและท่าทีของประเทศที่มีทัศนคติที่ดีต่อเรา

และยังมีการสานต่อสายสัมพันธ์อันดี จนมีคำกล่าวว่า “จีนและไทยมิใช่อื่นไกล เป็นพี่น้องกัน……ฯลฯ…..”

ถึงแม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะอยู่ในซีกฝ่ายค้านในวันนี้ แต่ผมในฐานะ “หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย” ที่ยืนยันเสมอว่า

“พรรคพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายรัฐบาลหากนโยบายนั้นเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน”

วันนี้ขอให้ “พรรคภูมิใจไทย” ได้สนับสนุนการถอนญัตติกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรหรือ Entertainment Complex

และได้ยินการประกาศ “ยกเลิกนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร” ของรัฐบาลชุดนี้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วยเถิดครับ

“พรรคภูมิใจไทย” พร้อมยกมือเห็นด้วย

และเชื่อว่าสิ่งที่เป็นมงคลก็จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลและประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราในที่สุด

………………………………….

แล้ว “นายกฯหมื่นล้าน” ว่าไง ต่อประเด็นที่ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” เตือนเรื่อง “ไม่ควรทำกาสิโน” ถึง ๓ ครั้ง?

เธอโต้นายอนุทินว่า….

“…..เราเองก็รับฟัง และอธิบายให้ฟังว่าเอนเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จะมีกาสิโนแค่ประมาณ ๑๐% และเราก็เห็นว่าทาง สิงคโปร์และมาเก๊า ทำเอนเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์แล้วประสบความสำเร็จ

โดยมองว่าหากทุกประเทศที่ใกล้กันมีเอนเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์เหมือนกันก็จะเป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว

แต่การที่เอามาเล่าอีกรูปแบบหนึ่งก็มีการใส่สีตีไข่ แต่จริงๆ แล้ว เป็นเพียงคำแนะนำของจีน ซึ่งเราก็พร้อมรับฟัง”

ประเด็น “ประธานาธิบดีจีน” เตือนไทยถึง ๓ ครั้งว่า “หากเดินหน้านโยบายจะกระทบกับนักท่องเที่ยวจีน”

ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปกว่า ๙๐% นั้น

“นายกฯ หมื่นล้าน” เลี่ยงตอบ ถามกลับว่า “เกิดขึ้นแล้วใช่หรือไม่ที่นักท่องเที่ยวหายไป ๙๐%”

“ท่านอดีต มท.๑ ออกไปได้ไม่นาน ลืมซะแล้ว เหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางมาเที่ยวไทย เป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย และเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยอย่างไร…….”

ในประเด็นหากไทยไม่ยอมถอยนโยบายเอนเทอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ จีนจะปรับมาตรการเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในไทยนั้น เธอแก้ต่างว่า

“นายสี จิ้นผิง พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนที่เราจะอธิบายว่าไม่ได้สนับสนุนกาสิโน หากประเทศไหนมีกาสิโน ก็จะดูว่านักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้าไปประเทศนั้น จะเป็นอย่างไร

ไม่ได้บอกว่าจะมีการปรับมาตรการ ซึ่งเราได้มีการถามกลับไปว่า “มีข้อแนะนำหรือข้อกำหนดอย่างไรหรือไม่?”

……………….ฯลฯ…………

เมื่อ สี จิ้นผิง พูดเรื่องนี้ เราก็อธิบายต่อว่า เราจะทำเอ็นเทอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ เหมือนที่มาเก๊าและสิงคโปร์ทำ

หากทำสำเร็จ ก็จะมีการจ้างงานเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นขั้นตอนของการพูดคุยกัน แต่เมื่อนำมาเขียนแบบนี้ใส่สีเข้าไป ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่และการต่างประเทศก็มีบันทึกอยู่”

………………………………..

เอาละ….เรื่องโลก พอเป็นหนังตัวอย่าง

วันนี้ เป็นวัน “อาสาฬหบูชา” ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ก่อนเข้าพรรษา ๑ วัน ตั้งจิตให้ตรง อย่าซัดส่าย คิดแต่ทางกุศล ทำใจให้ปลอดโปร่ง สบายๆ

อาสาฬหบูชา เป็นวันที่ “พระพุทธองค์” ทรงแสดงธรรมเป็นครั้งแรก “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” ว่าด้วยอริยสัจ ๔ แก่ปัญจวัคคีย์

คือเรื่อง ทุกข์,…เหตุทำให้ทุกข์เกิด,…การดับทุกข์ที่เกิด และหนทางนำไปสู่วิธีทำให้ทุกข์ดับ คือ มรรค มีองค์ ๘ ประการ

“สัพเพ สัตตา” สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

“อะเวรา โหนตุ” จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย

“อัพยาปัชฌา โหนตุ” จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

“อะนีฆา โหนตุ” จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย”

สาธุ..สาธุ..สาธุ!

เปลว สีเงิน

๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
“ถึงฉุกเฉินพวกโคก็ยังฉุน”
ใครรู้ตัวว่า…… “บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ” ในภาวะบ้านเมืองต้องการความเป็นเอกภาพขณะนี้ งดไอจี ซะบ้าง ก็จะสวยนะ! เอามือถือไปเปิดเว็บไซต์ลงทะเบียนรับค่าครองชีพช่วงตกงานเดือนละ ๕,๐๐๐ จากรัฐบาล จะเข้าท่ากว่า
Read More
0 replies on “รัฐบาล “ในรอยบาป” #เปลวสีเงิน”